ขายบ๊ะจ่าง “คนแซ่ล้อ” ยกระดับสินค้าชุมชนสู่ของฝากประจำจังหวัด
ขายบ๊ะจ่าง “คนแซ่ล้อ” ยกระดับสินค้าชุมชนสู่ของฝากประจำจังหวัด

ขายบ๊ะจ่าง “คนแซ่ล้อ” ยกระดับสินค้าชุมชนสู่ของฝากประจำจังหวัด

ขายบ๊ะจ่าง “คนแซ่ล้อ” ยกระดับสินค้าชุมชนสู่ของฝากประจำจังหวัด
รูปภาพจาก : tranews.com

ขายบ๊ะจ่าง “คนแซ่ล้อ” ยกระดับสินค้าชุมชนสู่ของฝากประจำจังหวัด

ขายบ๊ะจ่าง เป็นอีกหนึ่งสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ถ้าหากพูดถึงบ๊ะจ่างคาดว่าใครหลายคนคงจะชื่นชอบไม่น้อย และเป็นอาหารที่สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการหลายราย มาวันนี้เราก็มีหนึ่งแบรนด์มาฝากที่เดิมทีมีการทำขายเฉพาะคนในชุมชนเท่านั้น จนกระทั่งถูกยกระดับให้กลายเป็นของฝากประจำจังหวัด ทั้งยังผ่านการพัฒนาสินค้าให้สามารถเก็บรักษาได้ยาวนานถึง 7 วัน

ขายบ๊ะจ่าง เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมนำไปสู่การทำรายได้ วันนี้เราก็มีหนึ่งแบรนด์มาฝากภายใต้ชื่อ “คนแซ่ล้อ” ก่อตั้งโดย “คุณกิตติ์ธเนศ พุฒพีระวิทย์” ที่ดำรงอยู่ในตำแหน่งประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านหนองเสือ ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ที่มาที่ไปของการมาทำอาชีพขายบ๊ะจ่างนั้นคือครอบครัวของคุณกิตติ์ธเนศเป็นชาวจีน ที่อพยพมาจากเมืองซีเต๊กอุ๊ย ประเทศจีน และมาตั้งรกรากในไทย ซึ่งได้ทำการขายบ๊ะจ่างหาเลี้ยงชีพ โดยสูตรบ๊ะจ่างเป็นสูตรที่คุณแม่ของคุณกิตติ์ธเนศนำติดตัวมาจากเมืองจีน ทำให้บ๊ะจ่างที่ทำออกมามีรสชาติแบบต้นตำรับ

ขายบ๊ะจ่าง “คนแซ่ล้อ” ยกระดับสินค้าชุมชนสู่ของฝากประจำจังหวัด
รูปภาพจาก : http://www.twzongzi.com

ปัจจุบันบ๊ะจ่างรายได้นี้ดำเนินการมากว่า 30 ปีเป็นสูตรโบราณดั้งเดิม และเป็นการส่งต่อสูตรกันแบบรุ่นสู่รุ่น มีรสชาติที่กลมกล่อม หอมเข้มกลิ่นพริกไทย พร้อมกับความครบเครื่องไปด้วยวัตถุดิบต่างๆ เช่น หมูหมักสูตรพิเศษ เห็ดหอม กุนเชียง ไข่เค็มแดง เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้นแต่ยังใส่ธัญพืชเพื่อสร้างเอกลักษณ์อีกด้วย เช่น งาดำ งาขาว ถั่วเขียว ลูกเดือย ผ่านกระบวนการทำอย่างพิถีพิถันคลุกเคล้าจนเข้ากันและทำการห่อด้วยใบไผ่

เดิมทีอาชีพขายบ๊ะจ่างของคุณกิตติ์ธเนศ เป็นเพียงการขายในระดับชุมชนเท่านั้น ลูกค้าก็จะเป็นคนในละแวกเดียวกันไม่ได้กว้างขวางอะไร จนกระทั่งเมื่อถึงครั้งที่ “องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” (อพท.) สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินแผนยกระดับพื้นที่ของอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งยังมอบหมายให้หน่วยงาน “สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” (ISMED) เข้ามาส่งเสริมความรู้แก่ผู้ประกอบการระดับชุมชน สู่การพัฒนาสินค้าโบราณในท้องถิ่นให้เป็นของฝากประจำจังหวัด ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว และบ๊ะจ่างก็ได้รับคัดเลือกในครั้งนั้นด้วย นำไปสู่การพัฒนาสินค้าในที่สุด

ขายบ๊ะจ่าง “คนแซ่ล้อ” ยกระดับสินค้าชุมชนสู่ของฝากประจำจังหวัด
รูปภาพจาก : http://www.haiwaitoutiao.com

คุณสมบัติของบ๊ะจ่างเดิมทีมีอายุการเก็บรักษาได้เพียง 1-2 วันเท่านั้น และนั่นเองที่ไม่เหมาะจะเป็นของฝาก ด้วยระยะเวลาที่สั้นเกินไป ทำให้อาหารเน่าเสียก่อนไปถึงมือผู้รับ จึงมีการพัฒนาสินค้าในเรื่องนี้ นั่นคือการยืดอายุการเก็บรักษาได้ยาวนานมากขึ้น จนกระทั่งสามารถเปลี่ยนบ๊ะจ่างให้เก็บรักษาได้นานถึง 7 วัน การพัฒนาสินค้าได้เข้าร่วมกับอพท. และ ISMED เพื่อคิดค้นกรรมวิธีที่สามารถขยายเวลาการเก็บรักษาได้ ใช้เวลากว่า 1 ปีก็เป็นอันสำเร็จ โดยกรรมวิธีดังกล่าวคือการนึ่งบ๊ะจ่างจนสุกแล้วนำไปห่อด้วยพลาสติกสุญญากาศ จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือด 15 นาที แล้วจึงน็อกด้วยน้ำเย็นจัด ทำให้บ๊ะจ่างสามารถเก็บได้นานถึง 7 วันในอุณหภูมิปกติ หากนำไปแช่เย็นจะอยู่ได้นานมากขึ้นอีก

ขายบ๊ะจ่าง “คนแซ่ล้อ” ยกระดับสินค้าชุมชนสู่ของฝากประจำจังหวัด
รูปภาพจาก : haixiaba.com

อีกทั้งยังมีการปรับบรรจุภัณฑ์ให้สวยงามรองรับกับการซื้อเป็นของฝากจากแหล่งท่องเที่ยว นั่นคือการบรรจุในกล่องกระดาษ ภายในหนึ่งกล่องบรรจุบ๊ะจ่างทั้งหมด 5 ลูก วางจำหน่ายในราคา 150 บาทต่อกล่อง โดยคนแซ่ล้อได้ทำการขายบ๊ะจ่างผ่านร้านของฝากประจำจังหวัด ทั้งยังเตรียมนำไปขายทางออนไลน์ และการออกงานแสดงสินค้าต่างๆ ธุรกิจขายบ๊ะจ่างคนแซ่ล้อถูกยกระดับเป็นแบรนด์อย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังมีตลาดที่กว้างขึ้น นำมาซึ่งรายได้ที่มากขึ้นและสามารถสร้างอาชีพให้คนในชุมชนได้อย่างยั่งยืน

ขายบ๊ะจ่าง “คนแซ่ล้อ” ยกระดับสินค้าชุมชนสู่ของฝากประจำจังหวัด
รูปภาพจาก : www.epochtimes.com

ข้อมูลติดต่อธุรกิจขายบ๊ะจ่างคนแซ่ล้อ
โทรศัพท์ : 063 209 3201

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น