นำเข้าสินค้าจากจีน ค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง

นำเข้าสินค้าจากจีน ค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง

 นำเข้าสินค้าจากจีน ค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง

นำเข้าสินค้าจากจีน ค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง

นำเข้าสินค้าจากจีน จะต้องมีค่าใช่จ่ายนอกเหนือไปจากการซื้อสินค้ามาขาย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของการดำเนินการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ตามระเบียบข้อบังคับของกรศุลกากร แต่จะมีอะไรบ้างแล้วคำนวณอย่างไร วันนี้มีข้อมูลดีๆมาฝากกัน

นำเข้าสินค้าจากจีน มีค่าใช้จ่ายประกอบไปด้วย ค่าภาษีนำเข้า, ค่ารับ D/O, ค่าภาระท่าเรือ, ค่ารถ, ค่าธรรมเนียมศุลกากร ผู้นำเข้าสินค้าจากจีนจำเป็นต้องจ่ายและถือเป็นต้นทุนสำคัญทางการค้า โดยรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้เราได้นำมาเล่าให้ฟังคร่าวๆ เพื่อชี้แจงในแต่ละรายการ

ค่าภาษีนำเข้า

ค่าภาษีนำเข้าเป็นหนึ่งต้นทุนหลักที่สำคัญสำหรับธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีน สามารถคำนวณด้วยสูตร >>> ภาษีนำเข้า = (ราคานำเข้าสินค้าบนใบ Invoice x อัตราแลกเปลี่ยน) x อัตราภาษี + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับสินค้าที่เป็นสินค้าทั่วไป หรือวัตถุดิบธรรมดา แต่ก็มีกรณียกเว้น เช่น เป็นสินค้าประเภท BOI, คลังทัณฑ์บน, FORM A, FORM E, FORM D ที่อาจจะมีส่วนลด หรืออาจไม่ต้องเสียภาษีเลย ตามการพิจารณาของกรมศุลกากร

ค่ารับ D/O

D/O หรือ Delivery Order เรียกว่า “ใบตราส่งสินค้า” เป็นตราที่ผู้ขนสินค้าต้องออกให้ผู้ส่งสินค้า เพื่อแสดงว่าได้รับสินค้าเรียบร้อยแล้ว ในการคำนวณจะใช้อัตราที่แตกต่างกันตามขนาดตู้ คือตู้ 20 ฟุต ใช้อัตรา 4,000 – 5,000 บาท ขึ้นไปเป็นอย่างน้อย ส่วนตู้ 50 ฟุต ใช้อัตรา 5,000- 6,000 บาท ขึ้นไปเป็นอย่างน้อย อันนี้เป็นการคำนวณสำหรับการขนส่งสินค้าทางเรือ แบบการบรรทุกสินค้ามาเต็มตู้ ในกรณีที่บรรทุกมาแบบไม่เต็มตู้ จะคิดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ โดยเริ่มต้นสินค้าที่ 1 ลูกบาศก์เมตร ใช้อัตรา 3,500 – 4,500 บาท และคิดส่วนที่เกินที่ประมาณ 1,500 บาท ขึ้นอยู่กับการต่อรองของแต่ละบริษัท และสำหรับการขนส่งทางอากาศจะมีค่า D/O ประมาณ 300- 1,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการต่อรองของแต่ละบริษัท

ค่าภาระท่าเรือ

ในส่วนของค่าภาระท่าเรือก็เป็นอีกค่าใช้จ่ายสำคัญสำหรับผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าจากจีน ถูกคิดก็ต่อเมื่อสินค้าถูกส่งไปเก็บยังท่าเรือ ถือเป็นค่าสต๊อกของ ที่ท่าเรือต้องดูแลรักษาสินค้าเหล่านั้นเอาไวในพื้นที่ และผู้ประกอบการต้องเสียค่าใช้จ่ายในลักษณะของค่าธรรมเนียม

ค่ารถ

ตรงนี้เป็นค่าเดินทางในกรณีที่ผู้ประกอบการต้องว่าจ้างรถยนต์ไปขนส่งสินค้าจากท่าเรือเพื่อย้ายไปไว้ในสถายที่ต่างๆ ซึ่งเป็นเป้าหมายของสินค้า ส่วนมากอัตราค่ารถมักขึ้นอยู่กับระยะทาง

ค่าธรรมเนียมศุลกากร

ค่าธรรมเนียมศุลกากรมีหลายส่วนประกอบกัน ส่วนแรกเป็นค่าใบขนส่งสินค้าคิดเป็น 200 บาทต่อใบ ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้แก่ ค่าใบอนุญาต ค่าล่วงเวลา และค่าคืนตู้ที่ผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าจากจีนจะต้องจ่ายให้กับกรมศุลกากร

ค่าใบอนุญาต – ขึ้นอยู่กับตัวสินค้าว่าเป็นอะไร และต้องขออนุญาตแบบไหน เช่น อ.ย., วัตถุอันตราย, เครื่องมือการแพทย์ และอื่นๆ เมื่อทำการขออนุญาตทางการก็จะมีใบอนุญาตให้มา ซึ่งผู้ประกอบการต้องเสียค่าธรรมเนียมตอบแทนไป

ค่าล่วงเวลา – ในการดำเนินการต่างๆ กับกรมศุลกากร จะต้องทำก่อนเวลา 16:00 น. แต่ถ้าหากเลยออกไปหลังจาก 16:30 น.จะต้องเสียค่าล่วงเวลาให้กับกรมศุลกากรด้วย

ค่าคืนตู้ – เมื่อคืนตู้ที่ท่าเรือผู้ประกอบการจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการคืนตู้ด้วย หากคืนช้ากว่ากำหนดจะต้องถูกค่าปรับ และบางรายอาจต้องเสียค่าล้างตู้ในอัตรา 300-1,200 บาท ในกรณีบรรทุกสินค้ามาแบบไม่เต็มตู้ จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

ทั้งหมดนี้เป็นค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนสำคัญของธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีน ตามกฎระเบียบข้อบับคับจากทางการ มีผลทางกฎหมาย ซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นหากใครที่กำลังสนใจธุรกิจนี้อยู่อย่าลืมเตรียมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอาไว้ด้วย

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น