สถิติศัลยกรรมเสริมสวยเพิ่มขึ้น 9% ไทยติดอันดับที่ 21

สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ เผยไทยติดอันดับ 21 ประเทศที่มีการทำศัลยกรรมมากที่สุดในโลก โดยศัลยกรรมเปลือกตามาเป็นอันดับหนึ่ง เหตุคนไทยฮิตทำตาสองชั้นเหมือนเกาหลี

สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (International Society of Aesthetic Plastic Surgery หรือ ISAPS) ได้เปิดเผยรายงานศัลยกรรมตกแต่งเสริมสวยระดับโลกสำหรับปี 2559 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. พบการทำศัลยกรรมตกแต่งเสริมสวยทั่วโลกเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ทั้งนี้ ประเทศที่ติด 5 อันดับแรกได้แก่ สหรัฐอเมริกา มีการทำศัลยกรรมตกแต่งเสริมสวยจำนวน 4.22 ล้านครั้ง ตามด้วยบราซิล 2.52 ล้านครั้ง ญี่ปุ่น 1.14 ล้านครั้ง อิตาลี 9.58 แสนครั้ง และเม็กซิโก 9.23 แสนครั้ง เมื่อรวมกันทั้ง 5 ประเทศมีสัดส่วนถึง 41.4% ของการทำศัลยกรรมตกแต่งเสริมสวยทั่วโลก

สำหรับประเทศไทยติดอันดับที่ 21 โดยมีการทำศัลยกรรมตกแต่งเสริมสวยกว่า 1.12 แสนครั้ง โดยประเภทที่มีการทำศัลยกรรมมากที่สุดคือ เปลือกตา ตามมาด้วยการเสริมหน้าอก และการเสริมจมูก

สำหรับสาว ๆ ที่รักสวยงามและมักสวมใส่คอนแทคเลนส์ที่ทำให้ดูตาโตขึ้น หรือ “บิ๊กอาย” และคอนแทคเลนส์ทั่วไป นพ.กมลเตือนว่า อาจเป็นเหตุทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ อีกทั้งการทำตาโต ต้องมีความเหมาะสม เพราะมีการโฆษณาการเปิดหัวตาและเปิดหางตาให้ตายาวขึ้น ซึ่งบางครั้งทำเกินจำเป็น โดยเฉพาะการเปิดหางตาที่ดูโฆษณาจากต่างประเทศ ความจริงแล้วจะมีปัญหามากกว่าได้ผลดี

ด้าน นพ.อดุลย์ชัย ธรรมาแสงเสริฐ กรรมการสมาคมฯ และเจ้าของคลินิกแกรนด์มาสเตอร์ กล่าวว่า เมื่อก่อนการทำศัลยกรรมเปลือกตาจะเป็นผู้สูงอายุวัย 50 ปีขึ้นไป เนื่องจากหนังตาตกลงมาตามธรรมชาติ ทำให้มีปัญหาด้านการทำงาน ต้องเลิกตาเลิกคิ้วมากขึ้น หรือบางครั้งขนตาม้วนเข้ามา จนทำให้เป็นแผลที่กระจกตา

แต่พอยุคสมัยเปลี่ยนไป คนที่อายุ 30 ต้น ๆ บางคนเริ่มทำตาสองชั้น เนื่องจากคนไทยที่มีเชื้อสายจีนจะมีตาชั้นเดียว ทำให้แต่งตาไม่สวย และวาดอายไลเนอร์ไม่ได้

“เมื่อก่อนหมวยที่ไม่มีเหล่าเต๊งอยากจะแต่งตา ก็ไปซื้อสติ๊กเกอร์ที่ทำตาสองชั้น เพราะมีความเชื่อว่าติดไปเรื่อยๆ จะเกิดรอยพับและเป็นตาสองชั้นขึ้นมาเอง พอติดไปบางคนก็แพ้กาวที่ติดสติ๊กเกอร์ บางทีก็เสียเวลาที่ต้องติดเป็นชั่วโมงก็เลยมาทำตาสองชั้นดีกว่า” นพ.อดุลย์ชัย กล่าว

ในอดีตคลินิกของ นพ.อดุลย์ชัยมีคนไข้ที่เข้ามาทำศัลยกรรมเปลือกตาประมาณ 50% แต่หลังจากเริ่มมีการใช้เทคนิคการทำตาสองชั้นแบบไร้แผลเป็น (scarless technique) เมื่อปี 2553 สัดส่วนของผู้ที่มาทำศัลยกรรมเปลือกตาก็เพิ่มขึ้นเป็น 90% ในปัจจุบัน

นพ.อดุลย์ชัยกล่าวว่า การทำตาสองชั้นดังกล่าวเป็นเทคนิคที่ริเริ่มในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้แผลเป็นลดจากกว่า 1 ซม. เหลือเพียง 2-3 มม.

นอกจากนี้ รายงาน ISAPS ยังระบุว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาทำศัลยกรรมสูงมากเป็นอันดับต้นๆของโลกอื่น คือ 47.2% ของการทำศัลยกรรมความงามในประเทศ โดย นพ.กมลกล่าวว่า ข้อมูลนี้มีความเป็นไปได้ เพราะกลุ่มตัวอย่างแพทย์ไทยที่ส่งข้อมูลไปเป็นแพทย์ที่ทำผ่าตัดใน รพ. ในสัดส่วนที่สูงกว่าคลินิก ในการสำรวจต่อไปถ้าแพทย์ที่ทำคลินิกส่งข้อมูลมากขึ้น สัดส่วนนี้อาจลดลงได้ แต่อย่างไรก็ดีจะเห็นได้ว่า รพ.เอกชนของไทย มีการให้บริการคนไข้ต่างชาติที่สูงจริง

ขอบคุณข้อมูลจาก BBC Thai

แสดงความคิดเห็น