กลยุทธ์ธุรกิจ ก่อตั้งธุรกิจเอง VS แฟรนไชส์ VS งานพาร์ทไทม์ จะเลือกทำอะไร
กลยุทธ์ธุรกิจ ก่อตั้งธุรกิจเอง VS แฟรนไชส์ VS งานพาร์ทไทม์ จะเลือกทำอะไร

กลยุทธ์ธุรกิจ : ก่อตั้งธุรกิจเอง VS แฟรนไชส์ VS งานพาร์ทไทม์ จะเลือกทำอะไร

กลยุทธ์ธุรกิจ ก่อตั้งธุรกิจเอง VS แฟรนไชส์ VS งานพาร์ทไทม์ จะเลือกทำอะไร

กลยุทธ์ธุรกิจ : ก่อตั้งธุรกิจเอง VS แฟรนไชส์ VS งานพาร์ทไทม์
จะเลือกทำอะไรดี

เริ่มต้นทำธุรกิจใหม่จะเลือกอะไรดี เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่มีแนวคิดอยากจะมีกิจการเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่เมื่อจบมาแล้วไม่อยากไปเป็นพนักงานประจำ อยากเริ่มทำอะไรใหม่ๆเป็นของตัวเอง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่วาจะเป็นการก่อตั้งธุรกิจเองก็ดี ธุรกิจแฟรนไชส์หรือแม้แต่การทำงานพาร์ทไทม์ ต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งสิ้น ความยากง่ายก็จะแตกต่างกันออกไป เพราะการทำงานทุกอย่างจำเป็นที่จะต้องอาศัยการเรียนรู้และประสบการณ์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ก่อนที่จะก้าวเข้าไปทำงานแบบจริงๆจังนั้น คุณจะต้องถามตัวเองให้ดีเสียก่อนว่า คุณพร้อมแค่ไหน  มีความรู้ประสบการณ์แน่นพอหรือยัง ที่จะก้าวไปสู่เส้นทางที่คุณเลือก ลองมาสำรวจตัวคุณเองกันดีกว่าว่าคุณมีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่  ถ้าคำตอบของคุณคือใช่ ให้คุรเลือกทำในสิ่งนั้นได้เลย

กลยุทธ์ธุรกิจ ก่อตั้งธุรกิจเอง VS แฟรนไชส์ VS งานพาร์ทไทม์ จะเลือกทำอะไร 1
การก่อตั้งธุรกิจเอง
  1. การเริ่มต้นธุรกิจเป็นของตัวเอง สิ่งแรกที่คุณควรพิจารณาก็คือ คุณชอบแบบไหนให้ทำสิ่งนั้นไปเลย แน่นอนว่า การได้ทำในสิ่งที่รักสิ่งที่ชอบ จะทำให้คุณมีความสุขและพร้อมที่จะทำงานอย่างจริงจัง ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนหรือมีปัญหาต่างๆเข้ามาคุณก็พร้อมที่จะแก้ไข อะไรที่คุณคิดว่าเป็นเรื่อที่ยาก มันจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับคุณไปทันที
  2. กลุ่มเป้าหมาย เมื่อคุณรู้แล้วว่าจะทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร สิ่งที่คุณจะต้องพิจารณาในลำดับต่อมาก็คือ กลุ่มลูกค้า การกำหนดทิศทางหรือกลุ่มลุกค้าให้ตรงกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่คุณให้บริการเป็นส่งสำคัญเพื่อจะช่วยให้เราสามารถวางแผนและกำหนดทิศทางทางการตลาดได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ว่าสินค้าที่เราจะนำเสนอนั้นเหมาะกับคนกลุ่มไหน อายุเท่าไหร่ เพศ ความต้องการที่ลูกค้าต้องการมีอะไรบ้าง รวมถึง การตั้งชื่อแบรนด์  การออกแบบแพคเก็จจิ้ง ราคา ช่องทางการติดต่อ ภาษาที่จะใช้ในการสื่อสาร สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่มีความสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเป้าหมายและมีโอกาสที่ธุรกิจของคุณจะเติบโตได้
  3. เงินทุน เรื่องของเงินๆทองๆเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของคุณเกิดขึ้นได้ เงินทุนในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเงินที่ใช้ในการก่อสร้างธุรกิจให้เป็นรูปเป็นร่างเท่านั้นแต่ยังรวมถึงเงินทุนหมุนเวียนที่จะต้องนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆเพื่อให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
  4. การสร้างคอนเน็คชั่น เป็นตัวแปรที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวหน้ามากขึ้น การได้รู้จักคนใหม่ๆการเจอผู้คนที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นคนนอกองค์กร เพื่อนหรือกลุ่มที่ทำกิจกรรมร่วมกัน ยิ่งคุณมีคอนเนคชั่นดีๆมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งลดความเสี่ยงและหาทางออกให้กับธุรกิจของคุณมากขึ้นเท่านั้นและการที่คุณได้พบปะผู้คนที่มากมาย ทั้งผู้ประกอบกิจการในสายธุรกิจประเภทเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้คุณสามารถเรียนรู้ พัฒนาทักษะในการทำงานของคุณที่หาไม่ได้จากห้องเรียน ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีที่ช่วยให้คุณสามารถพัฒนาตนเองได้จากประสบการณ์ตรง
กลยุทธ์ธุรกิจ ก่อตั้งธุรกิจเอง VS แฟรนไชส์ VS งานพาร์ทไทม์ จะเลือกทำอะไร 1
แฟรนไชส์

เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการทำธุรกิจที่ถือได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าการก่อตั้งธุรกิจเอง เนื่องจาก ผู้ที่เริ่มต้นไม่ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ เพราะธุรกิจประเภทนี้จะมีการวางระบบสำเร็จรูปมาให้แต่การที่จะทำธุรกิจแฟรนไซส์ให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้นั้น สิ่งที่คุณควรพิจารณามีดังต่อไปนี้

  1. ความชอบในธุรกิจนั้นๆ ไม่ว่าจะทำธุรกิจใดๆก็ตามสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จก็คือ ความชอบ ความหลงใหลในสิ่งที่ทำ คุณต้องสำรวจตัวเองให้ได้เสียก่อนว่า คุณชอบและรักในธุรกิจที่จะทำหรือไม่ เพราะธุรกิจที่คุณทำนั้นไม่ได้อยู่กับคุณแค่ 1 ปี 2 ปีเท่านั้น ยิ่งคุณมีความชอบหรือรักในธุรกิจที่คุณทำ มันก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสหรือช่องทางในการสร้างรายได้ให้คุณได้อย่างมากมายและนอกจากนี้ยังช่วยให้คุณมีความสุข สนุกกับการทำงานมากขึ้นอีกด้วย
  2. เป้าหมาย ความเสี่ยงและงบประมาณในการลงทุน แฟรนไซส์ในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย การลงทุนเองก็มีหลายระดับด้วยกัน ตั้งแต่ หลักแสน หลักหมื่น หลักพัน ซึ่งในแต่ละแฟรนไซส์นั้นต่างก็มีความเสี่ยงที่มากและน้อยลดหลั่นกันออกไป ดังนั้น นอกจากคุณจะเลือกแฟรนไซส์ที่ชอบแล้วจะต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงความสามารถของตัวเองได้ว่า คุณสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน การตั้งเป้าหมายเพื่อสร้างผลกำไรก็เป็นสิ่งจำเป็น หากคุณต้องการกำไรเดือนล่ะ 15000 บาท คุณจะต้องวางแผนแล้วว่าคุณจะต้องขายสินค้าให้ได้วันล่ะเท่าไหร่หรืออาจจะเพิ่มการลงทุนขยายสาขาเข้าไปอีก เมื่อหักต้นทุนต่างๆแล้วจะเลือกเท่าไหร่ใช้ระยะเวลากี่เดือนถึงจะคืนทุนได้
  3. การเลือกแฟรนไซส์ สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกเจ้าของแฟรนไซส์ คือ ประสบการณ์ในการทำแฟรนไซส์ต้องมีไม่น้อยกว่า 1 ปีขึ้นไป  มีระบบการจัดการที่ดีทั้งก่อนซื้อและหลังการขาย การพูดจาของเจ้าของแฟรนไซส์ การเอาใจใส่ต่อลูกค้า สินค้ามีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา มีทักษะในการขายที่ดี มีสาขาที่ไหนบ้าง ที่ไหนขายดี ขายได้ปานกลางหรือน้อย ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบหรือไม่
กลยุทธ์ธุรกิจ ก่อตั้งธุรกิจเอง VS แฟรนไชส์ VS งานพาร์ทไทม์ จะเลือกทำอะไร 1
งานพาร์ทไทม์

เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ช่วยให้คุณใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และสามารถสร้างรายได้เล็กๆน้อยเข้ากระเป๋าตัวเองและนอกจากนี้ยังเป็นการเปิดประสบการณ์ก่อนการทำงานจริง ซึ่งข้อดีของการทำงานพาร์ทไทม์ มีดังต่อไปนี้

  1. ได้ฝึกทักษะ   บางคนมีความถนัดในเรื่องของการใช้ภาษาไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาจีน  หากอยากเพิ่มทั้งความรู้และเป็นการฝึกฝนทักษะให้ความรู้ความชำนาญมากขึ้น ลองรับงานแปลภาษมาทำ เพราะนอกจากจะได้รับเงินค่าขนมเล็กๆน้อยแล้ว ยังเป็นการเพิ่มทักษะ คำศัพท์ใหม่ๆที่ไม่เคยรู้ การอ่าน การจับใจความให้คุณมีความเข้าใจมากขึ้นรวมถึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับคุณได้อีกด้วย
  2. ได้ประสบการณ์    การเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อนจะช่วยให้คุณสามารถเอาตัวรอดและรู้จักในการแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างทันท่วงทีรวมไปถึงการได้ทักษะในการทำงานที่เพิ่มขึ้น การเข้าถึงผู้คน การรู้จักเจรจาต่อรอง  ฝึกความอดทน มีความ
  3. มานะ มีความรับผิดชอบที่มากขึ้น อีกทั้งการมีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อนจะทำให้คุณมีแต้มต่อที่เหนือกว่าคนอื่นๆในเวลาที่สัมภาษณ์งาน

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : allaboutrecoveryinc.com, wisebread.com, entrepreneur.com, SuperMoney

แสดงความคิดเห็น