ธุรกิจกาแฟ “เนสกาแฟ (Nescafé)”
เผยผลิตภัณฑ์ใหม่ตอกย้ำผู้ครองตลาด
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในตลาดธุรกิจกาแฟไทยนั้น “เนสกาแฟ (Nescafé) ” เป็นแบรนด์ที่ครองตลาดมากเป็นอันดับที่ 1 ด้วยจำนวนกว่า 60% ของตลาด ซึ่งที่ผ่านมานั้นตลาดโดยรวมมีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่มีการเติบโตมากนัก เนื่องจาก ประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยกำลังประสบกับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้บริโภคจึงหันมาใส่ใจการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น ดังนั้น แม้ว่าเนสกาแฟจะเป็นเจ้าใหญ่ในตลาด แต่ต้องมีการปรับตัวเพื่อกระตุ้นการซื้อของผู้บริโภคด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เอาใจลูกค้าคอกาแฟสด
รวมร้านขายส่งอุปกรณ์กาแฟ เมล็ดกาแฟ ผงกาแฟ อัพเดทล่าสุด คลิ๊ก >>
รวมโรงงานผลิตกาแฟ ผงกาแฟ เมล็ดกาแฟ คลิ๊ก>>
รวมข้อมูล “แฟรนไชส์กาแฟ” แบบละเอียดล่าสุด คลิ๊ก>>
เดิมนั้นแบรนด์เนสกาแฟเป็นธุรกิจในเครือของเนสท์เล่ (Nestlé) สำหรับภูมิภาคอินโดไชน่ามี “คุณออดรีย์ เลียว” เป็นประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร จุดเริ่มต้นของเนสท์เล่ผู้ผลิตเนสกาแฟนั้นเกิดขึ้นที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในปี 2409 และได้เข้าสู่ประเทศไทยในปี 2036 ด้วยผลิตภัณฑ์นมข้นหวานตราแหม่มทูนหัว เมื่อได้รับกระแสตอบรับที่ดีจึงมีการนำเข้าสินค้าอื่นมาจำหน่ายในไทยเรื่อยๆ ทั้งนมข้นหวาน เครื่องดื่มช็อกโกแลต ชา อาหารเช้าซีเรียลและกาแฟ จนในปัจจุบันนี้มีโรงงานผลิตสินค้าในเครือเนสท์เล่ที่ประเทศไทยถึง 7 แห่ง
สำหรับธุรกิจกาแฟในเครือของเนสท์เล่ เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศไทยเพราะเป็นแบรนด์ที่ครองตลาดเป็นอันดับ 1 แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก ทำให้ยอดขายของแบรนด์ไม่มีการเติบโตเท่าที่ควร ในปี 2559 นี้ ได้วางกลยุทธ์กระตุ้นการบริโภคของกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น โดยมีจุดเด่นที่การนำกระแสการบริโภคกาแฟสดมาปรับใช้ โดยการออกสินค้าใหม่คือ “เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู (Nescafé Blend&Bru)” และยกเลิกเนสกาแฟทรีอินวัน สูตรเดิมที่ไม่ได้สร้างผลประกอบการที่ไม่น่าพอใจเท่าที่ควรในประเทศไทย
เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรูมีจุดเด่นที่มีการผสมกาแฟแท้ๆคั่วบดละเอียดทำให้กาแฟมีรสชาติอร่อย เข้มข้น กลิ่นหอม ซึ่งคาดว่าถูกใจคอกาแฟได้ไม่ยาก โดยมีทั้งหมด 2 รสชาติได้แก่ ริช อโรมาที่มีความกลมกล่อม และเอสเปรสโซ่ โรสต์ที่มีความเข้มข้นมากกว่า ทั้งนี้กาแฟทั้ง 2 รสชาติได้วางจำหน่ายเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่คอกาแฟที่มีความชื่นชอบแตกต่างกัน โดยมีการทุ่มงบประมาณกว่า 600 ล้านบาท เพื่อทำการโฆษณา
การโฆษณาของธุรกิจกาแฟยักษ์ใหญ่นี้จะเน้นไปที่การสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคทุกช่องทาง และมีการสร้างแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อทำหน้าที่ในการสื่อสารหลัก ช่องทางการโฆษณาอื่นๆไม่ว่าจะเป็นการทำภาพยนตร์โฆษณา ป้ายประกาศ ซื้อหน้าโฆษณาในหนังสือหรือนิตยสาร หรือการใช้ช่องทางออนไลน์ในการสื่อสารกับผู้บริโภคที่นิยมใช้โซเชียลมิเดียกันมากในปัจจุบัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการลงทุนอีก 800 ล้านบาท เพื่อการสร้างไลน์การผลิตใหม่ให้แก่สินค้าเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ทั้งเพื่อจำหน่ายในไทยและส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยทำการเปิดตัวในไทยเป็นที่แรกเพราะบริษัทค่อนข้างได้รับการยอมรับมากที่สุด รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาทที่นับว่าเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 15 ปี ของบริษัท
ทั้งนี้ ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของเนสกาแฟมีมากถึง 6 กลุ่ม ได้แก่ เนสกาแฟ เรดคัพ, เนสกาแฟ โกลด์, เนสกาแฟ โพรเทค โพรสลิม, เนสกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม และล่าสุดคือ สินค้าเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู
เป้าหมายของธุรกิจกาแฟตัวใหม่นี้ต้องการที่จะเข้าถึงครัวเรือนของผู้บริโภคชาวไทยกว่า 50% ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการซื้อของผู้บริโภคได้ อีกทั้งยังเป็นผลดีแก่ตลาดธุรกิจกาแฟไทยที่จะสามารถเติบโตไปได้อีก เพราะที่ผ่านมานั้นไม่มีการเติบโตมากเท่าที่ควร เพราะผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจ รวมไปถึงแบรนด์ต่างๆไม่ได้มีการออกนวัตกรรมใหม่ๆมาดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคมากนัก
ข้อมูลติดต่อ ธุรกิจกาแฟ เนสกาแฟ
ที่ตั้ง : สำนักงานใหญ่ ดิออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัล เวิร์ล ชั้น 39-43 เลขที่ 999/9 ถนนพระราม 1
แขวงปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2657-8600
เว็ปไซต์ : www.nestle.co.th
Facebook : NESCAFE
Youtube : Nestle Thailand
E-mail : Goodfood.Nestle@th.nestle.com
รวมร้านขายส่งอุปกรณ์กาแฟ เมล็ดกาแฟ ผงกาแฟ อัพเดทล่าสุด คลิ๊ก >>
รวมโรงงานผลิตกาแฟ ผงกาแฟ เมล็ดกาแฟ คลิ๊ก>>
รวมข้อมูล “แฟรนไชส์กาแฟ” แบบละเอียดล่าสุด คลิ๊ก>>