ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ “Idealize”
บ่งบอกความคลาสสิกผ่านเฟอร์นิเจอร์ลอฟต์ผลิตชิ้นเดียวในโลก
สำหรับการทำธุรกิจใดๆนั้นปัญหาที่ผู้ประกอบการต้องประสบเสมอคือ คู่แข่งที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นจนทำให้ลูกค้ามีความต้องการในสินค้าของตนเองลดน้อยลง ทำให้ผู้ประกอบการต้องพัฒนาสินค้าหรือผลิตสินค้าใหม่ๆป้อนเข้าสู่ตลาดเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค รวมไปถึงธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เช่นกันที่ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนทำให้ “คุณสุทธิ ปโยธรสิริ” ที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ไม้สักตัดสินใจนำความคิดของตนเองมาพัฒนาให้เป็นรูปร่างเพื่อช่วยธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้สักเดิม
ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์สไตล์โรงงานหรือ Industrial Loft เป็นรูปแบบที่เขาได้นำมาใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพของสินค้าตนเองภายใต้แบรนด์ “Idealize” ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากแต่เดิมนั้นเขาทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้สักที่ จ.เชียงใหม่ แต่ภายหลังมีผู้ประกอบการในตลาดเพิ่มมากขึ้นและรายได้ของเขาก็ลดลง เขาจึงต้องพัฒนาสินค้ารูปแบบใหม่เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า ซึ่งการผลิตเฟอร์นิเจอร์สไตล์โรงงานนั้นเขาได้มีไอเดียนี้เก็บไว้นานแล้ว แต่มีปัญหาตรงที่ไม่สามารถหาผู้ผลิตที่มีฝีมือในการผสมผสานไม้เก่าและงานเหล็กให้เข้ากันได้อย่างลงตัวและสร้างเอกลักษณ์ให้แก่แบรนด์
จุดเด่นของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ Idealize อยู่ที่ความคลาสสิกของสินค้าแต่ละชิ้นที่เป็นสินค้ามีเพียงชิ้นเดียวในโลก โดยมีวัสดุหลักคือไม้เก่าที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์และเหล็กที่แม้จะขึ้นสนิมแต่ก็สร้างความสวยงามให้แก่ชิ้นงานได้อย่างมาก เพราะเขาคิดว่างานสนิมนั้นเป็นศิลปะอีกอย่างหนึ่งของการผลิตเฟอร์นิเจอร์ เพียงแต่ช่างที่ผลิตนั้นต้องมีฝีมือในการขัดสนิมให้มีความเนียนเรียบและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ที่ซื้อไปใช้ รับประกันได้ว่าลูกค้าจะไม่โดนเสี้ยนจากไม้ทิ่มมือหรือโดนสนิมบาด
ปัจจุบันนี้สินค้าของ Idealize ได้มีการจัดเป็นโชว์รูมแสดงสินค้าอยู่ที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ในรูปแบบของร้านกาแฟ แน่นอนว่าสินค้าที่วางเป็นของตกแต่งภายในร้านนั้นลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้ โดยมีระยะเวลาการรอคอยสินค้าเพียง 1 เดือน โดยมาจากการผลิตเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นนั้นมีการใช้ช่างฝีมือดีเพื่อให้งานออกมาคุ้มค่าและสร้างความประทับใจให้ลูกค้าที่ชื่นชอบการซื้อเฟอร์นิเจอร์ไปตกต่างได้อย่างมาก
ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ Idealize นั้นส่วนใหญ่มาจากธุรกิจร้านกาแฟ ร้านอาหาร ที่มักจะซื้อสินค้าไปตกแต่ง สร้างบรรยากาศที่แตกต่างของร้านให้ต่างจากร้านอื่น โดยสินค้าแต่ละชนิดนั้นมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2,500-35,000 บาท โดยส่วนใหญ่เป็นเฟอร์นิเจอร์ประเภทโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ โคมไฟ ฯลฯ
การตลาดของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ Idealize นั้นจะเน้นไปที่การสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้าก่อนในช่วงแรก ซึ่งเขาได้วางแผนที่จะนำแบรนด์เข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้าประมาณ 4 ครั้งต่อปี โดยเป็นงานที่มีทั้งลูกค้าชาวไทยและลูกค้าชาวต่างประเทศเช้าร่วมจำนวนมาก เป็นการเปิดโอกาสให้สินค้าเป็นที่รู้จักในระดับสากลมากยิ่งขึ้น
ล่าสุดทางแบรนด์ได้มีการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า architect 2016 ที่เปิดโอกาสให้สามารถขยายธุรกิจไปยังตลาดของตกแต่งบ้านต่างประเทศได้ทั้งฝั่งยุโรปและอเมริกา ทั้งนี้ยังมีออเดอร์จากประเทศในเอเชียอย่างญี่ปุ่นเข้ามาจำนวนหนึ่งด้วย เพราะเป็นงานที่มีเอกลักษณ์และเป็นที่ชื่นชอบสำหรับชาวญี่ปุ่นมาก
ทั้งนี้ ในอนาคตเขายังได้มองหาทำเลเพื่อที่จะขยายโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ให้สามารถตั้งได้ในกรุงเทพฯ เพราะจะทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เพราะแม้ว่าโชว์รูมปัจจุบันจะตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นหนึ่งในจังหวัดที่คนรู้จักมากอยู่แล้วก็ตาม
ข้อมูลติดต่อธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ Idealize
เว็ปไซต์ : www.idealize-art.com
Facebook : IDEALIZE SHOP
เบอร์โทรศัพท์ : 08-6658-8562, 08-1033-7073
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : Idealize