ธุรกิจแฟรนไชส์ “สิเรียม บิวตี้แคร์” ฝ่าวิกฤตปรับกลยุทธ์ เดินหน้าสยายปีก

ธุรกิจแฟรนไชส์ “สิเรียม บิวตี้แคร์” ฝ่าวิกฤตปรับกลยุทธ์ เดินหน้าสยายปีก

ธุรกิจแฟรนไชส์ “สิเรียม บิวตี้แคร์” ฝ่าวิกฤตปรับกลยุทธ์ เดินหน้าสยายปีก

ธุรกิจแฟรนไชส์ “สิเรียม บิวตี้แคร์” ฝ่าวิกฤตปรับกลยุทธ์ เดินหน้าสยายปีก

ผลิตภัณฑ์ทุกผลิตภัณฑ์นั้นมีวงจรชีวิตของตัวเอง มีทั้งจุดเริ่มต้น ช่วงที่ขายดี ช่วงที่ถึงจุดอิ่มตัว และช่วงถดถอย ไม่ว่าจะเป็นไปด้วยกลไกของตลาดเองหรือเกิดจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และรู้จักปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ทันโลกอยู่เสมอ เพื่อให้กิจการดำเนินต่อไปได้ เพราะไม่มีใครที่อยากดำเนินกิจการแล้วพบกับความล้มเหลว เช่นเดียวกับธุรกิจแฟรนไชส์ ”สิเรียม บิวตี้ แคร์” ที่เดิมมีหน้าตาของกิจการและหุ้นส่วนคือ “คุณแอน-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์” ดาราชื่อดังของเมืองไทย

ธุรกิจแฟรนไชส์สิเรียม บิวตี้ ได้ดำเนินกิจการมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานถึงกว่า 10 ปี จนกระทั่งประสบปัญหาในปลายปี 2552 ซึ่งขณะนี้มี “คุณชโลธร เส็งสมวงศ์” ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท พันธ์ลภัส จำกัด เจ้าของแบรนด์ สิเรียม บิวตี้ แคร์ และ สลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม

ธุรกิจแฟรนไชส์ “สิเรียม บิวตี้แคร์” ฝ่าวิกฤตปรับกลยุทธ์ เดินหน้าสยายปีก

ความจำเป็นในการปรับโฉมของธุกิจคือ ลบภาพลักษณ์ของคุณสิเรียมออกไป เนื่องจากในปลายปี 2552 คุณสิเรียมมีข่าวดังบนหน้าสื่อ ซึ่งเป็นข่าวไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ทำให้ยอดขายการบริการของกิจการตกลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายสินค้าตกลง 20 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน เป็นระยะเวลามากกว่า 1 เดือน เมื่อสถานการณ์เบาบางลง หลังจากนั้นยอดขายจึงกลับมาเป็นปกติในปี 2553 เพราะลูกค้าสามารถแยกแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวได้ อีกทั้งยังมีบางกลุ่มที่มีความสงสารมากกว่า

แต่อย่างไรก็ตามแม้คุณสิเรียมจะไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แก่ธุรกิจแฟรนไชส์นี้แล้ว เธอยังมีการถือหุ้นอยู่บ้างบางส่วน การตัดสินใจในการการดำเนินงานต่างๆของธุรกิจจะมาจากมติจากหุ้นส่วนทุกๆคน และกิจการต้องหาพรีเซ็นเตอร์ผู้หญิงรายใหม่ที่มีบุคลิกเป็นผู้หญิงเก่ง วัยทำงาน อายุประมาณ 26 ปี และมีภาพลักษณ์ดี

ธุรกิจแฟรนไชส์ “สิเรียม บิวตี้แคร์” ฝ่าวิกฤตปรับกลยุทธ์ เดินหน้าสยายปีก

การปรับเปลี่ยนภาพลักของธุรกิจแฟรนไชส์นอกจากการลบภาพของคุณสิเรียมแล้ว ยังมีการเพิ่มกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจากเดิมที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง เพราะไม่อยากให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายซ้ำกับสลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม ซึ่งมุ่งเน้นลูกค้ากลุ่มตลาดบนอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการปรับลดค่าแฟรนไชส์จากเดิมที่มีการคิดค่าแรกเข้า 500,000 บาท บวกค่าใช้จ่ายอื่น รวมแล้วใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 4 ล้านบาท แต่รูปแบบใหม่ที่เน้นลูกค้าระดับรองลงมาใช้เงินทุนประมาณ 2 ล้านบาทเท่านั้น โดยตัดค่าแรกเข้า และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นบางอย่างออกไป

ธุรกิจแฟรนไชส์ “สิเรียม บิวตี้แคร์” ฝ่าวิกฤตปรับกลยุทธ์ เดินหน้าสยายปีก

ที่ผ่านมาแฟรนไชส์สิเรียม บิวตี้ แคร์ ได้มีกิจการปิดตัวลงบ้างเล็กน้อย ประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีทำเลที่ไม่เหมาะสมกับธุรกิจความงาม ประกอบกับเศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงซบเซาส่งผลให้ตลาดธุรกิจความงามและสปาซบเซาลงอย่างมาก ดังนั้นการเลือกทำเลที่ตั้งสำหรับรูปแบบใหม่จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเป็นทำเลในห้างดิสเคาน์สโตร์ ฝั่งพลาซ่า จากเดิมที่เน้นไปที่ห้างหรูหราหรือแบบแสตนอโลนซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก และมีการตัดการตกแต่งที่เกินจำเป็นออกไปเพื่อให้ใช้เงินลงทุนในจำนวนที่น้อยที่สุด

ธุรกิจแฟรนไชส์ “สิเรียม บิวตี้แคร์” ฝ่าวิกฤตปรับกลยุทธ์ เดินหน้าสยายปีก

การสื่อสารการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์สิเรียม บิวตี้ แคร์ เน้นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อนิตยสารสำหรับผู้หญิง มีการเพิ่มการจัดกิจกรรม ณ จุดขาย และมีการออกบูทแสดงสินค้าเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีแผนการปรับช่องทางการรับรายได้ จากเดิมที่เน้นรายได้จากการให้บริการภายในร้านที่ 90 เปอร์เซ็นต์และจากการขายสินค้า 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นรายได้จากการบริการ 60-70 เปอร์เซ็นต์ และรายได้จากการขายสินค้าประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ ด้วยกลยุทธ์การปรับโฉมใหม่นี้คาดว่าทำให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์สามรถคืนทุนได้ในระยะเวลาประมาณ 15 เดือนเท่านั้น

ในส่วนของกิจการสลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียมจะไม่มีการขายแฟรนไชส์ ทางบริษัทจะเป็นผู้ดำเนินกิจการเองทั้งหมด เน้นการบริการด้านความงามแบบครบวงจร กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือลูกค้าระดับบน เนื่องจาก แม้ภาวะเศรษฐกิจซบเซาก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อลูกค้ากลุ่มนี้

ข้อมูลติดต่อธุรกิจแฟรนไชส์สิเรียม บิวตี้ แคร์
ที่อยู่ : บริษัท นันท์ลภัส จำกัด เลขที่ 5/17 ถนนเทศบาลสงเคราะห์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
โทรศัพท์ : 0-2196-2033-7

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น