แฟรนไชส์กาแฟ “Sagaso (ซากาโซ่)” ลงทุนหลักพัน เปิดมิติใหม่แห่งการดื่มกาแฟแบบแคปซูล

แฟรนไชส์กาแฟ “Sagaso (ซากาโซ่)” ลงทุนหลักพัน เปิดมิติใหม่แห่งการดื่มกาแฟแบบแคปซูล

แฟรนไชส์กาแฟ “Sagaso (ซากาโซ่)”
ลงทุนหลักพัน เปิดมิติใหม่แห่งการดื่มกาแฟแบบแคปซูล

การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันนั้นเป็นไปด้วยความเร่งรีบทำให้เป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจให้ได้สร้างสรรค์สินค้าออกมาจำหน่ายโดยคำนึงถึงความสะดวก รวดเร็ว ของลูกค้าเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นอาหารแช่แข็งที่มีเกือบทุกเมนูที่ลูกค้าต้องการ ไปจนถึงเครื่องดื่มที่ได้ผ่านการปรับปรุงจนเครื่องดื่มที่หาทานได้ยากก็สามารถหาได้ตามร้านสะดวกซื้อ และล่าสุดที่แม้แต่กาแฟสดก็ได้มีการบรรจุเป็นแคปซูลสามารถชงทานได้ภายใน 30 วินาที

แฟรนไชส์กาแฟที่ได้กล่าวถึงนี้คือ “Sagaso(ซากาโซ่)” เป็นการนำกาแฟสดมาบรรจุในแคปซูลทำให้สามารถชงได้ด้วยเครื่องภายใน 30 วินาที จุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้ในประเทศไทยมาจาก “คุณภัทรวดี ปรานประวิตร” ผู้จำหน่ายซากาโซ่เพียงรายเดียวในประเทศไทย ได้รู้จักธุรกิจตัวนี้เมื่อครั้งหนึ่งเพื่อนของเธอได้เดินทางไปยังประเทศเวียดนามเพื่อทำการค้าได้นำกาแฟแคปซูลกลับมาให้เธอได้ลองชิม เพราะเธอนั้นเป็นคนที่ชื่นชอบการทานกาแฟมากอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากทานก็พบว่ารสชาติที่ได้นั้นไม่แตกต่างจากกาแฟสดที่ชงทั่วไป ทั้งกลิ่นที่หอม และรสชาตินุ่ม

เมื่อเธอได้ลองศึกษาจึงพบว่าเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นมีมูลค่าเพียงหลักพันบาทเท่านั้น ซึ่งทำให้เธอมองเห็นโอกาสทางธุรกิจว่าสามารถนำมาต่อยอดต่อในประเทศไทยได้ เพราะกาแฟแคปซูลในไทยนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ซึ่งแตกต่างจากต่างประเทศที่นิยมกันมานานด้วยความรวดเร็วและสะดวก

จุดเด่นของกาแฟซากาโซ่คือ สามารถเลือกความเข้มได้ถึง 5 ระดับ เพราะกาแฟนั้นได้ผสมมาจากกาแฟสดหลายพันธุ์ทั้งอะราบิก้าและโรบัสต้าเกรดพรีเมี่ยมในสัดส่วนที่แตกต่างกัน ล้วนนำมาจากเวียดนามที่เป็นแหล่งปลูกกาแฟชั้นดีแห่งหนึ่งของโลก และสำหรับกระบวนการบรรจุกาแฟในแคปซูลหลังจากการบดในอุณหภูมิที่แตกต่างกันนั้นจะทำภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเพื่อเก็บความสดใหม่และกลิ่นหอมของกาแฟไว้ได้เป็นระยะเวลานาน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กาแฟที่เสิร์ฟมีรสชาติดีเหมือนกันทุกแก้ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมคุณภาพอย่างเช่น ร้านกาแฟ อย่างมาก

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแฟรนไชส์กาแฟซากาโซ่คือ กลุ่มชงดื่มเองที่บ้าน พนักงานออฟฟิศ และเจ้าของร้านกาแฟที่ให้ความสนใจไม่แพ้กัน เพราะสามารถชงกาแฟสดได้อร่อยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น และจำนวนงบลงทุนก็ไม่สูง เครื่องชงนั้นสามารถซื้อได้ในราคา 4,950 บาท ซึ่งถูกออกแบบให้สามารถชงกาแฟร้อน 1 แคปซูลได้ 1 แก้ว และในอนาคตจะมีการออกแบบให้สามารถชงสูตรกาแฟเย็นได้ซึ่งเหมาะกับความต้องการของลูกค้าชาวไทยอย่างมาก

สำหรับแผนการตลาดในปี 2559 นี้จะเริ่มรุกตลาดกาแฟอย่างจริงจังโดยเป็นการขายแฟรนไชส์ 50 เปอร์เซ็นต์และขายให้ลูกค้าปลีกต่างๆทั้ง ชงดื่มเอง ออฟฟิศ และร้านกาแฟต่างๆ สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อแฟรนไชส์จะใช้เงินเริ่มลงทุนมีค่าเครื่องชงกาแฟแบบร้อน 4,950 บาท หรือเครื่องชงแบบทั้งร้อนและเย็นราคา 6,590 บาท ราคากาแฟกล่องละ 250 บาท ภายในบรรจุทั้งหมด 25 แคปซูล ทำให้สามารถชงได้ 25 แก้วต่อกล่อง และลูกค้าไม่ต้องกังวลในการจัดส่งวัตถุดิบเพราะหายาก เนื่องจากทางบริษัทแม่ได้ติดต่อนำเข้ามาจากเวียดนามซึ่งมีระยะทางไม่ไกลมากและสามารถจัดส่งวัตถุดิบได้ตลอด และเครื่องชงมีการรับประกันมอเตอร์ 1 ปีซึ่งผลิตจากอิตาลี มีอะไหล่และศูนย์ซ่อม รวมถึงมีการบริการหลังการขายด้วย