Image credit: Shutterstock

6 วิธีช่วยให้นักช็อปฯ Gen-Z ซื้อสินค้าจากร้านของคุณ

Image credit: Shutterstock

6 วิธีช่วยให้นักช็อปฯ Gen-Z ซื้อสินค้าจากร้านของคุณ

เจน Z (Generations Z) เป็นคำใช้เรียกกลุ่มคนที่เกิดหลังปี ค.ศ.1995 ซึ่งในปัจจุบันปี 2017 นั่นก็หมายว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นยุคนี้นั่นเอง การจะทำให้สินค้านั้นเตะตาต้องใจเข้าถึงกลุ่มคนพวกนี้ นับว่าเป็นเรื่องยาก เพราะกลุ่มวัยรุ่นเป็นกลุ่มที่มีการเปลี่ยนแปลงความชอบ รสนิยม ไปตามกระแส มีวิวัฒนาการทางด้านแฟชั่นอยู่เสมอๆ ดังนั้นหากจะทำให้กลุ่มเจน Z เข้ามาซื้อสินค้าของคุณ คุณต้องมั่นใจว่าสินค้าของคุณนั้นตอบสนองพวกเขา และร้านของคุณนั้นโดดเด่น ดึงดูดพวกเขามากพอ เรามาดู 6 วิธีที่จะทำให้กลุ่มลูกค้าเจน Z ซื้อสินค้าจากร้านคุณ

1. ใช้โซเซียลให้เป็นประโยชน์

ยุคแห่งการซื้อขายออนไลน์ สะดวกรวดเร็ว ง่ายดาย ดังนั้นการจะสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น สื่อสังคมออนไลน์คือเครื่องมือสำคัญ ประโคมการขาย โดยการหมั่นโพสสินค้าขายบนหน้าเว็บไซต์หรือแฟนเพจ อย่าลืมว่าวัยรุ่นสมัยนี้เวลาที่จะซื้อสินค้าที่ต้องการ พวกเขาก็จะค้นหาในอินเตอร์เน็ตก่อน เพื่อหาสินค้าที่ถูกใจ ดังนั้นภาพทุกภาพ คลิปวีดีโอทุกคลิปที่คุณโพสออกไป ทุกๆการส่งต่อ(Share) ทุกคอมเม้นท์ (Comment) จะกลายเป็นการกระจายข้อมูลจากร้านของคุณไปยังกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น

2. เก็บข้อมูลลูกค้าไว้เป็นความลับ

กลุ่มวัยรุ่นมักจะมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัวที่ต้องใช้การซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ ดังนั้นๆคุณจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ โดยการเลือกใช้ระบบที่มีความปลอดภัยสูง สามารถปกป้องข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินของลูกค้าได้อย่างดี นอกจากจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าแล้ว ยังลดความเสี่ยงในธุรกิจจากการที่ข้อมูลค้ารั่วไหลได้

3. แชร์สินค้าให้หลากหลาย

กลุ่มเจน Z จะเป็นกลุ่มที่มีความหลายหลาย นอกจากในเรื่องเชื้อชาติแล้ว ยังมีความหลากหลายในรสนิยม หรือมีความชอบในสินค้าแต่ละประเภทและละชนิดที่ต่างกัน ดังนั้นหากคุณแชร์รูปสินค้าให้ครอบคลุม อย่าโพสขายแต่สินค้ากลุ่มเดิมๆ ให้สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกลุ่มสินค้ากันออกไป

4. เสียงเพลงเรียกลูกค้า

วิธีดึงดูดลูกค้าด้วยการเปิดเพลง เป็นวิธีที่เราพบเจอกันอยู่แล้วโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านหนังสือ ร้านกาแฟ เป็นต้น ซึ่งมันเป็นวิธีเรียกความสนใจได้ดีเลยทีเดียว นอกจากจะสร้างแรงดึงดูด เสียงเพลงที่เปิดในร้านยังเป็นการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าให้ทราบว่าขณะนี้ “ร้านเปิด”อยู่นั่นเอง ซึ่งก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปแม้จะไม่ใช่กลุ่มเจน Z ก็ตาม ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกเปิดมาเพลงมาเปิดก็ควรเป็นเพลงที่กำลังได้รับความนิยมถึงจะเข้ากับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ

5. ออกแบบร้านให้โดนใจ

กลุ่มวัยรุ่นเจน Z เวลาที่พวกเขาช็อปปิ้งนั้นจะจดจ่ออยู่กับสินค้าในระดับสายตา จะมีแนวโน้มที่ค่อนข้างจะไปมองหาสินค้าด้านบนสุด และจะมองหาสินค้าก่อนแทนที่จะดูป้ายแดงเป็นหลัก ดังนั้นการใช้ป้ายสินค้าราคาถูกควรนำไปใช้เป็นกลยุทธ์กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอื่นจะดีเหมาะกว่า สำหรับกลุ่มเจน Z พวกเขาจะมองหาสินค้าที่ถูกใจก่อนแล้วค่อยพิจารณาว่าสินค้านั้นพวกเขาสามารถจ่ายได้ ดังนั้นการวางสินค้าให้อยู่ในระดับสายตาถือเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้การเลือกสินค้ามาวาง

6. สินค้าจับต้องได้

สินค้าจับต้องได้ในที่นี่ หมายถึง “สินค้าสามารถสัมผัส จับดูได้” กลุ่มเจน Z จะมีความรู้สึกที่อยากจะได้ดู สัมผัสสินค้าก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ดังนั้นในการจัดวางสินค้าภายในร้านควรวางสินค้าให้พวกเขาได้เห็นอย่างชัดเจน ไม่วางอยู่สูงเกินไปหรือวางสินค้าอื่นบัง สร้างความรู้สึกว่าพวกเขาสามารถเข้าถึงสินค้าได้ เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ดูสินค้า พิจารณาสินค้าที่พวกเขาชอบ หลายครั้งเราจะเห็นว่าบางร้านนั้นไม่อนุญาตให้หยิบ จับ หรือสัมผัสสินค้า แม้แต่จะเข้าไปมองให้เห็นชัดๆยังลำบาก เพราะกลัวว่าจะทำสินค้าเสียหาย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เมื่อสินค้าบางชิ้นมีราคาสูง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะตั้งใจทำสินค้าเสียหาย ดังนั้นจึงต้องให้ความร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย เมื่อร้านค้าเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าอย่างใกล้ชิด ลูกค้าเองก็ต้องมีความเกรงใจ จับดูแต่พองาม

ทั้งหมด 6 ข้อที่กล่าวมานั้นเป็นวิธีการส่วนหนึ่งในการสร้างแรงดึงดูดใจกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น เจนZ ทั้งการใช้สื่อโซเชียลและการขายหน้าร้าน เหนือสิ่งอื่นใดของการขาย ต้องมีใจรักการขาย รักการบริการดูแลลูกค้า การบริการด้วยใจนี่แหละคือหัวใจสำคัญของการขาย ต้องตรงมาตรงไป ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทำสิ่งใหม่ๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก้าวล้ำทันเทรนด์ ทันกระแส อัพเดทแฟชั่นวัยรุ่นอยู่เสมอๆ การจะเอาชนะใจกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : https://smallbiztrends.com

แสดงความคิดเห็น