จบมหาวิทยาลัยไหน หรือ เกรดเฉลี่ยสูงก็ไม่สำคัญเท่าประสบการณ์ฝึกงาน

HRมองหาจากเด็กจบใหม่

ในสมัยก่อนเด็กจบใหม่ หรือคนทำงานหลายคนอาจจะได้ยินถึงเรื่องที่ว่าบางองค์กรมีนโยบายในการคัดสรรบุคคลโดยการเลือกสถาบันการศึกษา หรือคัดเฉพาะเด็กเกรดดี เด็กเกียรตินิยมเท่านั้น ซึ่งจะจริงตามที่เป็นกระแสอยู่หรือหรือไม่ คงไม่สำคัญเท่าความจริงในปัจจุบัน ที่องค์กรต่าง ๆ มากมาย อ้าแขนรับเด็กจบใหม่จากหลากหลายสถาบัน ปัจจุบันชื่อเสียงของสถาบันการศึกษาที่สำเร็จการศึกษามานั้นอาจจะมีส่วนบ้างในการรับบุคคลนั้นเข้าทำงาน แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้การันตีว่าบุคคลนั้นจะสามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หรือทำงานได้ตอบโจทย์องค์กรอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ แล้วอะไรคือปัจจัยที่ HR มองหาจากเด็กจบใหม่?

จากผลสำรวจของ jobsDB เรื่องสิ่งที่ HR มองหาจากเด็กจบใหม่ และให้ความสำคัญในการสัมภาษณ์งานนั้นประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก ๆ ก็คือ

1. มีประสบการณ์ในการฝึกงาน 75%
การฝึกงานเปรียบเสมือนการได้ทำงานในบรรยากาศจริง งานที่นักศึกษาฝึกงานได้ทำสามารถถูกพิจารณานำไปใช้ในชีวิตการทำงานจริง ๆ ได้ หากเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ และตอบโจทย์ความต้องการขององค์กร การที่เด็กจบใหม่ได้มีประสบการณ์การฝึกงาน จึงเป็นผู้ที่มีราศีดีกว่าเด็กจบใหม่คนที่ไม่มีประสบการณ์ฝึกงานแม้จะอยู่ในมหาวิทยาลัยที่เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง

2. มีประสบการณ์การทำงานนอกเวลา 49%
การทำงานนอกเวลานอกจากจะแสดงถึงประสบการณ์การทำงานที่จริงจังแล้ว ยังสามารถบ่งบอกถึงทักษะการแบ่งเวลาได้อย่างดีเยี่ยม บริหารเวลาทั้งเรื่องงาน และเรื่องเรียนได้อย่างลงตัว ซึ่งเรื่องนี้ ไม่เกี่ยบกับชื่อเสียงของสถาบันอีกเช่นเดียวกัน

3. เคยทำกิจกรรมนอกหลักสูตร 41%
การทำกิจกรรมนอกหลักสูตร แสดงถึงความใฝ่รู้ ความกระตือรือร้นที่จะหาประสบการณ์นอกตำรา ซึ่งป็นคุณสมบัติที่นานจ้าง หรือผู้ประกอบทุกคนต้องการ เพราะคนจำพวกนี้จะสร้างสรรค์ผลงานที่ดี เกินที่ตั้งเกณฑ์ไว้

ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่องค์กรต้องการก็คือ บุคคลากรที่มีความสามารถ และทัศนคติที่ดี เข้ามาทำงานร่วมกันในองค์กรได้อย่างปกติสุข สถาบันการศึกษาอาจเป็นใบเบิกทางที่บอกให้ผู้ประกอบการทราบถึงที่มาของวุฒิการศึกษาของเรา ซึ่งโลกแห่งการทำงานนอกรั้วมหาวิทยาลัยนั้น อาจไม่ได้มองที่สี ที่สถาบันการศึกษาเป็นหลัก แต่หากเป็นฝีมือการทำงาน และการเข้ากับสังคมการทำงานมากกว่า

ขอบคุณข้อมูลจาก JobsDB

แสดงความคิดเห็น