ขายข้าวแกง “บุฟเฟ่ต์ อิ่มไม่อั้น 35 บาท”(ยายแฮม)จัดให้ กินพุงกาง!!

ขายข้าวแกง “บุฟเฟ่ต์ อิ่มไม่อั้น 35 บาท”(ยายแฮม)
จัดให้ กินพุงกาง!!

ใครจะเชื่อว่ายุคข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ จะมีร้านขายข้าวแกง “แบบบุฟเฟ่ต์” อิ่มไม่อั้นกับราคาแค่ 35 บาท!! ในความเป็นจริงแล้วกับเศรษฐกิจเช่นนี้ที่ค่าครองชีพแสนแพง ค่าแรงแสนถูก ข้าวสารอาหารแห้งต่างก็ขึ้นราคาเอาๆ ยิ่งอาหารการกินแล้วด้วยมีแต่จะขึ้นราคาเสียมากกว่า แต่สำหรับร้านขายข้าวแกงร้านนี้ ขอสวนกระแส คืนความสุขให้ลูกค้า จัดเต็มข้าวแกงแบบเอาใจลูกหลาน ให้กินอิ่มโดยไม่กลัวเจ้งกันเลยก็ว่าได้ ป้าใจดีท่านนี้คือ “คุณกัลยา วงศ์ราช” เจ้าของร้านข้าวแกงบุฟเฟ่ต์ อิ่มละ 35 บาท ที่ใครๆต่างก็เรียกกันติดปากว่า “ยายแฮม”

ยายแฮมนั้นแต่เดิมเคยเปิดร้านขายข้าวแกงอยู่แถวศาลาว่าการกรุงเทพฯ แต่ต่อมาก็ต้องหยุดขายไปเพราะเกิดการเรียกคืนพื้นที่ตรงนั้น ทำให้ยายแฮมต้องกลายมาเป็นแม่ครัวประจำบ้านแทน ด้วยความที่ทำอาหารให้ครอบครัวทานอยู่ทุกวัน และยายแฮมสังเกตว่าที่บ้านนั้นเป็นครอบครัวใหญ่ เวลาที่ทำอาหารทีนึงก็มักจะทำครั้งละมากๆ เลยคิดว่าไหนๆก็ทำคราละตั้งเยอะแล้ว ก็น่าจะเปิดร้านขายข้าวแกงขึ้นมาอีกครั้งไปเลย เพราะถึงแม้ว่าจะทำขายแล้วเหลือก็ไม่เป็นปัญหา เพราะสามารถนำมาให้คนในครอบทานได้

เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงตั้งใจเริ่มขายข้าวแกงกันอีกครั้ง แต่เมื่อมองในเรื่องของจุดขายของร้าน ก็พบว่าทุกครั้งเวลาที่ต้องพาครอบครัวไปทานอาหารกันนอกบ้าน ปัญหาที่เจอของแต่ละคนในครอบก็เช่น ได้อาหารน้อยเกินไปทานจานเดียวไม่อิ่ม ยิ่งเป็นผู้ชายตัวโตด้วยแล้วแค่จานเดียวคงไม่พอแน่นอน หากจะให้ทานหลายจานก็คงสู้ราคาไม่ไหว เพราะราคาต่อจานก็ 40-50 เข้าไปแล้ว ยิ่งครอบครัวเป็นครอบครัวใหญ่ไปกันหลายคนแล้วด้วยละก็ ถ้าเบิ้ลคนละสองจาน คนจ่ายมื้อนั้นคงควักกระเป๋ากันตัวเบาอย่างแน่นอน

และจากปัญหาดังกล่าวนี้เองเลยทำให้ยายแฮม ตัดสินใจขายข้าวแกงแบบบุฟเฟ่ต์ เพื่อให้ทุกคนได้ทานข้าวแกงของยายแฮมกันอย่างอิ่มท้อง อิ่มใจ สบายกระเป๋า โดยยายแฮมมองว่า ถ้าจะให้ขาย 40-50 บาท ก็สงสารคนที่มีรายได้น้อย หาเช้ากินค่ำแล้วต้องมาต่อสู้กับราคาค่าอาหารที่แสนแพงอีกก็คงไม่ไหว สำหรับคนที่เขามีกำลังจ่ายได้ก็คงมองเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับคนที่เขาไม่มีจ่ายแล้วนั่นเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขา สำหรับคนที่เขาไม่มี ยายแฮมใจดีก็จะให้ตักอาหารกินจนอิ่ม กี่จานก็ได้ในราคา 35 บาทเท่านั้น

มองในเรื่องของต้นทุนและกำไรขาดทุนแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วยายแฮมจะขาดทุนหรือไม่ในเมื่อเล่นขายข้าวแกงกันแบบตักไม่อั้น ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ชายตัวโตๆทั้งนั้น ทานครั้งนึงก็2-3 จาน ไม่ก็ตักครั้งละเต็มจาน จานพูนๆกันเลยก็มี ยิ่งเพิ่มไข่อีก คนนึงก็ทานไม่ต่ำกว่า 2-3 ฟอง ซึ่งในสภาวะปัจจุบันนี้ราคาต้นทุนแต่ละอย่างก็แพงแล้วมาขายถูกๆแบบนี้นับว่าได้ยากมาก

ยายแฮมเองก็บอกว่า การที่ขายข้าวแกงในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ตักไม่อั้นนี้แล้วยังคงอยู่ได้นั่นก็เพราะว่า แม้ว่าจะมีคนที่กินเยอะ กินเก่ง มาเป็นลูกค้าก็ตาม แต่ทั้งนี้ก็ยังมีลูกค้าในส่วนที่ทานน้อยอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็จะเป็นสัดส่วนในการเฉลี่ยหารต้นทุนกันไป เดือนหนึ่งๆรายได้ไม่ต่ำกว่าประมาณ 20,000 บาท เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่ยายแฮมขายข้าวแกงนั้น ยังเป็นการลดภาระในการควักกระเป๋าจ่ายค่าวัตถุดิบในการทำอาหารให้ครอบครัวทานเพิ่ม และอีกปัจจัยหนึ่งคือการได้ทำอาหารให้ลูกหลานทานกันอย่างอิ่มท้องนั่นคือความสุขอย่างหนึ่งของยายแฮม

 

ร้านขายข้าวแกงของยายแฮม เริ่มเปิดขายกันตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปจนถึง 15.00น โดยจะเป็นข้าวแกงแบบบุฟเฟต์ทำอาหารเป็นรอบๆ ช่วงเช้ารอบแรกตอน 7 โมงจะมีกับข้าวประมาณ 10-15 อย่าง ส่วนใหญ่เป็นเมนูยอดฮิตของไทย เช่น กะเพรา ไข่พะโล้ แกงเขียวหวาน ทอดมัน ผัดผักรวม ฯลฯ บางวันก็จะมีเมนูพิเศษ เช่น น้ำพริกลงเรือ ปลาทอด เป็นต้น เมนูไหนหมดก็จะทยอยทำมาเสริมเพิ่มเติมให้เต็มอยู่เสมอ โดยจะทำสดใหม่ตลอด ไม่มีการทำทิ้งไว้ค้างคืน สำหรับรอบบ่ายจะเริ่มตั้งอาหารตอน 11 โมง ไว้รองรับลูกค้าที่มาทานตั้งแต่ช่วงเที่ยงไปจนถึงบ่าย ส่วนอาหารก็จะคอยมาดูเรื่อยๆว่ามีกับข้าวอย่างไหนหมดบ้างก็จะทยอยทำเรื่อยๆ

สำหรับขาวแกงบุฟเฟ่ต์นี้ ลูกค้าสามารถตักเท่าไหร่ก็ได้เหมือนอาหารบุฟเฟ่ต์ที่เคยทานกันทั่วไป แต่มีข้อแม้ว่า “ตักมาแล้วต้องทานให้หมด” หากตักมาแล้วทานไม่หมดก็จะโดนปรับเท่ากับปริมาณอาหารในส่วนที่เกินไป!!

ข้อมูลติดต่อร้านขายข้าวแกง
ร้านยายแฮม ถนนกัลปพฤกษ์ กรุงเทพมหานคร
โทร. 09-2254-2977

หมายเหตุ : รูปภาพและวิดีโอที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ