ธุรกิจเครื่องประดับ “อัฐิมณี” เก็บเรื่องราวเล่าผ่านเครื่องประดับ

ธุรกิจเครื่องประดับ “อัฐิมณี” เก็บเรื่องราวเล่าผ่านเครื่องประดับ

ธุรกิจเครื่องประดับ “อัฐิมณี” เก็บเรื่องราวเล่าผ่านเครื่องประดับ

ไม่มีใครบนโลกนี้ที่ไม่เคยสูญเสียสิ่งหรือคนที่เป็นที่รัก หลายคนกลับเลือกที่จะจมอยู่กับความรู้สึกผิดหรืออยู่กับความเศร้า แต่อีกหลายคนเลือกนำเอาสิ่งที่ดีของบุคคลเหล่านั้นมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต รวมทั้งนำมาเป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกเสมอว่าไม่มีสิ่งใดจีรัง ซึ่งความคิดแบบนี้ได้ก่อให้เกิดธุรกิจเครื่องประดับรูปแบบใหม่ที่ยังไม่สามารถหาได้ทั่วไปตามตลาดของไทยมาก่อน ซึ่งก็คือ “อัฐิมณี”

ธุรกิจเครื่องประดับอัฐิมณีนั้นสามารถแปลความหมายได้ตรงตัวเลยว่าคือการนำอัฐิหรือกระดูกของบุคคลที่ล่วงลับนำมาทำเป็นเครื่องประดับ โดยผ่านนวัตกรรมต่างๆ ซึ่งแบรนด์นี้ได้ก่อตั้งโดย “ดร.กุลจิรา สุจิโรจน์” ที่ได้ไอเดียนี้มาเมื่อตนได้สูญเสียคุณพ่อไป จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อมาดูแลและใช้เวลากับคุณแม่อย่างเต็มที่ โดยระหว่างนี้จะทำธุรกิจส่วนตัวควบคู่ไปด้วยคือแบรนด์อัฐิมณี ภายใต้ชื่อ “บริษัท ไมนด์มณี จำกัด”

ธุรกิจเครื่องประดับ “อัฐิมณี” เก็บเรื่องราวเล่าผ่านเครื่องประดับ

อัฐิมณีนับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจเครื่องประดับที่ประสบความสำเร็จด้านการสร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่นในธุรกิจประเภทเดียวกันเป็นอย่างมาก ซึ่งกว่าจะเป็นที่รู้จักอย่างทุกวันนี้ต้องผ่านการวิจัยและใช้ประสบการณ์ของคุณกุลจิราที่อยู่ในวงการวัสดุศาสตร์มานานกว่า 20 ปี ทั้งสมัยจบการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านวัสดุศาสตร์ในฐานะนักเรียนทุนของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และยังเคยเป็นนักวิจัยวัสดุศาสตร์ของศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ

เอกลักษณ์ของอัฐิมณีนั้นแสดงออกตั้งแต่รูปแบบของธุรกิจที่เป็นการนำเถ้ากระดูกของมนุษย์ทั้งฟันหรือกระดูกส่วนต่างๆของร่างกายมาผ่านนวัตกรรมและเผาบดละเอียดด้วยอุณหภูมิสูงซึ่งไม่ใช้สารเคมีใดๆ ทำให้ได้อัฐิที่มีลักษณะคล้ายหินอ่อนหรือเซรามิก โดยอัฐิแต่ละชิ้นนั้นจะมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันไปตามอายุ เพศ อาหารที่ทาน ลักษณะการฌาปนกิจ ฯลฯ

ธุรกิจเครื่องประดับ “อัฐิมณี” เก็บเรื่องราวเล่าผ่านเครื่องประดับ ธุรกิจเครื่องประดับ “อัฐิมณี” เก็บเรื่องราวเล่าผ่านเครื่องประดับ

หลังจากนั้นจึงนำอัฐิที่ผ่านกระบวนการต่างๆแล้วมาออกแบบเป็นเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์ไม่แพ้กัน เพราะเครื่องประดับเหล่านี้สามารถพกติดตัวไปได้ นอกจากจะทำให้ผู้สวมใส่มีของไว้ระลึกถึงบุคคลที่รักแล้ว ยังเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจไม่ให้ใช้ชีวิตบนความประมาทด้วย

ทั้งนี้ กระบวนการแปรรูปอัฐินั้นจะเป็นไปด้วยความประณีตและรอบคอบด้วยระบบบาร์โค้ดที่มีสำหรับอัฐิทุกชิ้น เพื่อป้องกันการสลับหรือสูญหาย ช่างฝีมือแต่ละคนจะประดิษฐ์ชิ้นงานออกมาด้วยความเคารพ อีกทั้งในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทำให้สินค้าเสียหาย ธุรกิจเครื่องประดับอัฐิมณียังยินดีประดิษฐ์ชิ้นงานใหม่ในราคาลด 50% ซึ่งถือเป็นการซื้อน้ำใจลูกค้าอย่างมาก เพราะราคาสินค้าแต่ละชิ้นนั้นค่อนข้างสูง เริ่มต้นที่หลักหมื่นบาทต่อชิ้น

ธุรกิจเครื่องประดับ “อัฐิมณี” เก็บเรื่องราวเล่าผ่านเครื่องประดับ ธุรกิจเครื่องประดับ “อัฐิมณี” เก็บเรื่องราวเล่าผ่านเครื่องประดับ

สำหรับช่องทางการตลาดนั้นจะเน้นไปที่การซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่ทางแบรนด์ได้สร้างไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าอย่างหลากหลายทั้งเว็ปไซต์ Facebook และ Line รวมทั้งมีการออกบูทงานแสดงสินค้าต่างๆที่เน้นไปที่การนำเสนอนวัตกรรมเป็นหลัก และด้วยความแปลกใหม่ของธุรกิจยังทำให้ได้รับการประชาสัมพันธ์โดยสื่อโฆษณาต่างๆอย่างต่อเนื่อง

นับจากวันที่ธุรกิจเครื่องประดับอัฐิมณีเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณ 5 ปีก่อน ปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าเริ่มมีธุรกิจรายอื่นที่เป็นคู่แข่งบ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตามทางแบรนด์ได้มีการจดสิทธิบัตรนวัตกรรมการแปรรูปอัฐิไว้ทำให้ไม่มีใครสามารถนำนวัตกรรมนี้ไปลอกเลียนแบบได้ และนอกจากนี้แบรนด์ยังได้รับรางวัล Thailand SME Inno Award 2015 ด้านความคิดสร้างสรรค์ จึงทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย

ธุรกิจเครื่องประดับ “อัฐิมณี” เก็บเรื่องราวเล่าผ่านเครื่องประดับ

ข้อมูลติดต่อธุรกิจเครื่องประดับอัฐิมณี
เว็ปไซต์ : http://www.mindmani.com
Facebook : @MindManiPage
Line : @cremaingem
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2605-1331

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : อัฐิมณี

แสดงความคิดเห็น


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *