ธุรกิจแฟรนไชส์ “Brainfitness Home”
ตอบโจทย์คุณแม่ ทำงานได้แม้เลี้ยงลูกอยู่บ้าน
คุณแม่ทุกคนนั้นเมื่อให้กำเนิดลูกน้อยแล้วต่างอยากเลี้ยงดูลูกเองทั้งสิ้น ทั้งอยากเห็นพัฒนาการของเขาในทุกๆด้าน เห็นความสุขที่ฉายบนใบหน้าเมื่อลูกกินอิ่มนอนหลับ แต่ด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปในปัจจุบันนี้ ผู้หญิงไม่ได้เป็นแม่บ้านคอยเลี้ยงลูกอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังต้องไปทำงานนอกบ้าน อีกทั้งบางครั้งยังมีการทำงานล่วงเวลาอีกด้วยซึ่งยุ่งไม่ต่างจากผู้ชาย ดังนั้นจึงไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกตอนเลี้ยงลูกเองมากเท่าที่ควร ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างมาก
ทางออกของปัญหานี้คือ คุณแม่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านจึงจะได้ทำทั้งงานและเลี้ยงลูก ซึ่งตรงกับแนวคิดของธุรกิจแฟรนไชส์ “เบรนฟิตเนสโฮม(Brain Fitness Home)” ที่มีผู้ก่อตั้งคือ “ครูแอ๊น-ดร.ชญานิธิ แบร์ดี้” ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเด็ก โดยสามารถเรียกเบรนฟิตเนสโฮมได้ว่าเป็นโรงเรียนพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทางสมองของเด็กในวัย 3-7 ขวบ โดยสามารถเปิดสถาบันได้ที่บ้านพร้อมกับการเลี้ยงลูก
จุดเริ่มต้นของธุรกิจแฟรนไชส์นี้เกิดขึ้นในปี 2553 โดยมีแนวคิดมาจาก “แม่” นั้นเปรียบเสมือนคุณครูคนแรกของลูก ไม่ว่าจะเป็นการสอนให้พูด สอนให้เดิน สอนเรื่องความรัก สอนเรื่องการใช้ชีวิต ฯลฯ ซึ่งแม่ทุกคนสามารถสอนลูกของตนเองได้อย่างดีที่สุด จึงเป็นที่มาของศัพท์เฉพาะของทางเบรนฟิตเนสโฮม คือ “แม่ครู” ซึ่งมาจากการผสมคำระหว่างคำว่า แม่ และ ครู สามารถสื่อความหมายออกมาได้อย่างตรงประเด็นและดีเยี่ยม
จุดประสงค์ของธุรกิจแฟรนไชส์เบรนฟิตเนสโฮมนั้นคือต้องการขยายความรู้ ทักษะ และพัฒนาการให้แก่เด็กทั่วประเทศไทย โดยใช้วิธีการพัฒนาที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เพราะพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ไม่ทราบและไม่เข้าใจว่าเด็กเล็กแต่ละวัยมีความต่างกันอย่างไรและต้องพัฒนาทักษะด้านใดก่อนเพื่อให้เหมาะสมกับวัยของพวกเขา ด้วยความไม่เข้าใจนี้ทำให้พ่อแม่เกิดความคาดหวังในสิ่งที่ลูกน้อยยังไม่สามารถทำได้ เช่น การซื้อรถบังคับให้เด็กน้อยวัย 2 ขวบ แต่เขายังไม่สามารถบังคับได้ เพราะยังไม่ได้มีพัฒนาการทางตาและการสัมผัสที่สัมพันธ์กันมากนัก
ธุรกิจแฟรนไชส์เบรนฟิตเนสโฮมจะเน้นการพัฒนาทักษะให้แก่เด็กๆทั้งหมด 5 ด้าน ได้แก่
- พัฒนาการทางด้านร่างกาย เป็นการพัฒนากล้ามเนื้อมัดต่างๆด้วยกิจกรรมสนุกๆที่เด็กชอบ เช่น การออกกำลังกาย การทำกิจกรรมเข้าจังหวะ การทำงานประดิษฐ์ เช่น ร้อยลูกปัด ฉีกกระดาษทำงานศิลปะ เป็นต้น
- พัฒนาการทางด้านอารมณ์ เพื่อให้เด็กสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้และทำให้มีอารมณ์แจ่มใส โดยมีอุปกรณ์ที่ใช้คือนิทานและดนตรีแบบต่างๆ
- พัฒนาการทางด้านสังคม โดยให้เด็กเล่นกันเป็นกลุ่ม เขาจะสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองว่าต้องทำตามมารยาทอย่างไร ได้เรียนรู้การแบ่งปันให้แก่คนอื่น และมีความเข้าใจในกติกา กฎเกณฑ์ของสังคมนั้น
- พัฒนาการทางด้านสติปัญญา เด็กจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงทั้งเป็นของจริงหรือสถานการณ์ที่จำลองขึ้น เช่น เรียนรู้การแบ่งส่วนจากการผ่าผลไม้จริง ฯลฯ
- พัฒนาการทางด้านจริยธรรม จริยธรรมเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเด็กเพราะจะสามารถกำหนดแนวคิดและชีวิตของเขาได้ในอนาคต ซึ่งพัฒนาการทางด้านนี้จะมีการเรียนรู้ผ่านการลอกเลียนแบบแม่ครู เช่น การกล่าวสวัสดี การขอบคุณเมื่อผู้อื่นทำสิ่งใดให้ และกล่าวขอโทษเมื่อตนได้ทำผิด
ระยะเวลาการเรียนทั้งหมดของหลักสูตรอยู่ที่ประมาณ 1 ปี โดยเรียนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง 1 คอร์สมีทั้งหมด 12 ครั้ง รวมเป็น 4 คอร์สต่อปี โดยเสียค่าใช้จ่ายคอร์สละ 5,400 บาท สำหรับผู้ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์สามารถลงทุนได้โดยใช้งบประมาณ 250,000 บาท จะได้รับอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนการสอนชนิดต่างๆ เช่น เก้าอี้เด็ก โต๊ะเด็ก หนังสือนิทาน สื่อการเรียนการสอนอื่นคอร์สอบรมแม่ครู เป็นต้น โดยใช้พื้นที่ในบ้านประมาณ 20 ตารางเมตร
เป้าหมายต่อไปคือการขยายสาขา 10 สาขาในปี 2558 ส่วนในปี 2559 คาดว่าจะมีทั้งหมด 50 สาขา และเป็น 100 สาขาในปี 2560 แม้ในปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์เกี่ยวกับการศึกษาจะมีจำนวนมากทั้งของสถาบันไทยและต่างประเทศ จึงมีทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคมาก
ข้อมูลติดต่อธุรกิจแฟรนไชส์เบรนฟิตเนสโฮม
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2784-7884, 088-0228574
เว็ปไซต์: www.brainfitness.co.th
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น