กระเป๋าหนังผ้าไทย “Jai” ธุรกิจผสานความแตกต่าง สร้างเทรนด์แฟชั่นใหม่
กระเป๋าหนังผ้าไทย “Jai” ธุรกิจผสานความแตกต่าง สร้างเทรนด์แฟชั่นใหม่

กระเป๋าหนังผ้าไทย “Jai” ธุรกิจผสานความแตกต่าง สร้างเทรนด์แฟชั่นใหม่

กระเป๋าหนังผ้าไทย “Jai” ธุรกิจผสานความแตกต่าง สร้างเทรนด์แฟชั่นใหม่

กระเป๋าหนังผ้าไทย “Jai” ธุรกิจผสานความแตกต่าง สร้างเทรนด์แฟชั่นใหม่

ด้วยความที่ไม่อยากถูกจำกัดด้วยกรอบเดิมๆ ที่ว่าผ้าไทยนั้นเหมาะสำหรับคนสูงอายุ ไอเดียผสานความแตกต่างแต่ลงตัวจึงเกิดขึ้น กลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์แฟชั่นที่ใครก็ไม่อาจมองข้าม กับกระเป๋าหนังผ้าไทยภายใต้แบรนด์ “Jai”

คุณ “พรรษพร แรมส์บอททอม เจ้าของไอเดียนี้ จบการศึกษาทางด้านบริหารธุรกิจจากประเทศอังกฤษ ทั้งยังมีโอกาสทำงานภายในองค์กรชั้นนำต่างๆ แต่ด้วยความชอบส่วนตัวในแฟชั่นและกระเป๋าถือ เมื่อคุณพรรษพรมองเห็นโอกาส เธอจึงไม่รีรอที่จะเข้ามาเติมเต็มความใฝ่ฝัน ทำการเปิดแบรนด์ “Jai” ของตนเองทันที

กระเป๋าหนังผ้าไทย “Jai” ธุรกิจผสานความแตกต่าง สร้างเทรนด์แฟชั่นใหม่

หากพูดถึงแรงบันดาลใจหรือที่มาของธุรกิจกระเป๋าผ้าหนังไทยนี้แล้ว คงจะต้องตอบว่ามาจาก “ใจ” ของคุณพรรษพรล้วนๆ เพราะเธอได้นำผ้าไทย ซึ่งเป็นศิลปะที่โปรดปรานเป็นพิเศษมาเป็นตัวชูโรงของผลิตภัณฑ์ ถึงแม้ว่าหลายๆคนมักจะวาดภาพของวัฒนธรรมชิ้นนี้ให้อยู่คู่กับผู้สูงอายุ แต่คุณพรรษพรกลับมองถึงเสน่ห์ที่ไม่เหมือนผ้าแบบใดๆ ที่ควรจะถูกหยิบมาใช้กับผู้หญิงในทุกๆวัย

ประกอบกับช่วงนี้ที่เทรนด์วัยรุ่นกำลังหันมามองชุดแต่งกายแบบไทยๆเป็นจำนวนมาก คุณพรรษพรจึงมองว่านี่เป็นโอกาสซึ่งจะนำพาให้ กระเป๋าหนังผ้าไทยแบรนด์ “Jai” เป็นสินค้าติดลม ถึงแม้ว่าจะเริ่มมีผู้ประกอบการใส่ความเป็นไทยลงในแฟชั่นล้ำสมัยมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เนื่องด้วยไอเดียนี้ เป็นไอเดียใหม่ที่ยังไม่เคยพบเห็นในตลาด โดยเฉพาะสินค้าประเภทกระเป๋าหนังที่ไม่เคยมีใครหยิบมันมาผสานกับผ้าไทยอย่างจริงๆจังๆ คุณพรรษพรจึงเชื่อว่ายังมีช่องว่างทางการตลาดอยู่สูงที่ธุรกิจของเธอสามารถเจริญเติบโตได้

กระเป๋าหนังผ้าไทย “Jai” ธุรกิจผสานความแตกต่าง สร้างเทรนด์แฟชั่นใหม่

กระเป๋าหนังผ้าไทยนอกจากจะมีดีที่ความคิดสร้างสรรค์แล้ว คุณภาพของผลิตภัณฑ์เองก็เป็นที่ยอมรับ เพราะไม่ว่าจะเป็นผ้าไทยบนกระเป๋าที่ถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ต้องเป็นผ้าที่มีความแข็งแรงทนทานอย่าง ผ้าปักมือของชาวไทยภูเขา หรือผ้าทอรายของจังหวัดต่างๆ อุปกรณ์ต่างๆอย่าง ซิป หมุดปัก เองก็เช่นกัน ต้องเป็นของที่มีเกรดดีที่สุด ในการผลิตเองก็เช่นกัน ด้วยความที่ต้องมีการผลิตอย่างละเอียดรอบคอบ จึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในวงการนี้ ซึ่งคุณพรรษพรเองก็เลือกว่าจ้างช่างฝีมือดีเพื่อผลงานของเธอที่สมบูรณ์แบบ การันตีถึงคุ้มค่าในทุกๆตารางนิ้ว นอกจากนี้ กระเป๋าหนังผ้าไทยอย่าง “Jai” ยังพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น สามารถใช้ได้ทั่วไปแบบหิ้ว หรือออกงานในรูปแบบสะพายได้อีกด้วย

คุณพรรษพรเผยว่า..กว่าจะมายืนถึงจุดๆนี้ ต้องใช้เงินลงทุนไปเหยียบสามแสนบาท ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยความประณีตบรรจงกับผลงาน ทำให้ทุกๆส่วนประกอบของกระเป๋าหนังผ้าไทยภายใต้แบรนด์ “Jai” ล้วนแล้วเป็นวัสดุเกรดดี ทนทาน เหมาะสมต่อการใช้งาน โดยผ้าไทยที่คุณพรรษพรมองไว้มีหลายแบบ ตั้งแต่ผ้าปีกมือของชาวไทยภูเขา ผ้าจากการทอมือของคนท้องถิ่นภาคอีสาน และผ้าทอลายโบราณจากปักษ์ใต้ ในส่วนของหนังนั้นก็เป็นหนังวัวแท้ เช่นเดียวกับวัสดุอื่นๆอาทิ ซิป ห่วงคล้อง ของตกแต่งเพิ่มเติมต่างๆซึ่งล้วนแล้วได้คุณภาพทั้งสิ้น

กระเป๋าหนังผ้าไทย “Jai” ธุรกิจผสานความแตกต่าง สร้างเทรนด์แฟชั่นใหม่

เริ่มต้นนั้น คุณพรรษพรได้ทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ โซเชี่ยลมีเดียเป็นตัวกลางในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระเป๋าหนังผ้าไทยเป็นส่วนใหญ่ เช่นเฟซบุ๊ค อินสตราแกรม ไลน์ และเว็บไซต์ส่วนตัวของแบรนด์ เพราะเนื่องจากคุณพรรษพรเล็งเห็นถึงความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง พร้อมใช้ต้นทุนการโฆษณาที่น้อย อาศัยการบอกเล่าความประทับใจปากต่อปาก เพิ่มเติมด้วยการนำสินค้าออกจัดงานแสดงตามเทศกาลหรือโอกาสต่างๆ พร้อมเข้าร่วมกับโครงการจากรัฐบาล โดยสุทธิราคาที่ใบละ 5,000 – 6,500 บาทต่อใบ

กระเป๋าหนังผ้าไทย “Jai” ธุรกิจผสานความแตกต่าง สร้างเทรนด์แฟชั่นใหม่

ในภายภาคหน้า โปรเจคก์ที่คุณพรรษพรวางไว้คือการเปิดห้องจัดแสดงสินค้าแบรนด์ “Jai” เป็นของตน เพื่อเพิ่มช่องทางและโอกาส รวมไปถึงแผนที่จะบุกตลาดต่างประเทศอีกด้วย

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำความชอบ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ และทิศทางของตลาด กลายเป็นธุรกิจที่น่าจับตามองไม่แพ้ธุรกิจอื่นๆเลยทีเดียว

กระเป๋าหนังผ้าไทย “Jai” ธุรกิจผสานความแตกต่าง สร้างเทรนด์แฟชั่นใหม่

ข้อมูลติดต่อธุรกิจกระเป๋าหนังผ้าไทย  “Jai”
โทรศัพท์: 08-5842-3700
เฟซบุ๊ค: Jai
เว็บไซต์: http://www.thai-jai.com/home.html
อีเมลล์: Passaporn@thai-jai.com

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก บัวลอยแฟนซีบ้านยะลา
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น