กระเป๋าหนังแท้ “พงษ์ภูลี” เอสเอ็มอีหลักล้าน สร้างกำไรให้ตัวแทนขายโดยไม่ต้องลงทุน
กระเป๋าหนังแท้ “พงษ์ภูลี” เอสเอ็มอีหลักล้าน สร้างกำไรให้ตัวแทนขายโดยไม่ต้องลงทุน

กระเป๋าหนังแท้ “พงษ์ภูลี” เอสเอ็มอีหลักล้าน สร้างกำไรให้ตัวแทนขายโดยไม่ต้องลงทุน

กระเป๋าหนังแท้ “พงษ์ภูลี” เอสเอ็มอีหลักล้าน สร้างกำไรให้ตัวแทนขายโดยไม่ต้องลงทุน
รูปภาพจาก : lovedtoshop.blog.fc2blog.us

กระเป๋าหนังแท้ “พงษ์ภูลี” เอสเอ็มอีหลักล้าน
สร้างกำไรให้ตัวแทนขายโดยไม่ต้องลงทุน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการตลาดเป็นส่วนสำคัญหนึ่งที่ทำให้แบรนด์สินค้าประสบความสำเร็จได้ สินค้าที่ดีถ้ามีการตลาดที่ไม่ดีก็ไม่สามารถสร้างความน่าสนใจให้เป็นที่รู้จักของลูกค้าได้ ดังนั้น เจ้าของแบรนด์ต่างๆในปัจจุบันได้มีการคิดค้นกลยุทธ์ทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การโฆษณาไปจนถึงรูปแบบการขายที่มีทั้งขายด้วยตัวเองหรือผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งกระเป๋าหนังแท้ “พงษ์ภูลี” เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่หลังจากทำการตลาดแล้วสามารถสร้างยอดขายได้แบบก้าวกระโดดเช่นกัน

กระเป๋าหนังแท้พงษ์ภูลีนั้นผลิตมาจากหนังวัวแท้ เป็นสินค้าแฮนด์เมดที่มีความประณีตในการผลิต จุดเริ่มต้นของแบรนด์กระเป๋านี้มาจากคู่สามีภรรยา “คุณวุฒิพงษ์และคุณนาลี เทพสิงห์” ที่แม้จะไม่ได้จบการศึกษาด้านนี้มาโดยตรง แต่ด้วยใจรักและความต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ คุณวุฒิพงษ์ได้ซื้อหนังสือสอนทำกระเป๋าและซื้อหนังวัวมาลองทำกระเป๋าใช้เอง หลังจากผลิตชิ้นงานเสร็จ เพื่อนๆต่างรู้สึกชื่นชอบในผลงานของเขาและสั่งซื้อเข้ามา จึงได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้เขาเปิดร้านขายอย่างเป็นทางการเช่นในปัจจุบัน

กระเป๋าหนังแท้ “พงษ์ภูลี” เอสเอ็มอีหลักล้าน สร้างกำไรให้ตัวแทนขายโดยไม่ต้องลงทุน
รูปภาพจาก : just5moreminutes.com

ในช่วงนั้นการขายกระเป๋าหนังแท้แฮนด์เมดยังเป็นเพียงงานอดิเรกของคนทั้งคู่เท่านั้น ต่อมาจึงได้ไปเรียนทำกระเป๋าเพิ่มเติมที่ศูนย์อบรมวิชาชีพ จ.เชียงใหม่ แล้วนำมาวางขายที่ถนนคนเดิน จ.เชียงใหม่ ซึ่งกระแสตอบรับที่ได้นั้นดีเกินคาดมาก จนเวลาผ่านไปกว่า 2 ปี งานอดิเรกก็ได้กลายมาเป็นงานประจำที่สร้างรายได้จำนวนมากให้แก่คู่สามีภรรยา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเดินทางไปขายเองตามตลาดนัดหรือแหล่องท่องเที่ยวต่างๆ

จุดเด่นของแบรนด์พงษ์ภูลีคือ หนังที่ใช้ทำกระเป๋านั้นเป็นหนังวัวแท้ที่ออกแบบมาเรียบง่ายตามคำแนะนำของลูกค้า และเป็นกระเป๋าแฮนด์เมดที่ใช้แรงงานคนประมาณ 23 คนในรูปแบบของธุรกิจครอบครัว เพราะล้วนแต่เป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนบ้านคนสนิททั้งสิ้น สินค้านั้นมีหลากหลายรูปแบบตั้งแต่พวงกุญแจอันเล็ก เข็มขัด กระเป๋าเงินไปจนถึงกระเป๋าใบใหญ่ เสน่ห์อย่างหนึ่งของกระเป๋าหนังจะอยู่ที่ความทนทานและยิ่งใช้งานนานสีของหนังจะยิ่งสวย สนนราคาอยู่ที่ 20-5,000 บาทต่อชิ้น และทางแบรนด์ยังมีการรับจ้างผลิตงานเครื่องหนังด้วย

กระเป๋าหนังแท้ “พงษ์ภูลี” เอสเอ็มอีหลักล้าน สร้างกำไรให้ตัวแทนขายโดยไม่ต้องลงทุน
รูปภาพจาก : www.pinterest.com

ต่อมาเพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น การตลาดจึงเข้ามามีส่วนในการพัฒนาแบรนด์ ทั้งสองคนได้เริ่มเปิดรับตัวแทนจำหน่ายเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ในช่วงแรกมักจะประสบปัญหาว่าตัวแทนจำหน่ายไม่ค่อยมารับสินค้าไปขายมากนัก เพราะรับไปแล้วกลัวขายไม่หมดหรือขาดทุน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาตรงจุดนี้ ทั้งคู่จึงตัดสินใจปรับปรุงระบบให้ตัวแทนจำหน่ายสามารถนำสินค้าไปขายได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินลงทุนก่อนในวงเงิน 20,000 บาท

เพื่อเป็นการป้องกันกรณีถูกโกง เจ้าของแบรนด์จะมีการคัดเลือกตัวแทนอย่างจริงจัง มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อดูถึงความตั้งใจในการขายสินค้าจริงๆจนให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน นอกจากนี้ตัวแทนต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด เช่น ต้องมีสถานที่จำหน่ายที่เหมาะสม ห้ามนำสินค้าไปลอกเลียนแบบ ต้องเข้าไปเช็คสต็อกสินค้าทุกสัปดาห์ หรือห้ามนำสินค้าจากรายอื่นมาขาย เป็นต้น ซึ่งผลตอบแทนที่ตัวแทนจะได้คือกำไรส่วนต่างที่ขายได้ นับว่าเป็นวิธีการขายที่ยืดหยุ่นมาก

กระเป๋าหนังแท้ “พงษ์ภูลี” เอสเอ็มอีหลักล้าน สร้างกำไรให้ตัวแทนขายโดยไม่ต้องลงทุน
รูปภาพจาก : favim.com

แม้ว่าวิธีนี้จะค่อนข้างเสี่ยงที่จะถูกโกงเงินแต่ผลตอบรับที่ได้นั้นเรียกได้ว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยง เพราะเมื่อรวมยอดขายจากทุกช่องทางจำหน่ายแล้วในปัจจุบันนี้ กระเป๋าหนังแท้พงษ์ภูลีสามารถสร้างรายได้ให้แก่ทั้งคู่ประมาณ 2.5 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งยังได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอทอป มีโอกาสได้ออกงานแสดงสินค้าต่างๆ และยังได้รับความช่วยเหลือทางด้านเงินทุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

กระเป๋าหนังแท้ “พงษ์ภูลี” เอสเอ็มอีหลักล้าน สร้างกำไรให้ตัวแทนขายโดยไม่ต้องลงทุน
รูปภาพจาก : cthree.my

ข้อมูลติดต่อกระเป๋าหนังแท้
เบอร์โทรศัพท์ : 084-6173341, 086-9201836
ID Line : 0874305703

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น