การนำเข้าสินค้าจากจีน
ทำไมสินค้าจีนจึงเข้ามาตีตลาดไทยได้อย่างง่ายดายสาเหตุเพราะสินค้าจีนมีราคาถูกเนื่องจากต้นทุนการผลิตต่ำ มีปัจจัยมาจากจำนวนแรงงานที่ล้นตลาดในจีน ทำให้ผู้ประกอบการมีสิทธิเลือกแรงงานที่ฝีมือดีค่าแรงถูก นอกจากนี้วัตถุดิบในการผลิตสามารถหาได้เองภายในประเทศทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้า ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการลดต้นทุน ดังนั้นจึงกลายเป็นโอกาสของนักลงทุนไทยสร้างกำไรจากสินค้าจีน
แต่เราจะนำเข้าสินค้าจีนเข้ามาจำหน่ายในไทยได้อย่างไร ก่อนอื่นต้องศึกษาข้อมูลก่อนว่าสินค้าจีนมีอะไรบ้างและอะไรที่ได้รับความนิยม จากข้อมูลในเว็บไซต์ www.taobaochinacargo.com ระบุว่า สินค้าจีนที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยแบ่งเป็น 5 หมวดได้แก่ 1. สินค้าหมวดเครื่องมือสื่อสาร เช่นเคสโทรศัพท์ สายชาร์ต Power Bank หูฟัง สาย USB จัดเป็นสินค้าขายดี 2. สินค้าหมวดอุปกรณ์ไฟฟ้า อาทิเช่นเครื่องคิดเลข ไฟฉาย หม้อหุงข้าว เครื่องเล่นดีวีดี วิทยุ และเครื่องเล่นวีดิโอเกมส์ 3. สินค้ากลุ่มเซรามิค ประเทศจีนขึ้นชื่อเรื่องของเซรามิคเป็นอย่างมาก ทั้ง ถ้วย ชาม แจกัน ถ้วยกาแฟและหยก 4. สินค้ากลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น และ 5.ของเล่นเด็ก
การนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน
สำหรับช่องทางการนำเข้าสินค้าจากจีน ในอดีตมีอยู่ค่อนข้างจำกัด ส่วนใหญ่เดินทางไปติดต่อซื้อขายด้วยตนเองโดยสถานที่ๆ ได้รับความนิยมคือเมือง เซินเจ้น เป็นเมืองอุตสาหกรรมติดชายฝั่งฮ่องกอง มีพื้นที่ 2,020 ตารางกิโลเมตร เป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีและวิทยาการชั้นสูง ศูนย์กลางลอจิสติกส์ ศูนย์กลางการเงินนานาชาติระดับภูมิภาค และแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล เซินเจิ้นสามารถสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศได้เป็นอันดับ 4 ในจำนวนเมืองระดับกลางและสูงในประเทศ มีปริมาณเศรษฐกิจมากเทียบเท่ามณฑลระดับกลาง และยังเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีผลกำไรทางธุรกิจดีที่สุด (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)
เริ่มแรกผู้ลงทุนจะเดินทางไปในลักษณะการท่องเที่ยวแล้วซื้อสินค้าติดไม้ติดมือกลับมาจำหน่ายในไทย พอสินค้าชิ้นไหนขายดีก็จะเดินทางไปอีก และค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ หากมียอดสั่งสินค้าตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป ก็ทำการติดต่อซื้อขายโดยตรง โดยเซ็นสัญญาผู้ผู้ผลิตและดำเนินการผ่านทางชิปปิ้ง ซึ่งชิปปิ้งทำหน้าที่ด้านพิธีการเอกสารผ่านธนาคาร พิธีการศุลกากร และบริษัทเรือเดินทะเล หรือบริษัทขนส่งทางเครื่องบิน เพื่อนำสินค้านำเข้าหรือส่งออกไปต่างประเทศ รวมถึงการจัดหาไปรับสินค้าจากโกดังลูกค้านำไปเข้าตู้ และรถหัวลากตู้ฯ ไปถึงท่าเรือ ส่วนใหญ่ ชิปปิ้ง จะมีเรือเดินทะเลเป็นของตนเอง รวมถึงตู้คอนเทนเนอร์ (ข้อมูลจาก www.awans.co.th)
แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตคลอบคลุมก้าวไกลมากขึ้น ทำให้ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเลือกดูสินค้าด้วยตัวเองเพียงแค่คลิกสินค้าก็มาส่งให้ถึงที่ ดังนั้นในปัจจุบัน ช่องทางการนำเข้าสินค้าที่สะดวกที่สุดคือการสั่งซื้อจากอินเตอร์เน็ต โดยเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในคือเว็บ www.taobao.com
www.taobao.com เป็นเว็บไซต์ช็อปปิ้งรายใหญ่ในประเทศจีน มีสินค้าให้เลือกมากมายทุกประเภท คล้ายกับเว็บขายสินค้าในบ้านเรา แต่มีระบบป้องกันการโกงที่ดีกว่า จึงมีความมั่นใจว่าของที่สั่งซื้อถึงมืออย่างแน่นอน ส่วนคุณภาพต้องวัดดวงกันเอาเอง แต่การสมัครสมาชิกของ www.taobao.com จำเป็นต้องมีที่อยู่ บัญชีเงินฝาก และเบอร์โทรในจีน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่คนไทยจะสามารถสั่งซื้อได้ วิธีการที่ดีที่สุดคือการสั่งซื้อผ่านเอเย่นหรือตัวแทนที่รับสั่งซื้อของจากจีน
ซึ่งเอเย่นหรือตัวแทนที่รับซื้อสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ในจีนเปิดให้บริการมากมายหลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็น www.taobaochinacargo.com, www.vcanbuy.com, www.import2thai.com, www.taobaocargo.net แต่ละเว็บมีเงื่อนไขหลักคล้ายๆ กัน แต่เราจะขอแนะนำขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้าผ่าน www.taobaochinacargo.com TAOBAO CHINA CARGO คือบริการ รับสั่งซื้อสินค้าจากจีน website e-commerce ชื่อดังอย่าง TAOBAO TMALL, ALIBABA , 1688.com และเว็บไซต์ออนไลน์ ต่างๆ ในจีน รับจัดซื้อ จัดหาสินค้าจากจีน TAOBAO CHINA CARGO ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่สั่งสินค้าจากจีน ในลักษณะ แบบ Preorder คือ สั่งสินค้าให้ตามที่ลูกค้าเลือกจากร้านจีน นำเข้าสินค้าจากจีน ติดต่อประสานงานกับร้านค้าจีน จนส่งสินค้าถึงหน้าบ้านลูกค้า โดยลูกค้าสามารถติดตามสถานะสินค้าจีนผ่านระบบติดตามสินค้าบนเว็บไซต์ของ TAOBAO CHINA CARGO
วิธีการสั่งซื้อกับ TAOBAO CHINA CARGO
- เลือกสินค้าจากเว็บไซต์ต่างๆของร้านค้าจีน
- ดาวน์โหลดใบสั่งซื้อสินค้าที่ http://www.taobaochinacargo.com/download
- กรอกข้อมูลที่ต้องการสั่งซื้อลงไฟล์ใบสั่งซื้อ ส่งกลับมาที่ TAOBAO CHINA CARGO ผ่าน EMAIL : taobaochinacargo@gmail.com
- ชำระเงินค่าสินค้ารอบแรก (ราคาสินค้า +***ค่าส่งในจีนประเมิณล่วงหน้าจากค่าสินค้า 10 %) ตรวจสถานะสินค้าผ่านระบบตรวจสอบสถานะสินค้า กดรับสินค้าผ่านระบบ และชำระเงินรอบ 2 (ค่านำเข้าสินค้า+ค่าส่งสินค้าในไทย+ค่าฝากส่งสินค้าในไทย)
วิธีการชำระเงิน
การชำระเงินแบ่งออกเป็น 2 รอบ ได้แก่
รอบที่ 1
การโอนเงินในรอบแรกจะเก็บค่าสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อจะแบ่งเป็นส่วน ๆ ดังนี้
ค่าสินค้า : ราคาสินค้าชิ้นนั้นจากหน้าเว็บจีน
ค่าส่งในจีน : ในระบบ Taobao จะมีราคาค่าจัดส่งร้านจีนให้ดูก่อนจ่ายเงิน (จากร้านจีนไปโกดังจีน) เก็บล่วงหน้า 10 % ของราคาสินค้า แต่ไม่เกิน 100 Y หลังจากทางเราทราบราคาค่าขนส่งในจีนที่แท้จริงจะนำมาหักลบกับค่ากิโลกรัม หากร้านจีนไม่เก็บก็จะไม่เสียค่าส่ง นำยอดมาคูณกับอัตรแลกเปลี่ยนประจำวัน จะได้ยอดชำระรอบแรก ลูกค้าเช็คได้จากสรุปไฟล์ใบสั่งซื้อ เมื่อทางเราจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว จะถ่ายภาพหน้าจอ หน้าจ่ายเงินในระบบมาให้ดูราคาค่าส่งและราคาสินค้าที่จ่ายทั้งหมดในแต่ล่ะร้านค้า เพื่อเช็คค่าจัดส่งที่เราจ่ายจริงไม่ได้แอบบวกเพิ่ม (ถ้าค่าส่งไม่สมเหตุสมผลทางเราจะสอบถามลูกค้าอีกครั้ง)
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา : อัตราแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน เวลา 12.30 น. – 16.30 น. สามารถดูได้ที่หน้าเว็บไซต์หรือสามารถสอบถามพนักงานก่อนสั่งซื้อ
สูตรการคิดราคาสินค้า
ค่าสินค้า + ค่าส่งในจีน x เรทเงินอัตราแลกเปลี่ยน = ราคาสินค้าที่ต้องจ่ายรอบแรก
ยกตัวอย่างเช่น
สินค้าราคา 1090Y
ค่าส่งร้านจีน 100Y (เก็บล่วงหน้า 10% ของ 1090Y)
อัตราแลกเปลี่ยนเงิน 5.42 บาท
“1090Y + 100Y x 5.42 = 6,449.8 บาท”
จำนวนเงินต้องโอนรอบแรก 6,449.8 บาท
รอบที่ 2
การโอนเงินในรอบสองจะเก็บค่ากิโลกรัมนำเข้าสินค้า โดยแบ่งเป็นส่วน ๆ ดังนี้
ค่านำเข้าสินค้า : ค่านำเข้าคิดตามมาตรฐานน้ำหนัก ต่อ อัตราส่วน 1ลบม.หนัก 150 กก. หากน้ำหนักเป็นไปตามมาตรฐาน คิดเป็นกิโลกรัม กิโลกรัมโลละ 60 บาท หากเบากว่ามาตรฐาน คิดตามปริมาตรของห่อพัสดุ (สามารถดูอัตรานำเข้าสินค้าได้ที่ภาพอัตรานำเข้าสินค้า)
ค่าส่งในไทย : ค่าจัดส่งทางลูกค้าสามารถเลือกการจัดส่งสินค้าได้หลายแบบดังนี้ ไปรษณีย์ไทย แมสเซ็นเจอร์ ขนส่งเอกชนนิ่มซีเส็ง และรับเองที่โกดังไปรษณีย์ไทยคิดราคาตามจริง + บวกค่ากล่องไม่เกิน 50 บาท และไม่ได้เก็บค่าฝากส่ง ขนส่งเอกชนนิ่มซีเส็ง คิดราคาตามจริง หากที่เก็บเกินจากบิลนิ่มซีเส็งสามารถเอามาเรียกคืนได้ การคิดราคาของขนส่งเอกชนนิ่มซีเส็ง จะใช้การคิดมาตรฐานของการขนส่งสินค้า โดยคิดแบบ คิวหรือเรียกว่าแบบไดนามิก ซึ่งจะวัดจากขนาดห่อสินค้าของลูกค้าที่ทางโกดังส่งไปให้ขนส่งเอกชนนิ่มซีเส็งขนส่งให้รับเองที่โกดัง ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการจัดส่งหรือฝากส่งใดๆ
ค่าฝากส่งในไทย : ค่าฝากส่งสินค้าจากโกดังไปยัง ขนส่งเอกชนนิ่มซีเส็ง ไปรษณีย์ไทย (สามารถดูอัตราฝากส่งได้ที่ภาพอัตราฝากส่งสินค้า) ส่งขนส่งเอกชนจะมีการเก็บค่าฝากส่ง เพราะของลูกค้าแต่ละรายมีสินค้าขนาดไม่เท่ากัน ต้องเหมารถไปส่งและทางเราได้คิดราคาที่ถูกมากไม่ได้บวกไปในค่านำเข้า
สูตรการคิดราคานำเข้าสินค้า
ค่านำเข้าสินค้า + ค่าส่งในไทย + ค่าฝากส่งในไทย
ยกตัวอย่างเช่น
ค่านำเข้าสินค้า 646 บาท
ค่าส่งเอกชนนิ่มซีเส็ง 250 บาท
ค่าฝากส่งในไทย 80 บาท
“646 + 250 + 80 = 976 บาท”
จำนวนเงินต้องโอนรอบสอง 976 บาท
การคิดราคาค่านำเข้าแบ่งตามสินค้า 5 ประเภท
- สินค้าทั่วไปคิดราคาตามน้ำหนักสินค้าที่มีขนาดและน้ำหนักของตัวสินตรงตามขนาดมาตรฐานสากลของการขนส่ง
- สินค้าทั่วไปคิดราคาตามขนาด (คิว)สินค้าที่มีน้ำหนักเบา แต่มีขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่มาก เช่น กระเป๋าใบใหญ่น้ำหนักเบา กระเป๋าเดินทาง ตุ๊กตา รองเท้า เครื่องประดับ
- สินค้าลิขสิทธิ์คิดราคาตามน้ำหนักสินค้าที่มีขนาดและน้ำหนักของตัวสินค้าตรงตามขนาดมาตรฐานสากลของการขนส่งและสินค้าทุกอย่างที่มีแบรนด์ เช่น nike disney san-x ทุกอย่างที่มีลิขสิทธิ์ในไทย ไม่ว่าจะ copy มือสอง ของปลอม เหมือนไม่เหมือน รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดที่มี มอก อย. และเครื่องสำอาง เป็นต้น
- สินค้าลิขสิทธิ์คิดราคาตามขนาด (คิว) สินค้าที่มีน้ำหนักเบา แต่มีขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่มาก เช่น หมอน กระเป๋าเดินทาง เป็นต้น สินค้าทุกอย่างที่มีแบรนด์ เช่น nike disney san-x ทุกอย่างที่มีลิขสิทธิ์ในไทย ไม่ว่าจะ copy มือสอง ของปลอม เหมือนไม่เหมือน รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดที่มี มอก อย. และเครื่องสำอาง เป็นต้น
- สินค้าเหมาคิวหรือเหมาตู้ ในกรณีที่สินค้าชิ้นใหญ่ต้องการคิดเป็นคิวแยกหรือเหมาตู้คอนเทนเนอร์
อัตราค่าขนส่งแบ่งเป็น 3 รูปแบบดังนี้
วิธีการคำนวณ ค่านำเข้าสินค้าจากจีน
การคำนวนราคา ค่านำเข้าสินค้าจากจีน TAOBAO CHINA CARGO ใช้มาตรฐาน การคิดเงิน ตามหลัก LOGISTIC สากล คือ แบ่งการคำนวนราคาค่านำเข้าจากจีน เป็น 2 รูปแบบ จากเกณฑ์ ” 1ลบม. (1 คิว) ต้องมีน้ำหนัก มากกว่า หรือ เท่ากับ 150 กิโลกรัม ” หากปริมาตรสินค้า สัมพันธ์กับน้ำหนักตามเกณฑ์ จะคิดราคาค่านำเข้าจากจีน เป็น กิโลกรัม แต่หาก ไม่สัมพันธ์กัน จะคำนวนราคาค่านำเข้า โดยการวัดปริมาตรของสินค้า มาเทียบน้ำหนักและราคาจาก เกณฑ์มาตรฐาน หรือที่เรียกว่า การคิดราคาแบบ คิว สินค้าทุกห่อที่มาจากร้านค้าจีนจะนำเข้าสูตรการคิด “คิว” ก่อนทุกห่อสินค้าและเมื่อผลออกมาหากเทียบตารางคิว ขนาดและน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือตัวโปรแกรมคำนวน แจ้งต้องน้ำหนักมากกว่าเท่าไร จึงจะถูกคิดแบบการนำเข้าแบบกิโลกรัม
อย่างไรก็ตามการนำเข้าสินค้าจากจีนต้องศึกษาตลาดก่อนเป็นอันดับแรก ดูว่าสินค้าใดได้รับความนิยม มีตลาดรองรับ หรือมีช่องทางทำตลาดที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ อันดับต่อมาคือคุณภาพของสินค้า ที่เรามักเห็นข่าวว่าสินค้าจีนด้อยคุณภาพ แต่ในความเป็นจริงสินค้าจีนมีจำหน่ายทุกเกรด ตั้งแต่คุณภาพต่ำไปจนถึงคุณภาพสูงซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันตามคุณภาพ ถ้านำสินค้าคุณภาพต่ำเกินไปเพราะหวังกำไรสูงๆ อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับธุรกิจได้ ดังนั้นควรเลือกสินค้าในคุณภาพที่สมกับราคาจึงจะทำให้ธุรกิจเกิดความยั่งยืน