กุนเชียงหมู “ชมดี” ของกินขายดี จากแม่ค้าเขียงหมูสู่เจ้าของโรงงาน รายได้กว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน!!
กุนเชียงหมู “ชมดี” ของกินขายดี จากแม่ค้าเขียงหมูสู่เจ้าของโรงงาน รายได้กว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน!!

กุนเชียงหมู “ชมดี” ของกินขายดี จากแม่ค้าเขียงหมูสู่เจ้าของโรงงาน รายได้กว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน!!

กุนเชียงหมู “ชมดี” ของกินขายดี จากแม่ค้าเขียงหมูสู่เจ้าของโรงงาน รายได้กว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน!!

กุนเชียงหมู “ชมดี” ของกินขายดี จากแม่ค้าเขียงหมูสู่เจ้าของโรงงาน
รายได้กว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน!!

กุนเชียงหมู รสหวาน มัน กลมกล่อม จะทานเปล่าๆเป็นอาหารทานเล่น หรือจะทานกับข้าวสวยร้อนๆ ไม่ก็เป็นเครื่องทานคู่กับเมนูอื่นๆ อย่างข้าวต้ม โจ๊ก หรือในอาหารจานเดียวอย่างข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบก็ยังมีกุนเชียงเป็นส่วนประกอบหลักที่ขายเสียมิได้ นอกจากนี้ยังนำมาทำเป็นเป็นเมนูอื่นๆอย่างยำกุนเชียง หรือใส่ร่วมกับเมนูยำต่างๆก็อร่อยได้หลายเมนู

กุนเชียงหมู เป็นที่โปรดปรานของลานคนและซื้อหากันมาไว้ติดบ้านเป็นประจำนั่นเพราะว่ากุนเชียงนั้นสามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลาหลายวัน ใช้ประกอบอาหารเป็นเมนูได้หลากหลานั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้บริโภคเองก็ต้องเลือกซื้อกุนเชียงหมูที่สด สะอาด มีกระบวนการผลิตที่ได้รับมาตรฐาน ไม่ปนเปื้อน ที่สำคัญควรได้รับการรับรองจาก อย. (โองการอาหารและยา) เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคเอง

กุนเชียงหมู “ชมดี” ของกินขายดี จากแม่ค้าเขียงหมูสู่เจ้าของโรงงาน รายได้กว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน!!

หนึ่งในผู้ประกอบการ “ขายกุนเชียงหมู” ในบ้านเรามีกันหลายเจ้าเด็ดเจ้าดัง แต่วันนี้ขอพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของคุณป้าท่านหนึ่งที่ผันตัวเองจากเขียงหมู มาทำกุนเชียงหมูขายแทน คุณป้าที่ว่านี้คือ “คุณจารุณี ทีฆะทิพย์สุกล” เจ้าของแบรนด์กุนเชียงและหมูยอ “ชมดี” และเป็นเจ้าขงโรงานชมดีในปัจจุบัน หลายคนอาจคุ้นเคยและเป็นลูกค้าของป้ากันอยู่แล้ว แต่กว่าจะเป็นกุนเชียงที่ถูกใจลูกค้าและกลายมาเป็นแบรนด์ดังๆแถวหน้าของบ้านเรานั้น คุณป้าผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้างวันนี้จะมาเจาะลึกกับผู้ประกอบการกุนเชียงท่านนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างอาชีพของหลายๆคน

กุนเชียงหมู “ชมดี” ของกินขายดี จากแม่ค้าเขียงหมูสู่เจ้าของโรงงาน รายได้กว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน!!

ย้อนไปก่อนหน้านี้ คุณป้าจารุณี ประกอบอาชีพเป็นแม้ค้าขายเนื้อหมูสดในตลาดนัดที่จังหวัดอุบลราชธานี ส่วนเนื้อหมูที่เหลือจากการขายในแต่ละวันคุณป้าก็จะลองนำมาแปรรูปเป็นกุนเชียงขายเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียของ แถมยังสามารถขายได้เงินอีกด้วย ในตอนแรกๆนั้นป้าก็ยังไม่มีสูตรการทำกุนเชียงมาก่อน ใช้วิธีการลองผิดลองถูกอยู่นาน ทั้งลองไปซื้อกุนเชียงเจ้าดังมาทานดูบ้างเพื่อค้นหารสชาติที่ถูกปากลูกค้า ต่อมาก็ทดลองในทำในรูปแบบของตัวเอง หมั่นทำและให้ครอบครัวและเพื่อนๆชิมรสชาติบ่อยๆ ขอคำแนะนำติชมเพื่อนำไปปรับให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมกำลังดี ถูกใจลูกค้า

กุนเชียงหมู “ชมดี” ของกินขายดี จากแม่ค้าเขียงหมูสู่เจ้าของโรงงาน รายได้กว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน!!

เริ่มต้นจากการลองนำกุนเชียงที่ทำหั่นไปชิ้นเล็กๆวางไว้ที่ร้าน เมื่อมีลูกค้าเข้าร้านมาซื้อเนื้อหมูสด หรือลูกค้าที่เดินไปผ่านไปผ่านมา คุณป้าก็เรียกให้ลูกค้าลองเข้ามาชิมรสชาติกุนเชียงให้ แล้วขอให้ลูกค้าช่วยติชมรสชาติ ที่ผ่านมามีทั้งคนที่ติและคนที่ชม ส่วนไหนที่ลูกค้าส่วนใหญ่(4-5 คน)ติเหมือนกัน อย่าง เค็มบ้าง หวานไปบ้าง เนื้อสัมผัสยังแข็งไปบ้าง ฯลฯ ป้าก็จะรวบรวมข้อมูลเอาไว้ปรับปรุงให้มีรสชาติที่ดีขึ้น ทำแบบนี้อยู่นานจนในที่สุดก็ได้รสชาติที่ถูกอกถูกใจลูกค้า ซื้อกลับไปรับประทานกัน บางคนซื้อแล้วติดใจก็กลับมาซื้อใหม่ พร้อมได้รับคำชมเป็นเสียงเดียวกันว่า “ดี” เลยเป็นที่มาของการตั้งชื่อแบรนด์กุนเชียงว่า “ชมดี”นั่นเอง

กุนเชียงหมูของป้าจารุณีเริ่มวางขายตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. 2540 ด้วยเงินทุนครั้งแรกที่ใช้ในการแปรรูปเนื้อหมูเป็นกุนเชียงแค่ 4-5 พันบาท แปรรูปครั้งละประมาณ 10 กิโลกรัม แต่แทบไม่น่าเชื่อพียงแค่ 2 เดือนแรกเท่านั้นขายดีมีลูกค้าเข้ามาซื้อกุนเชียงของป้าจำนวนมาก นอกจากจะเป็นลูกค้าในตลาดแล้ว ยังผู้ที่มาขอซื้อไปขายต่อในกรุงเทพฯอีกด้วย จากที่ขายวันละ 10 กิโล เป็นหลัก 100 กิโล และในที่สุดก็กลายเป็นหลัก 1,000 กิโลในระยะเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้น

กุนเชียงหมู “ชมดี” ของกินขายดี จากแม่ค้าเขียงหมูสู่เจ้าของโรงงาน รายได้กว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน!!

จากที่คิดจะขายกุนเชียงเป็นเพียงอาชีพเสริม แต่ได้กลายเป็นตัวทำเงินที่สร้างได้จำนวนมากให้ครอบครัว คุณป้าเลยตัดสินใจตั้งโรงงานอุตสาหกรรม จากเดิมที่เคยทำกันแบบครัวเรือน ก็เปลี่ยนมาเป็นการผลิตแบบโรงงานอุตสาหกรรม บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่ ซึ่งปัจจุบันโรงงานได้มาตรฐานระดับ GMP นอกจากนั้น ปี พ.ศ.2547 ยังได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอทอป 5 ดาวของจังหวัดอีกด้วย เมื่อกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้มาสารถส่งออกไปขายให้แก่ลูกค้าได้มากขึ้น ทันต่อความต้องการลูกค้า และที่สำคัญยังสามารส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง ลาว เวียดนามและจีน

ปัจจุบันสินค้า”ชมดี”นอกจากุนเชียงแล้วยังเพิ่มสินค้าในส่วนของ”หมูยอ” ขึ้นมาอีกด้วยเพื่อสร้างความหลากหลายยิ่งขึ้น สำหรับการขายจะส่งขายให้กับตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าต่างประเทศเป็นหลัก พร้อมกันนี้ก็ยังขายปลีกกันที่หน้าโรงงานชมดี รวมทั้งยังมีการออกวางขายตามงานแสดงสินค้าและงานโอทอปต่างๆยู่ประจำ โดยราคาขายปลีกสำหรับกุนเชียง กิโลกรัมละ 240 บาท หมูยอ กิโลกรัมละ 150 บาท และหมูยอ ชิ้นละ 35 บาท ยอดผลิตสินค้าเฉลี่ยประมาณ 2,000 กิโลกรัมต่อเดือน หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 2 ล้านบาทต่อเดือนเลยทีเดียว

กุนเชียงหมู “ชมดี” ของกินขายดี จากแม่ค้าเขียงหมูสู่เจ้าของโรงงาน รายได้กว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน!!

ข้อมูลติดต่อกุนเชียงหมู “ชมดี”
ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ถ.แจ้งสนิท ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
โทร.08-1879-0469 , 08-1878-6009

หมายเหตุ : รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ

แสดงความคิดเห็น