ขนมไทย มดดิ๊ธุรกิจโกอินเตอร์บุกตลาดเอเชีย
ขนมไทย มดดิ๊ธุรกิจโกอินเตอร์บุกตลาดเอเชีย

ขนมไทย “มดดิ๊”ธุรกิจโกอินเตอร์บุกตลาดเอเชีย

ขนมไทย มดดิ๊ธุรกิจโกอินเตอร์บุกตลาดเอเชีย
ขนมไทย มดดิ๊ธุรกิจโกอินเตอร์บุกตลาดเอเชีย

ขนมไทย  “มดดิ๊”ธุรกิจโกอินเตอร์บุกตลาดเอเชีย

เคยสังเกตกันไหมคะว่า การจะหาซื้อขนมไทยรสชาติแบบไทยแท้ดั้งเดิมมาทานสักครั้ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเนื่องจากร้านขนมไทยสูตรโบราณนั้นแทบจะเหลือน้อยลงทุกที ร้านที่เปิดใหม่ส่วนใหญ่รสชาติก็ยังขาดรสชาติแบบไทยแท้ เนื่องจากวิธีการผลิตที่แตกต่างจากสูตรแบบดั้งเดิมนั้นเอง สมัยก่อนนั้น เวลาจะทำขนมไทยแต่ละครั้ง แป้งที่ใช้ทำขนมก็ต้องโม่แป้งกันเอง มะพร้าวก็ขูดเอง คั้นกะทิเอง น้ำตาลที่ใช้ก็เป็นน้ำตาลมะพร้าว หรือน้ำตาลโตนด ไม่ก็น้ำตาลปึกจากอ้อย ซึ่งวิธีการทำก็ยุ่งยากมากมายหลายขั้นตอน ผิดกับปัจจุบันที่มี เครื่องปรุง ส่วนผสมทุกอย่างแบบสำเร็จรูปพร้อมใช้ ไม่ต้องมานั่งโม่แป้งเอง กวนน้ำตาลเอง ให้เสียเวลา เลยทำให้ความกลมกล่อมของขนมแบบสมัยก่อนนั้นหายไป

ขนมไทย มดดิ๊ธุรกิจโกอินเตอร์บุกตลาดเอเชีย
ขนมไทย มดดิ๊ธุรกิจโกอินเตอร์บุกตลาดเอเชีย

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดแบรนด์ขนมไทยสูตรโบราณ มดดิ๊ ขึ้น ก็เนื่องด้วยอยากจะสืบสานเอกลักษณ์ทางรสชาติขนมไทยสูตรดั้งเดิมเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้มีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจ ทันสมัยขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ทุกทุกเพศทุกวัย โดยที่รสชาตินั้นยังคงความเป็นไทยแท้สูตรดั้งเดิมอยู่

สำหรับที่มาของชื่อ มดดิ๊ นั้นมาจากการที่สังเกตว่า ขนมไทยกับมดนั้นเป็นของที่คู่กัน เมื่อมีขนมหวานก็มีมดตามมาเช่นกัน และเมื่อเป็นของที่มดเลือกกินแสดงว่าขนมนั้นต้องอร่อยอย่างแน่นอน เลยใช้มดในการสื่อความถึงขนมหวานที่อร่อย ส่วนคำว่าดิ๊มาจากสำเนียงของพูดคนเพรชบุรี กลายเป็นที่มาของแบรนด์ มดดิ๊ ไปโดยปริยาย

คุณณัฐดนัย รุจิรา เจ้าของแบรนด์ขนมไทย มดดิ๊ มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ครอบครัวนั้นแต่เดิมก็ทำขนมไทยสูตรโบราณอยู่แล้ว จึงเห็นว่าน่าจะมีการพัฒนาขนมไทยให้ไปได้ไกลกว่านี้ เพื่อให้เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไม่เฉพาะแต่กับคนไทยเท่านั้น แต่เพื่อให้นานาประเทศได้รู้จักอีกด้วย จึงเริ่มการพัฒนาโดยแบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ

ขนมไทย มดดิ๊ธุรกิจโกอินเตอร์บุกตลาดเอเชีย ขนมไทย มดดิ๊ธุรกิจโกอินเตอร์บุกตลาดเอเชีย

1 ยังคงความเป็นขนมไทยโบราณไว้
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของขนมไทยโบราณแท้อย่างหนึ่ง คือ การใช้น้ำกะทิสด หรือน้ำตาลโตนดอบควันเทียน ซึ่งจะทำให้มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน รสชาติกลมกล่อม โดยมดดิ๊พัฒนาในเรื่องของความหวานให้ลดลงมาอยู่ในระดับที่ทุกคนสามารถทานได้ เพราะขนมไทยสูตรโบราณแท้ๆนั้นจะมีรสหวานที่จัดมากจนทำให้บางคนไม่สามารถทานได้เพราะรู้สึกเลี่ยนเกินไป ซึ่งมดดิ๊ ได้ปรับความหวานให้หวานกำลังดีและกลมกล่อมแบบไทยโบราณ และส่วนผสมทุกอย่างที่ใช้นั้นก็ทำมาจากธรรมชาติทั้งหมด

2 พัฒนารสชาติของขนมไทย
ส่วนนี้จะเป็นการต่อยอด เพื่อรองรับลูกค้ารุ่นใหม่ สมัยใหม่ โดยการเพิ่มผลไม้ต่างๆเข้าไป อย่างเช่น สตรองเบอรืรี่ ลิ้นจี่ กีวี เป็นต้น ในอาลัว ซึ่งจะทำให้รสชาติของอาลัวนั้นออกรสเปรี้ยวอมหวาน ลักษณะจะออกแนวคล้ายๆกับเจลลี่ มดดิ๊จึงให้ชื่อขนมชนิดนี้ใหม่ว่า เจลลี่ฟรุต นั่นเอง

ขนมที่ มดดิ๊ มีขายนั้น มีให้เลือกมากมายคะ อาทิเช่น อาลัว กลีบลำดวน วุ้นกรอบ ผลไม้อบแห้ง ขนมผิง ธัญพืชอบแห้งต่างๆ วางขายตามห้างเซ็นทรัลฯต่างๆ เช่น สาขาขอนแก่น สาขาเชียงใหม่ สาขาอุดร สาขาหาดใหญ่ สาขาสุราษฏร์ฯ และจุดขายใหญ่ในจังหวัดเพชรบุรี เป็นต้น

ขนมไทย มดดิ๊ธุรกิจโกอินเตอร์บุกตลาดเอเชียขนมไทย มดดิ๊ธุรกิจโกอินเตอร์บุกตลาดเอเชีย

 ไม่เพียงแค่นั้น นอกจากมดดิ๊ จะวางขายในตลาดของเมืองไทยแล้ว ยังมีการบุกตลาดเอเชีย ไปขายยังเวียดนาม ลาว และกัมพูชา แถมยังโออินเตอร์ไปแคนนาดาอีกด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งทางมดดิ๊ ยังมีแผนจะพัฒนาให้ขนมไทยให้เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติให้มากขึ้น โดยการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัยเป็นสากลขึ้น แต่รสชาติยังคงคุณค่าของความเป็นอยู่ ทั้งนี้ก็เพื่อส่งเสริมการขายของไทย และโปรโมทขนมไทยเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของคนไทยให้เป็นที่รู้จักกันทั่วทุกประเทศ

สำหรับผู้ที่สนใจอยากร่วมธุรกิจ มดดิ๊ก็มีรูปแบบการลงทุน ไว้ให้ผู้ที่สนใจอยากจะรวยด้วยขนมไทย เช่น การเป็นตัวแทนจำหน่ายของมดดิ๊ ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดต่างๆได้ที่คุณณัฐดัยโดยตรง ซึ่งคุณณัฐดนัยยินดีให้คำปรึกษาอย่างเป็นกันเองคะ

 

ข้อมูลติดต่อ
มดดิ๊ 584/12 ม.4 ต.บ้านหม้อ อ.เมือง จ.เพชรบุรี
โทร : 081-9812117 ,032-401521
Website : www.moddiithai.com
Facebook : www.facebook.com/moddiithai

แสดงความคิดเห็น