ขายก๋วยเตี๋ยว “ กระทุ่มแบน “ ธุรกิจแฟรนไชส์ขยายสาขาได้กว่า 400 สาขา

ถ้าหากพูดถึงร้านอาหารที่เรียกได้ว่าไปกินที่ไหนก็เจอนั่นก็คือร้านขายก๋วยเตี๋ยวนั่นเอง แต่ปัจจุบันนั้นผู้ประกอบการต่างที่จะเลือกชูสินค้าเด่นๆแค่เพียงลูกชิ้นและรสชาติเท่านั้น ซึ่งรูปแบบก็ซ้ำๆเดิมๆ เหมือนทั่วๆไปแต่สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวกระทุ่มแบน นั้นกลับชูหนังหมูไร้มันย่างถ่าน ซึ่งนอกจะแตกต่างกลับร้านอื่นๆแล้วหนังหมูนี้ยังคลอเรสเตอรอลต่ำอีกด้วย แถมราคาแฟรนไชส์ขายก๋วยเตี๋ยวนี้ยังเริ่มต้นเพียง 25,000 บาทส่วนสาขาที่ขยายไปได้นั้นก็ไปไกลถึง 400 กว่าสาขาแล้ว

ธุรกิจขายก๋วยเตี๋ยวกระทุ่มแบนนี้เริ่มมาจากการ “ คุณอภิวิชญ์ บุญส่งกิจ “ นั้นสืบทอดธุรกิจขายก๋วยเตี๋ยวมาจากรุ่นพ่อแม่ซึ่งขายมายี่สิบกว่าปีแล้ว ซึ่งเมื่อคุณอภิวิชญ์ ได้มาขายก๋วยเตี๋ยวนั้นก็ได้มาพัฒนาในเรื่องของรสชาติเรื่อยมาจนลงตัว และขายก๋วยเตี๋ยวภายใต้ร้านที่ชื่อว่าก๋วยเตี๋ยวกระทุ่มแบน สูตรสูตรเด็ดในการขายก๋วยเตี๋ยวนั้นก็คือ มีหนังหมูพะโล้ไร้มันย่างถ่าน ซึ่งจึงเป็นหมูพะโล้คลอเรสเตอรอลต่ำปรุงรสสำหรับใส่ก๋วยเตี๋ยว หลังจากขายก๋วยเตี๋ยวมีคนรู้จักมากขึ้นจึงคิดขยายสาขาแต่มีปัญหาคือหาคนมาดูแลมาตรฐานร้านยาก จึงมีความคิดว่าขายแฟรนไชส์ให้คนซื้อดูแลและสอนระบบต่างๆเพียงครั้งเดียวน่าจะได้ง่ายกว่า

ถึงแม้จะมีแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ซึ่งแต่ละแบรนด์นั้นก็จะชูจุดเด่นเพียงที่ที่ลูกชิ้นชูแต่รสเด็ดมาแปลกกว่าเจ้าอื่น แต่ถ้าใครได้ลงทุนแฟรนไชส์ขายก๋วยเตี๋ยวนี้ละก็จะได้ความแปลกที่ว่าทางร้านั้นจะชูความโดดเด่นอยู่ที่ ‘หนังหมูไร้มันย่างถ่าน’ นั่นเองซึ่งหากใครกลัวโดนลอกเลียนแบบนอกจากซื้อแฟรนไชส์ละก็ไม่ต้องกลัวเลยเพราะทางคุณอภิวิชญ์นั้นได้รับอนุสิทธิบัตรหนังหมูพะโล้ไร้มัน จากกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ซึ่งในเรื่องของโรคอ้วยนั้นก็ไม่ต้องกลัวเลยเพราะทางร้านก็ยังได้รับการการรันตีคุณภาพจากวิจัยจากสถาบันอาหารแล้วว่า หนังหมูนี้มีคลอเรสเตอรอลต่ำ ทานแล้วไม่อ้วน ซึ่งรับรองได้ว่าก๋วยเตี๋ยวหนังหมูไร้มัน น้ำซุปสมุนไพรรสชาติเข้มข้น หาทานที่อื่นไม่ได้ครับ ต้องมาที่รสเด็ดก๋วยเตี๋ยวกระทุ่มแบนเท่านั้น

และนอกจากหนังหมูพะโล้แล้วทางร้านก็ยังทำจุดขายเพิ่มขึ้นอย่างการทำ ผงซุปก๋วยเตี๋ยวสูตรสมุนไพรไทยเป็นจุดขายทำให้รสชาติไม่เหมือนใครแตกต่างจากร้านอื่น ๆ ทั่วไป และมีระบบจัดการควบคุมมาตรฐานรสชาติโดยการใช้ช้อนตวงทุกอีกด้วย ส่วนใครที่ลงทุนขายก๋วยเตี๋ยวนี้ข้อสำคัญอยู่ที่จะต้องใช้วัตถุดิบที่ใช้วันต่อวันไม่มีค้างคืนจะได้ไม่มีกลิ่นเหม็นหืนของถั่วหรือเส้น ส่วนยอดขายนั้นหากทำยอดขายได้วันละ 200 ชาม จะมีกำไรถึง 60,000 บาทต่อเดือนทีเดียวค่ะ สำหรับสาขาที่ขยายไปได้นั้นก็สามารถขยายสาขาไปได้ถึง 400 กว่าสาขาแล้ว

สิ่งที่ทางคุณอภิวิชญ์นั้นทำประสบความสำเร็จได้ก็มาจากความพยายามพัฒนาธุรกิจในด้านต่างๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นเมนูใหม่ๆ หรือการปรับเปลี่ยนแพคเกจการลงทุนให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันทางบริษัทไม่ได้มีแต่เมนูก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น แต่ยังมีเมนูประเภทข้าวที่อร่อยเด็ดไม่แพ้กัน อย่างเช่น ข้าวซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน ข้าวขาหมูเห็ดหอม ฯลฯ ส่วนเมนูเส้นในร้านนั้นก็มีทั้ง ก๋วยเตี๋ยวหมู แห้ง น้ำ ต้มยำ ทะเล รวมมิตร เย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นยาจีน และที่ทำหลายเมนูนั้นก็เพื่อที่จะให้ลูกค้านั้นได้เลือกกินที่หลากหลายไม่เบื่อ และยังเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ที่มากขึ้นของผู้ประกอบการนั่นเอง

นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้รับการสนับสนุนจากธนาคารออมสินอีกด้วยซึ่งใครที่ประสบปัญหาเรื่องเงินลงทุน ธนาคารจะอนุมัติเงินกู้ให้ถึง 70% ภายใต้เงื่อนไขง่ายๆ เพียงมีบุคคลค้ำประกันเท่านั้น นอกเหนือไปจากแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดกระทุ่มแบนแล้ว หากใครที่สนใจลงทุนทำธุรกิจด้วยเงินลงทุนหลักพัน คุณอภิวิชญ์ก็มีแฟรนไชส์ ‘รสเด็ดน้ำผลไม้สดปั่น’ ให้เลือกลงทุนอีกด้วย โดยจะมีค่าแฟรนไชส์อยู่ที่ 9,900 บาทเท่านั้น

ข้อมูลแฟรนไชส์
รูปแบบที่ 1 ลงทุน 25,000 บาท เหมาะสำหรับคนทำงานที่ต้องการรายได้เสริม
รูปแบบที่ 2 ลงทุน 39,000 บาท เหมาะสำหรับเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ ใช้คนขาย 1-2 คน
รูปแบบที่ 3 ลงทุน 59,000 บาท เหมาะสำหรับผู้มีความพร้อมมาก พนักงานอย่างต่ำ 3-5 คน