ขายขนม บิสกิตถังปี๊บ “สิงห์ไทย” เพิ่มมูลค่า ต่อยอดขนมถังสู่ธุรกิจเอสเอ็มอี

ธุรกิจขายขนมยังคงเป็นอะไรที่สามารถทำรายได้ดีเสมอ เพราะขนมเป็นสินค้าหมวดอาหาร ซึ่งสอดคล้องกับปากท้องคนเรา คนทุกคนต้องทานอาหาร นอกเหนือจากอาหารหลัก สินค้าประเภทขนมยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง กระทั่งสามารถสร้างกำไรที่เหมาะสมให้กับธุรกิจขายขนม และยังคงอยู่ในตลาดอย่างแข็งแกร่ง วันนี้เราก็มีหนึ่งธุรกิจขายขนมมาฝากซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอสเอ็มอีตัวอย่าง จากการบริหารจัดการที่เหมาะสม

รวมศูนย์ฝึกอาชีพ “เรียนทำขนมไทย” ล่าสุด คลิ๊ก>>

20 เมนูขนมทานเล่นสุดฮิต ทำเงิน คลิ๊ก>>

รวมขายส่ง “ขนมไทย” ปังปี๊บ ขนมหวาน คลิ๊ก>>

ธุรกิจขายขนม ครั้งนี้เป็นขนมประเภทบิสกิตบรรจุปี๊บที่หลายๆ คนคงคุ้นตากันดีอยู่แล้ว เป็นอีกหนึ่งแขนงของกินที่มีกลุ่มลูกค้าหนาแน่นอยู่ไม่น้อย โดยส่วนมากบิสกิตปี๊บในความจำของใครหลายๆ คนอาจไม่ค่อยถูกใจนัก ไม่สามารถสู้กับบิสกิตสดใหม่ตามร้านเบเกอรี่ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีบางแบรนด์ที่ผลิตสินค้าคุณภาพอยู่ มีการวางจำหน่ายทั่วประเทศทั้งยังรองรับการส่งออกด้วยรูปแบบของเอสเอ็มอีที่เชี่ยวชาญในสายธุรกิจของตนเอง

ธุรกิจขายขนมปี๊บ “สิงห์ไทย” เป็นแบรนด์ตัวอย่างที่เรานำมาเสนอในครั้งนี้กับขนมคุณภาพผลิตจากแป้งสูตรเฉพาะที่ผ่านการผลิตจากเครื่องจักรคุณภาพดี ทำให้มีขนมอร่อยๆ บรรจุใส่ปี๊บวางจำหน่ายไปทั่ว บริหารงานโดย “คุณสวาท ชัยชมภู” และ “คุณธนบูรณ์ แซ่จิว” ดำเนินธุรกิจภายใต้การดูแลของ “บริษัท ซิงไท้ฟู้ด อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด” ที่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2548

แต่ก่อนหน้าที่จะมาเป็นสิงห์ไทยดังเช่นทุกวันนี้ บริษัทดังกล่าวถูก Take Over มาจาก “บริษัท คงหงวน บิสกิต แฟคตอรี่ (ไทยแลนด์) จำกัด” เป็นบริษัทในเครือญาติของทั้งสองเอง ซึ่งตอนนั้นคุณธนบูรณ์นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร และทำหน้าที่เป็นตัวแทนขายขนมให้กับบริษัทดังกล่าว กระทั่งต่อมาทางเจ้าของตัดสินใจจะเลิกกิจการ แม้ว่าตอนนั้นจะเป็นผู้ผลิตบิสกิตและเวฟเฟอร์บรรจุปี๊บที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทย แต่เพราะไม่มีใครสานต่อธุรกิจจึงตัดสินใจจะปิดกิจการลง ทำให้ทั้งสองสามีภรรยาตัดสินใจขอซื้อเครื่องจักรต่อมา เพราะเห็นว่าตนเองก็มีช่องทางการตลาดอยู่แล้ว สูตรการทำขนมของบริษัทก็มีเพียบพร้อม จึงแยกตัวออกมาก่อตั้งบริษัท ซิงไท้ฟู้ด อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด ขึ้นและดำเนินการขายขนมภายใต้แบรนด์ สิงห์ไทย

สิงห์ไทยดำเนินการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันท่ามกลางการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยสินค้าคุณภาพที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ความอร่อยของขนมอยู่ที่ตัวแป้งเป็นสำคัญ ซึ่งทางแบรนด์ใช้แป้งที่เป็นสูตรลับเฉพาะ ทำให้ไม่เหมือนใคร เวลาทานจะไม่ติดฟันเหมือนกับแบรนด์อื่นๆ มีคุณลักษณะกรอบนอกและละลายเร็ว จากการคิดค้นมากว่า 40 ปี ที่สำคัญยังมีตัวช่วยที่ทำให้ขนมมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือเครื่องจักรคุณภาพสูงที่ช่วยในการอบแป้ง ทำให้แป้งแห้งสนิทและขนมจึงมีรสชาติอร่อยตามมา

ข้อดีของการขายขนมรูปแบบนี้คือเรื่องของคู่แข่ง ซึ่งปัจจุบันมีธุรกิจผู้ผลิตชั้นนำในส่วนของขนมปี๊บดังกล่าวอยู่เพียง 9 รายเท่านั้นในประเทศ โดยสิงห์ไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น เนื่องจากการลงทุนค่อนข้างใช้ทุนสูงไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ยากมากที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่จะเข้ามาเล่นตลาดนี้ได้ ทำให้คู่แข่งมีไม่มากนัก และส่งผลต่อส่วนแบ่งการตลาดที่เหมาะสมและลงตัวต่อการสร้างผลกำไร

สำหรับธุรกิจดังกล่าวได้เริ่มต้นใช้เงินทุนส่วนตัวไป 30 ล้านบาท กระทั่งต่อมาธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องจึงทำการกู้เพื่อขยายโรงงาน รองรับกำลังผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น และปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 15 ตันต่อวัน สินค้าในบริษัทมีกว่า 10 ชนิด ประกอบไปด้วยเวเฟอร์และบิสกิต อัตราการส่งออกอยู่ที่ 70% ไปยังประเทศมาเลเซีย จีน กัมพูชา และเวียดนาม เป็นต้น และอีก 30% เป็นการวางจำหน่ายภายในประเทศ ตามแหล่งค้าส่ง เช่น ตลาดไทย ตลาดสี่มุมเมือง เป็นต้น และขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ในส่วนของผลประกอบการบริษัทประจำปี 2559 อยู่ที่ร้อยล้านบาท ตั้งเป้าในปีนี้ (2560) ว่าจะเติบโตอีก 3%