ขายผลไม้ “ลุงนัง” จัดผลไม้ใส่ถาดเสิร์ฟแบบบ้านๆ แต่รายได้รายอย่างหรู 7 หลักต่อเดือน
ขายผลไม้ “ลุงนัง” จัดผลไม้ใส่ถาดเสิร์ฟแบบบ้านๆ แต่รายได้รายอย่างหรู 7 หลักต่อเดือน

ขายผลไม้ “ลุงนัง” จัดผลไม้ใส่ถาดเสิร์ฟแบบบ้านๆ แต่รายได้รายอย่างหรู 7 หลักต่อเดือน

ขายผลไม้ “ลุงนัง” จัดผลไม้ใส่ถาดเสิร์ฟแบบบ้านๆ แต่รายได้รายอย่างหรู 7 หลักต่อเดือน

ขายผลไม้ “ลุงนัง” จัดผลไม้ใส่ถาดเสิร์ฟแบบบ้านๆ
แต่รายได้อย่างหรู 7 หลักต่อเดือน

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อาหารรสเลิศ และผลไม้อันโอชาหลากหลาย โดยเฉพาะผลไม้ฤดูร้อน อย่างทุเรียน เงาะ มังคุด มะม่วง และผลไม้ที่สามารถหาทานได้ตลอดทั้งปี เช่น สับปะรด และสับปะรดขึ้นชื่อของประเทศไทยคือสับปะรดศรีราชา พันธุ์ปัตตาเวียนั่นเอง ซึ่งในอดีต จ.ชลบุรีมีการปลูกสับปะรดจำนวนมาก แต่ด้วยความเจริญ ทำให้มีการถมที่เหล่านั้นไปทำอุตสาหกรรมเสียส่วนใหญ่

แต่ “ร้านลุงนัง” ยังคงมีสับปะรดและผลไม้อื่นๆให้ทานเป็นจำนวนมาก ซึ่งการได้แวะชิม “ผลไม้ถาด” ร้านลุงนังต้องถูกบรรจุอยู่ในโปรแกรมของบริษัทกรุ๊ปทัวร์หลายๆที่ โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์เกาหลี จนทุกวันนี้สับปะรดที่ขายในเกาหลีโดยนำเข้าจากประเทศไทยจะถูกเรียกว่า “สับปะรดสายพันธุ์ลุงนัง” เลยทีเดียว

ปัจจุบันนี้ร้านลุงนังมีทายาทรุ่นที่ 2 ขึ้นมาบริหารดูแล คือ “คุณวิสุทธ์ คงมั่น” ซึ่งมารับช่วงกิจการตอจากบิดาและมารดา “คุณอัศนีย์ และคุณสมพิศ คงมั่น” ซึ่งคุณอัศนีย์คือ ลุงนัง ตัวจริง การขายผลไม้ของร้านลุงนังเป็นแบบบริการเสิร์ฟใส่ถาดพร้อมทาน ซึ่งผลไม้ที่มีได้แก่ สับปะรด แก้วมังกร มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มังคุด และส้มโอ

ขายผลไม้ “ลุงนัง” จัดผลไม้ใส่ถาดเสิร์ฟแบบบ้านๆ แต่รายได้รายอย่างหรู 7 หลักต่อเดือน

จุดเริ่มต้นของธุรกิจขายผลไม้ถาดลุงนัง คือ ประมาณปี พ.ศ.2536 ลุงนังได้ประกอบอาชีพทำไร่สับปะรด ปลูกมันสำปะหลัง และทำไร่อ้อย บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ ที่อำเภอศรีราชา โดยครึ่งหนึ่งของผลิตผลที่ได้จะส่งเข้าโรงงานแปรรูปผลไม้ ส่วนที่เหลือนำมาจำหน่ายโดยวางสับปะรดบริเวณริมถนนหน้าบ้าน พอนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวสวนเสือศรีราชา โดยเฉพาะชาวเกาหลีนั้นไม่รู้จักสับปะรด ได้แวะซื้อและดูต้นสับปะรดที่ไม่เคยเห็น คุณสมพิศได้ปอกสับปะรดให้ทาน และขายในราคาลูกละ 20 บาท และมีหลายคนที่สั่งซื้อกลับประเทศ ลุงนังจึงทำการบรรจุและส่งไปตามออเดอร์นั้น ซึ่งขายดีมากจนสับปะรดที่ปลูกเองมีไม่เพียงพอจนต้องขอซื้อจากญาติและเพื่อนบ้านใกล้เคียง พอผ่านไป 1 ปี ทางบริษัททัวร์เกาหลีได้ติดต่อนำกรุ๊ปทัวร์มาลง จึงเกิดไอเดียการขายผลไม้แบบเสิร์ฟใส่ถาดพร้อมทาน รายได้ที่ได้ค่อนข้างดีจึงมีการลดการทำไร่สับปะรดลง แต่ยังมีการทำบางส่วนเพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม

ขายผลไม้ “ลุงนัง” จัดผลไม้ใส่ถาดเสิร์ฟแบบบ้านๆ แต่รายได้รายอย่างหรู 7 หลักต่อเดือน

ในแต่ละวันจำนวนนักท่องเทียวที่ได้แวะเวียนเข้ามามีมากถึง 1,000 คนต่อวัน ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวมีมากถึง 30,000-40,000 คนต่อวัน ซึ่งมาจากบริษัททัวร์มากกว่า 30 บริษัท รายได้จากการขายผลไม้ถาดเดือนละ 7 หลัก ซึ่งมาจากการเสิร์ฟสับปะรดมากกว่า 400 ถาดต่อวัน โดยเฉพาะช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวต้องเสิร์ฟเป็นหลักพันถาดต่อวัน ส่วนราคาผลไม้มีทั้งแบบที่เปลี่ยนตามฤดูกาลและราคาที่ไม่เปลี่ยนตามฤดูกาล ได้แก่ แก้วมังกร และสับปะรด ซึ่งสับปะรดราคาถาดละ 75 บาท ( 3 ผล), แก้วมังกรถาดละ 60 บาท ( 1 กิโลกรัม), มะม่วงถาดละ 80-120 บาท ( 1 กิโลกรัม), มังคุดถาดละ 30 บาทหรือตามฤดูกาล และทุเรียนถาดละ 100 บาทหรือตามฤดูกาลเช่นกัน

ขายผลไม้ “ลุงนัง” จัดผลไม้ใส่ถาดเสิร์ฟแบบบ้านๆ แต่รายได้รายอย่างหรู 7 หลักต่อเดือน

เมื่อเปรียบเทียบการขายผลไม้ตามฤดูกาลและผลไม้นอกฤดูกาลพบว่า ผลไม้นอกฤดูกาลขายได้กำไรมากกว่า เนื่องจากราคาที่สูงกว่า ส่วนผลไม้ตามฤดูกาลจะมีราคาถูก และทางร้านได้ขายผลไม้ตามราคาท้องตลาด กำไรจึงได้น้อยกว่า

สิ่งสำคัญที่ทำให้กิจการร้านขายผลไม้ลุงนังเติบโตได้จนทุกวันนี้คือความใส่ใจในรสชาติของผลไม้ โดยเฉพาะสับปะรดซึ่งถือเป็นพระเอกของร้านเลยทีเดียว การคัดสรรต้องเลือกที่หวาน อร่อย ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน ถ้าปอกสับปะรดแล้วไม่ใช่อย่างที่ต้องการต้องทิ้ง เพราะเป็นการได้ทานสับปะรดเป็นครั้งแรกของนักท่องเที่ยว

ต้องเป็นการทานที่เกิดความประทับใจและน่าจดจำ เพื่อนำไปบอกต่อแบบปากต่อปาก ซึ่งเป็นการส่งผลประโยชน์แก่ประเทศไทย เพราะช่วยสนับสนุนผลไม้ไทยและสงเสริมการท่องเที่ยวให้มีชาวต่างชาติมาเที่ยวในไทยมากยิ่งขึ้น

ข้อมูลติดต่อขายผลไม้ลุงนัง
ที่อยู่ : ทางหลวงหมายเลข 7 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20110
เบอร์โทรศัพท์ : 081-7612868 , 081-8613426

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น