ขายสินค้าแฟชั่น สินค้าเครื่องสำอางเกาหลี อยากขายต้องทำอย่างไร?
ขายสินค้าแฟชั่น แนะนำการขายสินค้าเครื่องสำอางเกาหลี เป็นช่องทางหนึ่งในการทำรายได้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากธุรกิจความงามเป็นธุรกิจที่กำลังโตในประเทศไทยแบบก้าวกระโดด ในส่วนของเครื่องสำอางก็เช่นกัน และสำหรับตลาดเครื่องสำอางที่กำลังเป็นที่นิยมในสังคมไทยก็คือเครื่องสำอางเกาหลี ทั้งในด้านของ Skin care และ Cosmetic ทำให้การขายสินค้าแฟชั่นส่วนหนึ่งเทใจให้กับเครื่องสำอางเกาหลีกันมาก วันนี้ทางทีมงาน SMELeader ก็มีคำแนะนำดีๆ มาฝากกัน
อยากขายสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอางเกาหลี ต้องทำอย่างไรบ้าง
ปัจจุบันการขายสินค้าแฟชั่นประเภทเครื่องสำอางเกาหลี ส่วนมากเป็นการพรีออร์เดอร์สินค้ามาจากประเทศเกาหลี หรือบางรายนิยมเดินทางไปซื้อมากักตุนไว้ สรุปรูปแบบการขายสินค้าแฟชั่นเครื่องสำอางเกาหลี ได้ดังนี้
1.เปิดเว็บพรีออร์เดอร์
เป็นการเปิดเว็บไซต์ขายสินค้า ประเภทที่มีภาพสินค้าพร้อมรายละเอียดและราคาขายระบุไว้เสร็จสรรพ แต่ไม่ได้มีสินค้าในมือ ซึ่งแม่ค้าจะต้องรอรับออร์เดอร์จากลูกค้าเข้ามาก่อนแล้วจึงสั่งของไปยังต้นทางหรือร้านค้าในประเทศเกาหลี ทั้งนี้แม่ค้าจะต้องศึกษาให้ดีถึงต้นทุนและกำไร เพราะจะต้องมีค่าขนส่งที่ค่อนข้างมากพอสมควร และจำเป็นต้องบวกเพิ่มไปในราคาสินค้า อาจทำให้ราคาขายสูงตามไป จำเป็นต้องสำรวจคู่แข่งในตลาดโดยละเอียด หากพบว่าผู้ค้ารายอื่นขายราคาได้ต่ำกว่ามากๆ อาจต้องพิจารณาอีกครั้งว่าควรขายสินค้าชิ้นนั้นหรือไม่
ช่องทางการเดเว็บไซต์ สามารถทำได้หลากหลายทาง แนะนำได้แก่ เว็บไซต์ฟรีสัก 1-2 เว็บไซต์ หรือขายผ่านทาง Social media เช่น Facebook Instagram LINE เป็นต้น
2.เดินทางไปช้อปด้วยตัวเอง
อีกหนึ่งวิธีสำหรับแม่ค้าเครื่องสำอางเกาหลี ก็คือการเดินทางไปช้อปปิ้งด้วยตนเองถึงที่ พบว่าวิธีนี้มีแม่ค้าพ่อค้าใช้อยู่มากพอสมควร ประเภทบินไปเพื่อซื้อของกลับมาขายโดยตรงเป็นอาชีพ วิธีนี้จะทำให้ได้สินค้าที่ถูกจริง แต่ต้องศึกษาเรื่องการชำระภาษีให้ดี ย่านแนะนำสำหรับช้อปปิ้งเครื่องสำอางเกาหลีมาขาย ได้แก่ ย่านดงแทมุน ย่านเมียงดง ย่านนัมแดมุน ย่านอินซาดง และย่านอิแทวอน และต้องไม่ลืมคำนวณค่าเดินทางด้วยว่าคุ้มหรือไม่อย่างไร แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ
2.1 พรีออร์เดอร์ เป็นการเปิดรอบพรีออร์เดอร์เพื่อรับออร์เดอร์จากลูกค้า แล้วแม่ค้าจะทำการเดินทางไปซื้อสินค้าตามรายการออร์เดอร์ที่ได้รับขากลูกค้า เพื่อมาจัดส่งให้ลูกค้าหลังจากได้รับเงินจากลูกค้ามาแล้ว
– ข้อดี คือได้รับเงินจากลูกค้ามาก่อน แล้วจึงทำการซื้อสินค้า หมดปัญหาเรื่องต้นทุนจม สามารถกำหนดระยะเวลาในการเดินทางได้
– ข้อด้อย ลูกค้าต้องรอสินค้านาน ทำให้ลูกค้าบางส่วนตัดสินใจไปซื้อสินค้าจากเจ้าอื่นที่มีสต๊อกและราคาแตกต่างกันไม่มาก
2.2 สต๊อกของ เป็นการเดินทางไปเพื่อซื้อของมาสต๊อกไว้ รองรับการสั่งซื้อที่สามารถส่งของให้ลูกค้าได้ในทันที แม่ค้าจะต้องตัดสินใจเองว่าควรซื้อสินค้าชิ้นไหนบ้างต้องวางแผนก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อป้องกันปัญหาต้นทุนจม
– ข้อดี มีสินค้ารองรับเมื่อลูกค้าสั่งซื้อ ทำให้ลูกค้าได้สินค้ารวดเร็วกว่าการสั่งพรีออร์เดอร์ และลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายกว่า
– ข้อด้อย หลายครั้งเกิดปัญหาต้นทุนจม เพราะแม่ค้าต้องเอาเงินไปซื้อของมาสต๊อกไว้ หากขายได้ยากหรือช้ากว่าที่คาดไว้ ทำให้ขาดความคล่องในด้านเงินหมุนเวียน และแม่ค้าต้องตัดสินใจให้ดีว่าจะสต๊อคสินค้าตัวไหนเท่าไร ต้องดูตลาดว่าสินค้าชิ้นไหนขายยากง่ายอย่างไร
สิ่งที่ยากต่อการขายสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอางเกาหลี
ความยากของการขายสินค้าประเภทนี้ยังมีอยู่ เพราะเป็นสินค้านำเข้า อีกทั้งยังมีลิขสิทธิ์และอีกหลายๆ องค์ประกอบที่ทำให้การขายสินค้าดังกล่าวนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด ได้แก่
1.ค่าเดินทาง
เพราะเป็นสินค้านำเข้าที่พ่อค้าแม่ค้าบางรายต้องเดินทางไปซื้อมาจำหน่าย บางครั้งก็ทำให้ยากต่อการขายด้วย เพราะค่าเดินทางซึ่งเป็นต้นทุนหลัก ทำให้การขายไม่คุ้มค่ากับกำไรที่ได้รับหลังหักต้นทุนแล้ว ทางที่ดีจึงควรศึกษาให้ดีก่อนเกี่ยวกับการขายสินค้านั้นๆ ว่าคุ้มค่าต่อต้นทุนที่จะเสียไปหรือไม่
ควรแพลนการเดินทางสำหรับการพรีออร์เดอร์ เป็นการเดินทางเดือนละครั้ง และเปิดรอบพรีอร์เดอร์ดือนละรอบ นี่เป็นตัวอย่างสำหรับการเดินทางเพื่อพรีออรืเดอร์สินค้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ได้แก่ ความต้องการใช้สินค้าของลูกค้า เงินทุนแม่ค้า ฯลฯ
สำหรับการแพลนเดินทางเพื่อสต๊อกสินค้าไม่จำเป็นต้องถี่เท่ากับการพรีออร์เดอร์ เพราะลูกค้าไม่ได้รอสินค้า เนื่องจากเป็นการซื้อมารองรับไว้แล้วในสต๊อกแต่ต้องซื้อกลับมาปริมาณมาก อาจเดินทาง 3 เดือน 1 ครั้ง หรือ 6 เดือน 1 ครั้ง เป็นต้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้วย
2.ค่าขนส่ง
หากไม่ต้องเดินทางไปซื้อด้วยตัวเอง ก็ยังมีในเรื่องของค่าขนส่ง ซึ่งการสั่งสินค้าจำนวนไม่มากพอ เช่น การส่งต่อครั้ง 1-2 ชิ้น จะทำให้ภาระค่าส่งครั้งนั้นสูงมาก และไม่คุ้มค่าต่อการนำมาจำหน่ายต่ออย่างแน่นอน ดังนั้นการเปิดพรีออร์เดอร์สินค้า จึงต้องมีรอบการสั่งสินค้า เพื่อให้ลูกค้าออร์เดอร์เข้ามารวมกันจำนวนมากก่อนแล้วจึงสั่งของไปทีเดียว เพื่อให้การจัดส่งครั้งนั้นคุ้มค่าต่อการจำหน่ายต่อเพื่อสร้างกำไร
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่รองรับการขนส่งข้ามประเทศ เพื่อประมาณค่าจัดส่ง
- http://www.smeshipping.com
- https://dearborn.co.th/index.php
- http://www.goodfreight-th.com
- http://www.ts-logs.com/
- http://fastship.co/
- https://www.eologistic.com/
- http://www.donelogisticsthailand.com
- http://logistics2day.com/
- http://www.kitpongshipping.com
3.ลิขสิทธิ์
เครื่องสำอางเกาหลีพวกแบรนด์ดังทั้งหลาย มีลิขสิทธิ์คุ้มครอง สินค้ามีราคาค่อนข้างสูง ทำให้เกิดของปลอมขึ้น เป็นเรื่องที่พ่อค้าแม่ค้าต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ในการตรวจสอบสินค้าที่นำมาขายว่าจะต้องเป็นชของแท้จริงๆ ไม่ถูกหลอกให้รับเข้ามาขายแล้วกลายเป็นของปลอมที่ไม่ได้คุณภาพ
เว็บแนะนำสำหรับตรวจสอบเครื่องสำอางลิขสิทธิ์ http://checkcosmetic.net/, http://www.t-secu.net
4.ภาษี
สำคัญมากคือเรื่องภาษีต้องศึกษาให้ดี โดยเฉพาะการเดินทางเพื่อซื้อของเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ตอนเข้าประเทศจะมีการสุ่มตรวจเพื่อชำระภาษี หากซื้อของเกินจำนวนที่ระเบียบของกรมศุลกากรกำหนดไว้ ดังนั้นควรศึกษาเงื่อนไขให้ดี และศึกษาอัตราการชำระภาษี หากเปิดเว็บพรีออร์เดอร์ หากมีการสั่งซื้อสินค้าไปยังเว็บต้นทาง สินค้าจะถูกส่งมายังชิปปิ้ง ซึ่งจะมีการจัดการในเรื่องของภาษีก่อนจะส่งมายังประเทศไทย หรือสามารถยื่นเรื่องชำระภาษีได้ที่เว็บไซต์ http://rdserver.rd.go.th/publish/index.php
5.คู่แข่งในตลาด
ตลาดเครื่องสำอางเกาหลีในไทยมีขนาดกว้างใหญ่มาก คู่แข่งมากราย และมีการแข่งขันที่สูงทีเดียว ทำให้เรื่องของคู่แข่งในตลาดเป็นความยากในการขายสินค้าประเภทนี้
6.การสร้างความน่าเชื่อถือ
เพราะเครื่องสำอางเกาหลี มีทั้งของแท้ของปลอม ดังนั้นการสร้างความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญมาก และก็เป็นเรื่องที่ยากมากด้วย ยิ่งถ้าหากเป็นเครื่องสำอางที่มีช้อปในไทย เพื่อความสบายใจอาจทำให้ผู้บริโภคเลือกเดินเข้าช้อปมากกว่าก็เป็นได้ เพื่อความมั่นใจว่าจะได้ของแท้ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการขายสินค้าแฟชั่นประเภทเครื่องสำอางเกาหลี ที่พ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายควรศึกษาให้ดีก่อนลงทุน
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.10mag.com, https://russiaherb.com, https://theprettypomegranate.wordpress.com, http://www.theoutletofmyconsciousness.com, http://yanrula.blogspot.com, http://rebloggy.com