ขายอาหาร “Summer Street” ซีฟู้ดปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นโดนใจวัยรุ่นกลางซอยอารีย์

ขายอาหาร “Summer Street”
ซีฟู้ดปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นโดนใจวัยรุ่นกลางซอยอารีย์

ร้านขายอาหารในไทยนั้นมีหลากหลายรูปแบบมาก ตั้งแต่แผงลอยข้างทางไปจนถึงภัตตาคาร 5 ดาว เนื่องจากอาหารไทยนั้นมีรสชาติอร่อยและเป็นที่นิยมทั่วโลก ร้านรวงเหล่านี้จึงเปิดให้บริการได้เกือบตลอดเวลาและสามารถให้บริการลูกค้าได้ทุกรูปแบบ และด้วยความโชคดีที่พื้นที่ประเทศไทยในหลายจังหวัดนั้นอยู่ติดกับทะเล ทำให้อาหารทะเลเป็นที่นิยมเช่นกัน กลุ่มคนสมัยใหม่จึงได้นำไอเดียอาหารทะเลและการปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นมารวมกัน เกิดเป็นร้านขายอาหารทะเลปิ้งย่าง “Summer Street” ซึ่งมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมาก

ร้านขายอาหารทะเลปิ้งย่าง Summer Street เกิดจากการร่วมหุ้นกันของเพื่อนสามคน หนึ่งในนั้นคือคุณ “ประเสริฐ คุรุปรีชารักษ์” ซึ่งทั้งสามคนนี้ทำงานในสายดีไซเนอร์แต่ได้ลาออกและมาเริ่มต้นธุรกิจนี้อย่างจริงจัง ตำแหน่งของร้านที่ได้วางไว้คือ ขายอาหารทะเลให้ลูกค้าปิ้งทานเองตามอัธยาศัย เช่น กุ้งก้ามกราม หอยแมลงภู่ หมึก หอยเชลล์ หอยหวาน หอยแครง เป็นต้น ซึ่งจุดเด่นของอาหารทะเลอย่างที่ทราบกันดีว่าไขมันต่ำ ไม่ค่อยมีควันที่เกิดจากการย่างทำให้ไม่รบกวนผู้คนบริเวณนั้น และสำหรับชาวมุสลิมยังสามารถทานได้ด้วย

จุดเด่นของ Summer Street คือ น้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดที่ทางร้านปรุงขึ้นเอง โดยอาศัยคำติคำชมจากลูกค้าสะสมประสบการณ์มาและพัฒนาสูตรให้อร่อยจัดจ้าน รสชาติคลุกเคล้ากับอาหารทะเลได้อย่างเข้ากัน อาหารทะเลที่มีให้บริการยังผ่านการคัดสรรมาอย่างดีถึงคุณภาพและความสดใหม่ แม้ต้นทุนจะค่อนข้างสูงทำให้กำไรลดลง แต่ทางร้านต้องการนำเสนอสิ่งดีๆให้แก่ลูกค้ามากกว่าและการให้บริการต่างๆยังมาจากความใส่ใจแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย เช่น ภาชนะใส่อาหารเป็นจานเซรามิกที่สามารถใส่อาหารร้อนๆได้ดีกว่าจานพลาสติก แม้ว่าจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นก็ตาม

ทั้งนี้การออกแบบร้านยังสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้ดี โดยตัวร้านนั้นดัดแปลงมาจากโครงรถเก่า คล้ายกับจอดรถเปิดอาหารข้างทาง แต่ด้านหน้ามีสตูลให้นั่งติดกับบาร์อาหาร และรอบๆร้านได้มีการจัดวางโต๊ะเก้าอี้ไว้ได้อย่างเหมาะสม การตกแต่งร้านสไตล์นี้ได้รับอิทธิพลมาจากรูปแบบร้านสึคายะของญี่ปุ่น ที่เป็นร้านข้างทางและมีอาหารปิ้งย่างให้ลูกค้าปิ้งทางได้เองตามใจชอบ พร้อมกับการจิบเบียร์ สร้างบรรยากาศที่สบายๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อนหลังจากการทำงานอย่างหนักมาตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ร้านยังได้ออกแบบมาเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก เนื่องจากพื้นที่ที่เปิดให้บริการนั้นเป็นพื้นที่เช่าที่ได้มาจากร้านเดิมปิดกิจการไป และพื้นที่บริเวณนี้อยู่ใกล้กับสถานที่ทำงานเดิมของคุณประเสริฐ เมื่อเห็นพื้นที่ว่างประกอบกับอยากเปิดธุรกิจของตนเอง จึงได้ชวนเพื่อนมาร่วมลงทุนในทันที

ราคาชุดอาหารที่มีให้บริการนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 ขนาด ได้แก่

1. ขนาดเล็ก(S) ราคา 399 บาท เหมาะสำหรับ 2 คน
2. ขนาดกลาง(M) ราคา 599 บาท เหมาะสำหรับลูกค้าไม่เกิน 3 คน
3. ขนาดใหญ่ (L) ราคา 999 บาท เหมาะสำหรับลูกค้าตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป

ทั้งนี้อาหารที่ทางร้านได้จัดให้นั้นจะมีเหมือนกันทุกขนาดแต่ต่างกันที่ปริมาณของอาหารเท่านั้น

กลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญของร้านขายอาหารทะเลปิ้งย่าง Summer Street คือการบอกต่อผ่านสื่อออนไลน์ เนื่องมาจากคุณภาพของอาหารและการให้บริการของทางร้านนั้นเป็นที่ประทับใจของลูกค้า จึงเกิดการบอกต่อผ่านสังคมออนไลน์รูปแบบต่างๆ ทั้งถ่ายรูปแชร์ เช็คอินสถานที่ รวมถึงได้รับคำแนะนำในเว็ปไซต์รีวิวร้านอาหารอร่อยๆหลายราย ลูกค้าจึงมาอุดหนุนร้านอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน หรือคุณป้าที่มีอายุแล้วก็ตาม ซึ่งต่างเป็นลูกค้าเป้าหมายของทางร้านทั้งสิ้น

กระแสตอบรับที่ได้นั้นดีมากจนมีผู้มาขอซื้อแฟรนไชส์หลายครั้ง แต่ทั้งสามคนยังไม่ได้วางแผนที่จะขายแบบแฟรนไชส์ เพราะกังวลเรื่องการควบคุมคุณภาพของอาหาร ทั้งนี้ ในอนาคตอาจจะมีการสร้างแบรนด์ใหม่โดยวางตำแหน่งของร้านใหม่ที่ไม่ใช่การให้บริการอาหารปิ้งย่างเช่นเดิม เพราะจะทำให้เกิดการลดมูลค่าระหว่างกันได้

ข้อมูลติดต่อ ขายอาหาร Summer Street
ที่ตั้ง : อารีย์ ซอย 2 กรุงเทพฯ
Facebook :SummerStreet
Instagram : @SummerStreets

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น