ขายเมลอน “โอโซน ฟาร์ม” อร่อยปลอดสารพิษ ธุรกิจตามกระแสออแกนิกส์
ด้วยรูปแบบการเกษตรในสมัยปัจจุบัน ทำให้หลายๆครั้งเกษตรกรใช้ยาต่างๆ เพื่อหวังเป็นตัวช่วยในการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพ ถึงแม้ว่าจะส่งผลเสียอย่างยิ่งยวดแก่ผู้บริโภคก็ตามที “โอโซน ฟาร์ม” ได้ทำการพิสูจน์ผ่านธุรกิจขายเมลอนปลอดสารพิษ แสดงถึงสินค้าเกรดดีที่พัฒนาจากวิธีทางธรรมชาติโดยไม่หวังพึ่งสารเคมี
เจ้าของธุรกิจที่มีแนวความคิดน่าชื่นชมนี้คือคุณ “วันทะกานต์ และ คุณพิเชษฐ์ กันทะวงศ์” สองสามีภรรยาผู้ก่อตั้ง “โอโซน ฟาร์ม” ธุรกิจขายเมลอนที่ไม่พึ่งสารเคมีแม้แต่เพียงหยดเดียว แต่เดิมนั้นคุณพิเชษฐ์ได้เคยทำงานที่ บริษัทเจียไต๋ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัททดสอบพันธุ์พืชต่างประเทศ และบริษัท TJC เคมีจำกัด ซึ่งทำหน้าที่ลงทะเบียนสารก่อนเข้ามาขายในประเทศไทย เพราะคลุกคลีอยู่กับงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีที่ใช้ในการเกษตร พบเห็นอันตรายและผลกระทบมากมายจากยาต่างๆ ทำให้คุณพิเชษฐ์ตระหนักและต้องการสร้างแนวความคิดใหม่ตามสไตล์ธรรมชาติอนุรักษ์ของตน
เพื่อทำความฝันของตนให้เป็นจริง เจ้าตัวจึงออกจากงานประจำ มาปลูกเมลอนซึ่งจัดเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจของไทย โดยใช้วิธีการตามที่วางแผนไว้คือปลูกกลางแจ้งโดยไม่พึ่งโรงเรือน ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นที่น่าพอใจนัก เพราะจากเมลอน 800 ต้นที่ทดลองปลูก มีเพียง 400 ต้นเท่านั้นที่สามารถเก็บเกี่ยวผลิตผลได้ และมีไม่ถึง 100 ลูกที่มีคุณภาพพอที่จะนำไปขาย โดยสาเหตุที่คุณพิเชษฐ์คาดไว้คือโรคที่มากับดิน และแมลงศัตรูพืชต่างๆ
คุณพิเชษฐ์ได้ลองปลูกเมลอนอีกครั้ง พร้อมยังคงความตั้งใจที่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง สารเคมีเร่งการเติบโตของพืชต่างๆ ในครั้งนี้ เจ้าของไร่ “โอโซน ฟาร์ม” ได้ทดลองปลูกเมลอนในโรงเรือน ผลลัพธ์คือปัญหาจากแมลงลดลง แต่ยังคงมีปัญหาจากดิน เพื่อพิสูจน์ความคิดตามที่ศึกษามาเป็นอย่างดี คุณพิเชษฐ์ได้ทำการทดลองปลูกเมลอนอีกหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการปลูกโดยไม่พึ่งดิน รวมถึงรูปแบบต่างๆ ทว่าผลผลิตที่ได้ยังไม่ใช่แบบที่ตนต้องการ สุดท้าย มาบรรจบที่การปลูกบนทราย ซึ่งช่วยลดโรคจากดินได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังมีการรักษาความชื้นในโรงเรือน ทำให้เมลอนมีรสชาติหวานฉ่ำไม่ต่างจากบินตรงไปซื้อที่ประเทศญี่ปุ่น
การทดลองปลูกครั้งนี้ นำมาซึ่งความสำเร็จอย่างงดงาม ทำให้ “โอโซน ฟาร์ม” กล้าการันตีถึงธุรกิจขายเมลอนของตนที่มีผลิตภัณฑ์รสชาติดีเยี่ยม และปลอดภัยแบบสุดๆ โดยคุณพิเชษฐ์เริ่มทำการเปิดตลาดครั้งแรกบนโลกโซเชี่ยลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ค พร้อมจัดส่งผ่านระบบไปรษณีย์ ลูกค้าหลายคนหลังจากที่ได้ลิ้มรสความหวานจากธรรมชาติของเมลอน ก็เป็นอันชื่นชอบอย่างมาก กลับมาซื้อใหม่ก็มาก บอกต่อก็เยอะ ทำให้ธุรกิจขายเมลอน “โอโซน ฟาร์ม” มีลูกค้าทั้งแบบเดี่ยว แบบรายครอบครัว หรือแม้แต่โรงแรมดัง โดยออปชั่นเสริมที่เจ้าของฟาร์มทั้งสองได้เพิ่มเติม คือการทำลวดลายบนเปลือกเมลอนตามภาพที่ลูกค้าต้องการ แสดงอีกหนึ่งจุดที่สร้างความแตกต่างมัดใจผู้บริโภคเช่นกัน
เพราะต้องการควบคุมคุณภาพของสินค้าให้อยู่ในระดับพรีเมี่ยม ทั้งยังไม่ใช้ตัวช่วยอย่างสารเคมีในการเพิ่มผลผลิต ทำให้ ธุรกิจขายเมลอน “โอโซน ฟาร์ม” ไม่ได้ปลูกแบบเอาปริมาณเข้าว่าเหมือนเจ้าอื่นๆ ซึ่งในเนื้อที่ 2 ไร่ของ “โอโซน ฟาร์ม” มีโรงเรือนเพียง 7 เรือน ตกแล้วเก็บผลผลิตได้ในทุก 10-15 วัน ช่วงละ 200-300 ลูก ดูแล้วไม่ใช่ตัวเลขที่เยอะ แต่ถ้าพูดถึงคุณภาพนั้น เรียกได้ว่าคับเรือนกันเลยทีเดียว นั่นทำให้ลูกค้าที่ต้องการจะสั่งจองเมลอนรสชาติเยี่ยมเหล่านี้ ต้องสั่งล่วงหน้าเป็นเวลา 5 วัน สนธิราคาเริ่มต้นเพียง 400-500 บาทต่อลูก
จากการประสบความสำเร็จของคุณวันทะกานต์ และคุณพิเชษฐ์ สร้างเป็นตัวอย่างให้เกษตรกรใกล้เคียงที่ต้องการปลูกพืชแบบไร้สารพิษบ้าง มีจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาขอความรู้ คำแนะนำจากเจ้าของธุรกิจขายเมลอน “โอโซน ฟาร์ม” ทั้งสอง เป็นการตอบโจทย์ความต้องการของคุณพิเชษฐ์ที่พิสูจน์ว่า สารเคมีไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป ไม่เพียงเท่านั้น สองสามีภรรยายังเอ่ยว่า มีแผนที่จะปลูกพืชเมืองหนาวชนิดอื่นๆ อาทิ สตรอว์เบอร์รี่โดยใช้หลักการเดียวกัน คาดว่าอีกไม่นาน เราคงจะมีโอกาสลิ้มรสผลไม้หลากชนิดภายใต้แบรนด์ “โอโซน ฟาร์ม” แน่นอน
ข้อมูลติดต่อ ธุรกิจขายเมลอน “โอโซน ฟาร์ม”
โทรศัพท์: 08-9201-6654
เฟซบุ๊ค: โอโซน ฟาร์ม
เว็ปไซต์: http://ozonefarm.lnwshop.com
สถานที่: หมู่บ้านแม่เปิน ซอย 9 ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : Facebook Mellow for Kids ผ้ารองกันน้ำ100% เมลโล่
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : ผู้จัดการออนไลน์