ขายโจ๊ก ใส่ไข่ กำไรเกินคุ้ม ลวกไข่รอขายวันละ 600 ฟอง “โจ๊ก มัลลิกา”

อาหารมื้อเช้า เป็นมื้อที่สำคัญที่สุดในชีวิตประจำวัน ซึ่งหากใครที่ไม่ชอบทานอาหารเช้าละก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินครับ เพราะการไม่กินเมื่อเช้าอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ในวันนี้ผมเลยจะมาแนะนำเมนูมื้อเช้าอร่อยๆราคาไม่แพงกันครับ เมนูที่ว่านี้ก็คือ เมนูโจ๊กร้านมัลลิกาครับ ร้านนี้เป็นร้านขายโจ๊กที่ขายมากว่า 34ปีแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าความอร่อยต้องถูกใจทุกคนแน่นอนครับ นอกจากระยะเวลาที่ขายมานานแล้ว สิ่งที่จะยืนยันได้ถึงความอร่อยได้ก็คือ ไข่ลวกที่ใช้ถึงวันละ 600 ฟอง

รวมข้อมูลแฟรนไชส์โจ๊ก-ข้าวต้ม ล่าสุด คลิ๊ก>>

ธุรกิจขายโจ๊กมัลลิกา เริ่มต้นมาจาก คุณแม่ของ “คุณจารุวรรณ ไชยรัชต์ “ นั้นขายโจ๊กเลี้ยงลูกมา 6 คนอยู่ก่อนแล้ว แต่เมื่อคุณจารุวรรณ จบชั้นมัธยมต้น ก็หันมาช่วยคุณแม่ขายโจ๊ก ส่วนน้องๆคนอื่นก็เรียน ในตอนนั้น เป็นการขายโจ๊กแบบรถเข็น เล็กๆ ขายตอนเช้าๆ อยู่ที่ลาดพร้าว การลงทุนตอนแรกลงทุนไปไม่กี่พันบาท มีรถเข็น อุปกรณ์ ถ้วยชาม โต๊ะพับ 4- 5 ตัวเท่านั้น เมนูที่ขายก็มีแต่โจ๊กหมูเครื่องใน ช่วงหน้าฝนจะลำบากมาก เพราะอยู่ข้างถนนพอเวลาฝนตกต้องเก็บของ ขายก็ได้น้อย กระทั่งขายได้ประมาณ 10 ปีก็หันมาเปิดร้านแทน รวมเวลาทั้งหมดแล้วก็ 34 ปีแล้ว ตอนนี้คุณจารุวรรณ ดูแลร้านเป็นหลักมีน้องสะใภ้มาช่วยบ้าง และมีพนักงานอยู่ 7 คนแบ่งกันดูแลหน้าร้านกับในครัว พนักงานจะทำงานทุกวัน วันหยุดจะมีเพียงวันจันทร์ที่ 2 และ 4 ของเดือน

สำหรับราคาขายโจ๊กเมื่อ 30 ปีก่อนจะขายอยู่ที่ราคา 5 บาทใส่ไข่ 7 บาท แต่ด้วยเศรษฐกิจตอนนี้จึงต้องขายโจ๊กไม่ใส่ไข่ 35 บาทและขายโจ๊กใส่ไข่ 40 บาท แต่ถ้าเป็นพวกโจ๊กปลาก็จะขายในราคา 45 บาท นอกจากเมนูข้างต้นก็ยังจะมี โจ๊กกุ้ง โจ๊กซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน โจ๊กเห็ดหอม โจ๊กรวมมิตร และก็ยังมีไข่เค็ม ไข่เยี่ยวม้า สำหรับเมนูแนะนำของคุณจารุวรรณนั้นก็จะเป็นโจ๊กปลา ที่ทำมาจากปลากระพงสดๆจากมหาชัย จะไม่ใช่ปลาที่เลี้ยงจะเป็นปลาจากทะเลเลย ส่วนใครที่อยากกินแบบเพื่อสุขภาพก็จะมีแปะก๊วย ส่วนเมนูที่ขายดีเป็นพิเศษนั้นก็ไม่มีเพราะทุกเมนูขายดีพอๆกัน

เวลาเปิดร้านขายโจ๊กคุณจารุวรรณนั้นจะเปิดขายโจ๊กตั้งแต่ตี 5 ไปจนถึง 11 โมง เวลาคนเยอะที่สุดก็จะเป็นช่วง 6 โมงถึง 10 โมงและก็จะเป็นเสาร์อาทิตย์ ที่นี่ไม่มีบริการเดลิเวอรี่ ลูกค้าประจำจะมีทั้งนักเรียน คนทำงานและผู้ใหญ่ ยอดขายต่อวันประมาณ 300 ชาม สำหรับวัตถุดิบจะมีทั้งมาส่งและซื้อเองค่าวัตถุดิบต่อวันจะอยู่ที่ ประมาณ 7,000-8,000 บาท ข้าวสารจะเป็นข้าวหอมจากเชียงราย ซึ่งที่ต้องใช้ข้าวหอมเชียงรายนั้นก็มาจากข้าวที่นี่จะหอมและไม่คืนตัว ไข่ไก่จะใช้วันละ 600 ฟอง ส่วนกำไรก็ประมาณ 20 % ต่อชาม

แต่กว่าที่คุณจารุวรรณจะประสบความสำเร็จได้นั้นก็ไม่ง่ายเลยเพราะความลำบากที่มีอย่างมากมาย เช่น เวลาตื่นนั้นก็ต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 มาทั้งต้มข้าว ต้มเครื่องใน ลวกไข่เพราะตี 5 ก็ต้องขายแล้ว พอขายถึง 11 โมงก็ต้องเก็บร้าน เสร็จแล้วก็ต้องมานั่งห่อพริกส้ม เตรียมของไว้พรุ่งนี้อีก โดยถึงแม้จะมีพนักงานก็จริงแต่ร้านขายโจ๊กคุณจารุวรรณเป็นเจ้าของจึงต้องคุมทุกอย่าง เวลาเลิกงานก็ต้องเลิกงานพร้อมลูกน้องเพราะด้วยต้องเช็คความเรียบร้อย ถึงแม้บางครั้งจะมีท้อบ้างแต่ก็สู้เพราะที่มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะร้านขายโจ๊ก

ส่วนใครที่จะทำร้านอาหารนั้นคุณจารุวรรณก็แนะนำว่าควรจะมีความตั้งใจจริง รู้จักอดทน ค่อยๆลงทุนทีละน้อยเพราะจะได้ไม่เสี่ยง ในตอนแรกอาจจะขายไม่ได้ ขายได้กำไรน้อย ต้องค่อยๆปรับตัว ถ้าร้านอาหารทำอร่อยจริง ลูกค้าก็จะบอกปากต่อปากและมากินเอง แต่ที่สำคัญที่สุดนั้นก็อยู่ที่ทำเลหากได้ทำเลที่คนเยอะๆหน่อยก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ปัจจุบันร้านขายโจ๊กมัลลิกาเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมีคนมาทำรายการหลายรายการ อาทิ รายการตี๋อ้วนชวนหิว รายการครัวอินดี้ เป็นต้น