ชานมไข่มุก ชาลาล่า สร้างความต่าง สร้างแบรนด์ เน้นสีสันบนความสนุก นำเสนอผ่านชานมไข่มุก!

ชานมไข่มุก ชาลาล่า สร้างความต่าง สร้างแบรนด์ เน้นสีสันบนความสนุก นำเสนอผ่านชานมไข่มุก!ชานมไข่มุก “ชาลาล่า” สร้างความต่าง สร้างแบรนด์
เน้นสีสันบนความสนุก นำเสนอผ่านชานมไข่มุก!

ธุรกิจชานมไข่มุก เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ความน่าสนใจไม่น้อย เริ่มมาจากกระแสนิยมของวัยรุ่นที่ชื่นชอบเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่น และมีรสชาติหอมหวาน ทั้งยังมีไข่มุกใส่ลงไปในชาด้วยก็นับว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่และดึงดูดความสนใจได้ดี ทำให้ธุรกิจนี้เป็นที่นิยมมากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก่อนจะหายไปจากตลาดพักหนึ่งแล้วกลับมาอีกครั้งในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยการกลับมาในครั้งนี้ก็พบว่ากลุ่มลูกค้าได้ขยายตัวมากขึ้น จากกลุ่มวัยรุ่นก็คลอบคลุมไปถึงกลุ่มคนวัยทำงาน

“ชานมไข่มุก” เวลานี้นับว่ามีการแข่งขันสูงมากในตลาด เพราะมีผู้ค้าที่มากหน้าหลายตา ตั้งแต่ร้านค้าขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ แต่ที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้ก็คือชานมไข่มุกภายใต้แบรนด์ “ชาลาล่า” โดย “ภาณุวัฒน์ ภิญโญ” และ “ศลิษา วงษ์กมลชุณห์” ซึ่งเป็นแบรนด์ที่น่าจับตามองในเวลานี้ ด้วยองค์ประกอบหลายๆ อย่างของเขา ทำให้มีความโดดเด่นไปจากชานมไข่มุกเจ้าอื่นๆ

ชานมไข่มุก ชาลาล่า สร้างความต่าง สร้างแบรนด์ เน้นสีสันบนความสนุก นำเสนอผ่านชานมไข่มุก

จุดเด่นแรกที่เจ้าของแบรนด์ให้ความสำคัญก็คือความเป็นเอกลักษณ์ ที่ต้องการให้เป็นที่น่าจดจำของกลุ่มลูกค้า มีการสร้างเรื่องราวให้ดูน่าตื่นเต้นจนกระทั่งออกมาเป็นชื่อแบรนด์และโลโก้ที่มีลักษณะเฉพาะตัว ด้วยแนวคิดที่มาจากวัตถุดิบชาที่มาจากหลายที่ ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ทั้งไซรัปจากฝรั่งเศส จึงมีความคิดว่าจะพาลูกค้าไปยังจุดหมายต่างๆ ได้อย่างไร และเกิดไอเดียคือนำเรือมาประยุกต์เป็น Theme ของธุรกิจเพื่อเป็นพาหนะนำพาลูกค้าไปให้ถึงที่หมาย ทั้งยังมีการนำเอาความน่าตื่นเต้นของโจรสลัดเข้าไป รวมไปถึงชื่อ “ชาลาล่า” ก็สื่อถึงสีสันความสนุกสนานเหมือนกับการได้ออกทะเล เรียกได้ว่าเจ้าของแบรนด์พยายามที่จะสร้างเรื่องราวให้เป็นที่น่าจดจำ จนกระทั่งแตกต่างออกไปจากชานมไข่มุกเจ้าอื่น

จุดเด่นต่อมาคือเรื่องของคุณภาพ ที่ “ชาลาล่า” พยายามคัดสรรแต่วัตถุดิบที่ได้มาตรฐานเข้ามาเป็นส่วนประกอบในการผลิต รวมไปถึงเรื่องของความสะอาดที่ทางร้านให้ความสำคัญไม่น้อย นอกจากนี้ยังเน้นในเรื่องของ Topping ที่หลากหลายเพื่อเพิ่มทางเลือกให้เกิดความน่าสนใจที่แตกต่างไปจากชานมไข่มุกเจ้าอื่นๆ ทำให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย เพราะเชื่อว่าแต่ละคนก็ต้องมีความชอบที่แตกต่างกันออกไป เพราะบางคนอาจอยากกินชานมไข่มุกแต่ไม่ได้อยากกินไข่มุกก็มี แต่อาจอยากได้อย่างอื่นใส่ลงไปแทนไข่มุกเป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีขนมโมจิขายควบคู่ไปด้วย เพื่อเอาไว้กินคู่กันกับชา

ชานมไข่มุก ชาลาล่าสร้างความต่างสร้างแบรนด์ เน้นสีสันบนความสนุก นำเสนอผ่านชานมไข่มุก

ลักษณะสินค้าของชานมไข่มุก “ชาลาล่า” มีให้เลือกดังนี้
– เครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ ชาเขียวมะลิ ชาเขียวมัทฉะ ชาผลไม้ต่างๆ โกโก้เย็น Smoothie ต่างๆ เครื่องดื่มผลไม้ อิตาเลี่ยน โซดา
– มี Topping เยอะที่สุดในธุรกิจชมนมไข่มุก ได้แก่ ไข่มุก, ไข่มุกมินิ, บุกขาว, พุดดิ้งช๊อกโกแลต, พุดดิ้งไข่, พุดดิ้งเผือก, อโลเวร่า, วุ้นผลไม้รวม, วุ้นกาแฟ, วุ้นแอปเปิ้ล, วุ้นเมล่อน, เฉาก๊วย, ถั่วแดงบด, โยเกิร์ต, ป๊อปเปอร์, ช๊อกโกแลต ป๊อปเปอร์, สตอเบอรี่ ป๊อปเปอร์, ลิ้นจี่ ป๊อปเปอร์, มะม่วง ป๊อปเปอร์, โอริโอ, เยลลี่น้ำตาล

ชานมไข่มุกชาลาล่ามีการเปิดสาขาครั้งแรกที่เมืองทองธานีเมื่อปี 2556 โดยได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะขยายสาขาภายในปี 2556 ทั้งหมด 20 สาขา และต่อมาในปี 2557 ขยายเป็น 50 สาขา นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายสาขาเล็กๆ ให้ใหญ่ขึ้นและอยู่ในรูปแบบของ Café อีกด้วย โดยจะขยายสาขาตามสถานที่ที่มีจำนวนของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่หนาแน่น

ชานมไข่มุก ชาลาล่าสร้างความต่างสร้างแบรนด์ เน้นสีสันบนความสนุก นำเสนอผ่านชานมไข่มุก

ในเรื่องของแผนการขยายร้านให้เป็นร้าน Café ทางเจ้าของแบรนด์มองว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่มาก เพราะสามารถใช้เป็นสถานที่นั่งเล่น พบปะสังสรรค์ได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่ชอบใช้บริการร้านประเภท Café ในการติวหนังสือ ก็จะทำให้ร้านชานมไข่มุกชาลาล่าเป็นที่น่าสนใจสำหรับคนกลุ่มนี้ โดยจะนำเอาเรื่องราวที่ถูกกำหนดอยู่ใน Theme มาประยุกต์ใช้ในการตกแต่งร้าน เช่น นำเรือมาประยุกต์เป็นที่นั่งให้กับลูกค้า เพื่อสร้างบรรยากาศให้ลูกค้าได้รู้สึกเหมือนกำลังล่องเรืออยู่

ชานมชาลาล่ามีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือนักเรียน นักศึกษา จนกระทั่งพนักงานบริษัท ซึ่งจะมีอายุตั้งแต่ 15-40 ปี เป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบในรสชาติของความสดชื่นและชอบความแปลกใหม่  ช่องทางการโปรโมทสินค้าในช่วงแรกจะเป็นลักษณะปากต่อปาก แต่ต่อมาได้มีการโปรโมทผ่านทาง Facebook Insgram และ Web Page เพิ่มขึ้น

ข้อมูลรายละเอียดแฟรนไชส์
– ค่าลิขสิทธิ์ 200,00 บาท ระยะเวลา 3 ปี ต่อสัญญาทุก 3 ปี (การต่อสัญญาจะไม่เรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์แฟรนไชส์อีก)
– นอกจากค่าแฟรนไชส์ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ยังต้องเตรียมเงินลงทุนอีก 450,000 บาท ซึ่งเป็นค่าอุปกรณ์และค่าก่อสร้าง สำหรับร้านขนาดพื้นที่ 5 ตารางเมตร

สิ่งที่แฟรนไชส์ซีจะได้รับ
o สิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าชาลาล่า
o หลักสูตรการต้มชาและการทำท็อปปิ้งทั้งหมด
o ระบบการบริหารจัดการภายในร้าน, ระบบการปิดบัญชี เซ็ทระบบเครื่องบันทึกเงินสด หรือระบบ POS
o ค่าดำเนินการจัดตั้งร้าน การอบรมพนักงาน และผู้บริหาร รวมถึงการจัดงาน Grand Opening ในวันเปิดร้าน จัดอุปกรณ์เครื่องเสียง พร้อม MC และ Pretty มาช่วยโปรโมทร้านอีกด้วย

ชานมไข่มุก ชาลาล่าสร้างความต่างสร้างแบรนด์ เน้นสีสันบนความสนุก นำเสนอผ่านชานมไข่มุก

ข้อมูลติดต่อแฟรนไชส์
ที่อยู่ – บริษัท เบสท์ที เทรดดิ้ง จำกัด 130/98 ซอยรามอินทรา 40 แยก 6 รามอินทรา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10220
เบอร์โทร. 086-899-8399, 086-987-9397
โทรสาร 02-944-6782
อีเมล์ Chalala@me.com
เว็บไซต์ : www.chalalacafe.com
Facebook : www.facebook.com/chalalacafe

แสดงความคิดเห็น