ธุรกิจรองเท้า แฮนด์เมดคนไทยก้าวไกลไปถึงสิงคโปร์และยุโรป “Justincase”

เมืองไทย นอกจากจะมีสินค้าอุตสาหกรรมที่โด่งดังหลายๆอย่างแล้ว ก็ยังมีสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในยุคนี้นั่นก็คือสินค้าแฮนด์เมด สินค้าแฮนด์เมดนั้นได้รับความนิยมอย่างมากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งความนิยมนั้นก็มาจากสินค้านั้นมีความปราณีต คุณภาพ ลวดลายต่างๆก็สวย ยิ่งในเรื่องของความทนทานนั้นก็เรียกได้ว่าใช้จนคุ้มเลย สินค้าต่างๆที่ออกมาให้เห็นในปัจจุบัน ส่วนมากจึงเริ่มเป็นสินค้าแฮนด์เมดแล้ว อย่างเช่นรองเท้าของแบรนด์ “Justincase” ที่เลือกขายรองเท้าในรูปแบบของงานแฮนด์เมด

จุดเริ่มต้นธุรกิจรองเท้าแฮนด์เมดแบรนด์ “Justincase” นั้นเกิดมาจากความชอบของ “คุณเฉลิมกิติ์ โภคามาศ” ตั้งแต่วัยเด็กที่อยากจะผลิตรองเท้าที่มีคุณภาพที่ดีและส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดีขึ้นให้กับตนเอง เมื่อได้ลาออกจากงานครีเอทีฟโฆษณา ก็เริ่มศึกษาทำรองเท้าอย่างจริงจัง โดยนอกจากจะศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองแล้ว คุณเฉลิมกิติ์ก็ยังได้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านบุคลิกภาพอีกด้วย ซึ่งการที่ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนั้นก็เพราะจะได้รู้ว่ารองเท้าแบบใดที่ใส่แล้วจะส่งเสริมบุคลิกภาพ สุดท้ายก็ลงตัวที่รองเท้าเสริมสูง

ในตอนแรกคุณเฉลิมกิติ์ก็ทำใส่ทดลองเองก่อน พอหลายๆคนได้เห็นแล้วก็อยากได้ ต่อจากนั้นจึงเริ่มทำธุรกิจรองเท้าอย่างจริงจัง หลังจากทำตลาดได้ไม่นานคุณเฉลิมกิติ์ก็ได้โอกาสในการเข้าร่วมโครงการกับ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งในตอนนั้นก็ได้ความรู้ในการทำธุรกิจอย่างมาก

จุดเด่นรองเท้า “ Justincase “ อยู่ที่รองเท้านั้นออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องความสูงของผู้สวมใส่ มีดีไซน์ที่ทันสมัย ที่สำคัญยังเป็นการผลิตแบบแฮนด์เมดทั้งหมด ทำให้ธุรกิจรองเท้า “ Justincase “ นั้นได้รับผลตอบรับเกินคาดในระยะเวลาอันสั้น หลังจากนั้นคุณเฉลิมกิติ์ก็เริ่มที่จะมาศึกษาเรื่องการค้าระหว่างประเทศ เพื่อจะสามารถกระจายสินค้าไปได้อีก โดยประเทศแรกที่คุณเฉลิมกิติ์นั้นเลือกก่อนเลยก็คือประเทศสิงคโปร์เป็นตลาดแรกในกลุ่ม AEC ซึ่งที่คุณเฉลิมกิติ์นั้นเลือกประเทศสิงคโปร์ก็มาจากกำลังซื้อในประเทศสูง

แต่การที่จะนำธุรกิจรองเท้า Justincase เข้าไปทำนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยเพราะสินค้าแต่ละอย่างต้องมีคุณภาพสูงจริงๆ และด้วยรองเท้า Justincase นั้นเป็นรองเท้าแฮนด์เมด สีของรองเท้าแต่ละคู่จึงไม่เหมือนกัน ซึ่งในจุดนี้จึงต้องเข้าไปทำความเข้าใจกับลูกค้า

อีกทั้งราคาสินค้าแฮนด์เมดนั้นค่อนข้างจะสูงอยู่แล้ว การนำเข้าไปก็ต้องมีการบวกราคาขายเพิ่มไปอีก ก่อนที่จะทำธุรกิจรองเท้ากับสิงคโปร์จึงต้องเจรจาตกลงก่อน ว่าต้องการสินค้าในราคาไหน ปริมาณแค่ไหน ถูกใจในวัสดุหรือไม่ เป็นต้น ดังนั้นเพื่อการทำธุรกิจรองเท้าที่ราบรื่นจึงต้องทำข้อตกลงตั้งแต่การเริ่มธุรกิจ สำหรับการส่งออกรองเท้า Justincase ในปัจจุบันนั้นอยู่ที่ 40% ของการผลิต ซึ่งนอกจากจะจำหน่ายสิงคโปร์แล้วก็ยังมีส่งไปจำหน่ายที่ยุโรปอีกด้วย

ส่วนผู้ประกอบการไทยคนไหนที่อยากจะส่งออกสินค้าของตนเองบ้าง คุณเฉลิมกิติ์ ก็แนะนำว่าควรจะไปออกงานแฟร์ต่างๆ เพราะแต่ละครั้งจะมีผู้สนใจจากประเทศต่างๆมาเข้าชม แต่การที่จะทำให้สินค้ามีโอกาสส่งออกได้นั้นก็คือการทำให้สินค้านั้นมีความโดดเด่นและสะดุดตามากที่สุด ซึ่งในจุดนี้จะสามารถเรียกความสนใจจากผู้ชมงานได้มาก

ส่วนการสร้างจุดเด่นของคุณเฉลิมกิติ์นั้นก็อยู่ที่ บอกเล่าเรื่องราวที่มาของรองเท้าแต่ละคู่ บอกขั้นตอนการผลิตว่าเป็นงานแฮนด์เมด ซึ่งการอธิบายรายละเอียดต่างๆจะทำให้เป็นที่สนใจ และที่ธุรกิจรองเท้าของคุณเฉลิมกิติ์ประสบความสำเร็จได้นั้นก็มาจากจุดนี้ สุดท้ายหากใครที่กำลังจะทำธุรกิจละก็ให้รีบเลยครับเพราะปีหน้าจะได้สามารถเติบโตไปประเทศเพื่อนบ้านได้