ธุรกิจร้านปิ้งย่าง “SUMI+” ปรับเปลี่ยนจนลงตัว เรียนรู้จากอุปสรรคและประสบการณ์
ธุรกิจร้านปิ้งย่าง “SUMI+” ปรับเปลี่ยนจนลงตัว เรียนรู้จากอุปสรรคและประสบการณ์

ธุรกิจร้านปิ้งย่าง “SUMI+” ปรับเปลี่ยนจนลงตัว เรียนรู้จากอุปสรรคและประสบการณ์

ธุรกิจร้านปิ้งย่าง “SUMI+” ปรับเปลี่ยนจนลงตัว เรียนรู้จากอุปสรรคและประสบการณ์

ธุรกิจร้านปิ้งย่าง อีกหนึ่งกระแสมาแรงที่ครองใจสังคมไทยเรื่อยมา เดี๋ยวนี้ใครคิดอะไรไม่ออกอยากหาที่สังสรรค์ หรืออยากทานอะไรเป็นพิเศษ ก็ให้ร้านปิ้งย่างเป็นคำตอบ นำมาซึ่งรายได้ให้กับธุรกิจร้านปิ้งย่าง เกิดเป็นผลกำไร จนใครหลายๆ คนอยากที่จะเข้ามาเล่นตลาดธุรกิจร้านปิ้งย่างจำนวนมาก แต่หารู้ไม่ว่ากว่าจะสำเร็จมีหลายธุรกิจที่ต้องประสบปัญหา พบเจอกับอุปสรรคหลายต่อหลายอย่าง ต้องฟันฝ่าและต้องต่อสู้จนมาถึงจุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จ มันไม่ง่ายเลย โดยวันนี้เราก็มีหนึ่งธุรกิจร้านปิ้งย่างมาฝากที่ผ่านอุปสรรคมามากมายเช่นกัน

 

รวมแฟรนไชส์ชาบู-ปิ้งย่าง แบบละเอียด ล่าสุด คลิ๊ก>>

 

ธุรกิจร้านปิ้งย่าง “SUMI+” บริหารงานโดย “คุณชนน วังตาล” เป็นอีกหนึ่งผู้บริหารที่ผ่านอุปสรรคในธุรกิจมามาก เริ่มต้นเลยแรกๆ ร้านปิ้งย่างร้านนี้ก็มีปัญหามากมาย ทำให้ไม่สามารถสร้างรายได้ที่เหมาะสมมากนัก และธุรกิจร้านปิ้งย่างร้านเดิมนี้ก็ถูกปรับเปลี่ยนเรื่อยมา ตั้งแต่ชื่อร้าน ธีมร้าน การบริหารจัดการโดยเฉพาะในเรื่องของต้นทุน ที่มาของธุรกิจร้านปิ้งย่างร้านนี้คือเริ่มจากความชอบ คุณชนนชอบทานปุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างมาก และเคยคิดเล่นๆ ว่าถ้าทำร้านเป็นของตัวเองจะกินให้จุใจ กระทั่งกลายมาเป็นแนวคิดใหญ่ๆ ที่สำคัญและนำไปสู่ธุรกิจร้านปิ้งย่างในที่สุด

ธุรกิจร้านปิ้งย่าง “SUMI+” ปรับเปลี่ยนจนลงตัว เรียนรู้จากอุปสรรคและประสบการณ์

แนวคิดที่สำคัญในการเปิดร้านของคุณชนน คือการเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ประเภทปิ้งย่างในราคาที่ไม่แตกต่างกับร้านอื่นๆ แต่อยากให้มีความหลากหลายกว่า เพื่อเป็นจุดขายในธุรกิจ เริ่มต้นประกอบการร้านอาหารในสไตล์ “ญี่ปุ่น” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งตอนแรกตั้งชื่อร้านว่า “SUMI YAKINIKU” แต่ภายหลังต้องการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของร้านไม่จำกัดแค่เฉพาะญี่ปุ่นเท่านั้น อยากให้ลูกค้าทั่วไปมองว่าที่ร้านมีความหลากหลายมากกว่า ที่สำคัญแรงบันดาลใจการเปลี่ยนคือ “ความซ้ำ” เพราะปัจจุบันมีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดเยอะมาก คุณชนนจึงอยากเปลี่ยนภาพลักษ์เพื่อให้ร้านมีความแตกต่างมากกว่า

นอกจากการเปลี่ยนชื่อร้านยังมีการตกแต่งใหม่ทั้งหมด เน้นความเท่ความทันสมัย มีการคัดสรรวัตถุดิบสดใหม่จากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาเสิร์ฟ ไม่ใช่เฉพาะจากญี่ปุ่นเท่านั้น โดยต้องการจะเน้นความเป็น “นานาชาติ” มากขึ้น ในช่วงแรกร้านปิ้งย่างร้านนี้ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนัก อย่างแรกคือต้นทุนสูงมาก เพราะมีการนำเข้าวัตถุดิบคุณภาพสูง แต่กลับขายในราคาที่ต่ำ เพราะตั้งใจจะตั้งราคาให้ลูกค้าจับต้องได้ ซึ่งไม่สัมพันธ์กับต้นทุนของธุรกิจมากเท่าไร เหตุผลที่ต้นทุนสูงแบบนั้น ก็เพราะคุณชนนเองในตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยมีความรู้จักกับแหล่งวัตถุดิบราคาดีๆ ด้วย จึงไม่สามารถควบคุมได้ นำมาซึ่งการ “ขาดทุน” ในที่สุด

ธุรกิจร้านปิ้งย่าง “SUMI+” ปรับเปลี่ยนจนลงตัว เรียนรู้จากอุปสรรคและประสบการณ์

แต่ผิดเป็นครูเพราะคุณชนนก็ไม่ได้ล้มเลิกตั้งแต่ตอนนั้น แต่พยายามลองผิดลองถูกเรื่อยมา กลับมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด เน้นหนักกับการบริหารต้นทุนให้ลงตัวให้ได้ สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า โดยที่ธุรกิจจะต้องอยู่รอด อุปสรรคยังมีในเรื่องของการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะร้านตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ การจะใช้สื่อช่วยในการโปรโมทร้านเป็นเรื่องยากมาก เพราะสื่อในกรุงเทพฯ มีราคาสูงมาก ยกเว้นช่องทางออนไลน์ที่ราคาจะถูกหน่อย

มีการคิดค้นโปรโมชั่นมากมายเพื่อให้ตอบโจทย์ เริ่มต้นมีการจัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์เบียร์ ได้รับการตอบรับที่ดีพอสมควร แต่ภายหลังก็เริ่มมองเห็นว่าเป็นโปรโมชั่นเฉพาะกลุ่ม ยังมีคนไม่ชอบดื่มเบียร์อยู่มาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มากันเป็นครอบครัว ภายหลังจึงค่อยๆ ปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นเป็นการนำเมนูพิเศษๆ เข้ามาแทน ซึ่งเคยมีช่วงหนึ่งมีการนำกั้งกระดานมาเป็นโปรโมชั่นพิเศษ แต่ก็ต้องเจอกันจุดตัน กระทั่งภายหลังการลดราคาสำหรับมาเป็นกลุ่ม เช่น มา 4 จ่าย 3 หรือถ้าเป็นกลางเดือนอาจเหลือแค่มา 3 จ่าย 2

ธุรกิจร้านปิ้งย่าง “SUMI+” ปรับเปลี่ยนจนลงตัว เรียนรู้จากอุปสรรคและประสบการณ์

ในที่สุดธุรกิจร้านปิ้งย่างของคุณชนนก็ค่อยๆ อยู่ตัว อาศัยการเรียนรู้ตลอดเวลา การเก็บข้อด้อยข้อดีมาปรับใช้ การวิเคราะห์ตลาด จากแต่ก่อนอยากทำอะไรทำ ไม่ได้มีการศึกษาก่อน ปัจจุบันก็รอบคอบมากขึ้น ก่อนตัดสินใจทำอะไรสักอย่างคุณชนนใช้เวลาตัดสินใจเป็นเดือน อีกทั้งยังลงทุนลงแรงไม่ได้ตั้งตำแหน่งผู้บริหารเท่านั้น แต่ยังลงไปเสิร์ฟ ทำครัว หรือช่วยได้เท่าที่ช่วยภายในร้านเองอีกด้วย

ธุรกิจร้านปิ้งย่าง “SUMI+” ปรับเปลี่ยนจนลงตัว เรียนรู้จากอุปสรรคและประสบการณ์

ข้อมูลติดต่อธุรกิจร้านปิ้งย่าง SUMI+
ที่อยู่ : 199/9 สุขุมวิท 16 กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์: 02 663 3114
Facebook : @Sumisumiplus

รวมแฟรนไชส์ชาบู-ปิ้งย่าง แบบละเอียด ล่าสุด คลิ๊ก>>

แสดงความคิดเห็น