Soho_I_XL.jpg

ธุรกิจเครื่องเสียง “Sherman” ส่งต่อรุ่นที่ 2 พร้อมปั้นแบรนด์สู่ตลาดอาเซียน

ธุรกิจเครื่องเสียง “Sherman” ส่องต่อรุ่นที่ 2 พร้อมปั้นแบรนด์สู่ตลาดอาเซียน

ธุรกิจเครื่องเสียง “Sherman” ส่งต่อรุ่นที่ 2 พร้อมปั้นแบรนด์สู่ตลาดอาเซียน

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผู้บริโภคสามารถพบเห็นและนิยมใช้ในประเทศไทยนั้นส่วนใหญ่จะมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ยุโรปและอเมริกา เนื่องจากเมื่อย้อนกลับไปในอดีตแล้วปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งโทรทัศน์ วิทยุ พัดลม หรือธุรกิจเครื่องเสียงของต่างประเทศนั้นมีความก้าวหน้ามากกว่า แต่สำหรับประเทศไทยเองก็ได้มีแบรนด์ธุรกิจเครื่องเสียงสัญชาติไทยแท้แบรนด์หนึ่งที่มีความสามารถในการแย่งชิงพื้นที่ส่วนแบ่งทางการตลาดได้ และเป็นที่นิยมมานานกว่า 18 ปี คือแบรนด์ “Sherman”

เมื่อย้อนกลับไป 18 ปีที่แล้วธุรกิจเครื่องเสียงคุณภาพดี Sherman มีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็นธุรกิจซื้อมาขายไป โดยการซื้อเครื่องเสียงจากต่างประเทศที่มีความก้าวหน้ามากมาจำหน่ายในประเทศไทย จน “คุณสมชัย กิตติรัตนาภินันท์” มองเห็นโอกาสในการผลิตเครื่องเสียงด้วยตนเอง เนื่องจากเขาได้ตระหนักว่าทั้งๆที่เป็นการฟังเพลงของคนไทยแต่ทำไมถึงต้องรับอิทธิพลทางด้านเครื่องเสียงมาจากประเทศอื่น โดยเฉพาะฝั่งยุโรปและอเมริกา

ธุรกิจเครื่องเสียง “Sherman” ส่องต่อรุ่นที่ 2 พร้อมปั้นแบรนด์สู่ตลาดอาเซียน

หลังจากนั้นผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่างคุณสมชัยจึงตัดสินใจเดินทางไปศึกษากระบวนการผลิตเครื่องเสียงที่ประเทศเยอรมนีซึ่งขึ้นชื่อทางด้านคุณภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบต่างๆ จนในที่สุดเขาก็สามารถนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์เข้ากับประสบการณ์ที่ตนเองมีในการบุกเบิกแบรนด์ Sherman จนเติบโตมานานกว่า 18 ปี พร้อมส่งต่อให้ทายาทรุ่นที่ 2 คือ “คุณเอกพล กิตติรัตนาภินันท์” ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท นิคอมไทยเซลล์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ในปัจจุบัน

การตลาดของทายาทรุ่นที่ 2 นั้นจะเน้นไปที่การปรับตัวให้เข้ากับคนยุคใหม่มากยิ่งขึ้น เพราะตัวคุณเอกพลเองก็นับเป็นคนละยุคกับพ่อของเขาจึงมีความเข้าใจความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบันมากกว่า จุดเด่นของการตลาดใหม่นี้จะเน้นไปที่แนวคิด “สมาร์ท ซาวน์” ที่นอกจะเป็นการปรับปรุงคุณภาพของสินค้าแล้วยังมีการเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆเข้าสู่ตัวเครื่องเสียงเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ธุรกิจเครื่องเสียง “Sherman” ส่องต่อรุ่นที่ 2 พร้อมปั้นแบรนด์สู่ตลาดอาเซียน

ประโยชน์จากแนวคิดสมาร์ท ซาวน์สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้ ยกตัวอย่างเช่น ได้มีการเพิ่มเทคโนโลยีบลูทูธเข้าสู่ลำโพงทำให้ลูกค้าสามารถเปิดเพลงจากโทรศัพท์มือถือและส่งรหัสผ่านบลูทูธเพื่อให้เสียงออกททางลำโพงได้ทันที หรือทางบริษัทได้มีการพัฒนาแอพลิเคชั่นใหม่ภายใต้ชื่อว่า “ซาวน์ บ็อกซ์” ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์ ได้แก่กลุ่มลูกค้าระดับ C+ ไปจนถึง B+

ปัจจุบันนี้แบรนด์ Sherman เป็นธุรกิจเครื่องเสียงสัญชาติไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดในระดับที่ค่อนข้างดีซึ่งมาจากการพัฒนาองค์กรอยู่เสมอ จนปัจจุบันนี้มีโรงงานผลิตและประกอบที่ได้มาตรฐานบนพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร สามารถผลิตได้ประมาณ 5,000 เครื่องต่อวัน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียงที่ใช้ภายในและภายนอกบ้าน โฮมเธียเตอร์ เครื่องขยายเสียง และไมโครโฟน โดนผ่านช่องทางการกระจายสินค้าทั้งตัวแทนจำหน่าย โมเดิร์นเทรด และไฮเปอร์มาร์ท

ธุรกิจเครื่องเสียง “Sherman” ส่องต่อรุ่นที่ 2 พร้อมปั้นแบรนด์สู่ตลาดอาเซียน

สำหรับแผนการพัฒนาองค์กรในอนาคตนั้น ธุรกิจเครื่องเสียง Sherman ได้วางแผนที่จะบุกตลาดอาเซียน โดยเริ่มจากกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม) ก่อน เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านของไทยเหล่านี้มีความพึงพอใจต่อสินค้าแบรนด์ไทยเป็นอย่างมากเพราะมีความเชื่อมั่นในคุณภาพมากกว่า

อีกทั้งยังวางแผนที่จะทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งสำหรับสัดส่วนการจำหน่ายผ่านสื่อออนไลน์นั้นยังอยู่ที่เพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ยังมีพื้นที่ในการพัฒนาอีกจำนวนมาก ด้วยการใช้จุดเด่นทางด้านความรวดเร็วในการกระจายข้อมูลข่าวสารและสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นวงกว้าง โดยใช้ต้นทุนไม่สูงมากนัก ซึ่งผลจากการพัฒนาในรุ่นที่ 2 นี้ คาดว่าสิ้นปี 2559 จะสามรถสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท

ธุรกิจเครื่องเสียง “Sherman” ส่องต่อรุ่นที่ 2 พร้อมปั้นแบรนด์สู่ตลาดอาเซียน

ข้อมูลติดต่อ ธุรกิจเครื่องเสียง Sherman
เว็ปไซต์ : www.sherman.co.th
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2864-5665
Facebook : https://www.facebook.com/sherman.nct

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : Sherman

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น