น้ำข้าวเหนียวทุเรียน “ ช้างคู่ ” สร้างอาชีพจากเครื่องดื่มสายพันธุ์ใหม่ เล็งส่งออกขายประเทศจีน
น้ำข้าวเหนียวทุเรียน “ ช้างคู่ ” สร้างอาชีพจากเครื่องดื่มสายพันธุ์ใหม่ เล็งส่งออกขายประเทศจีน

น้ำข้าวเหนียวทุเรียน “ช้างคู่” สร้างอาชีพจากเครื่องดื่มสายพันธุ์ใหม่ เล็งส่งออกขายจีน

น้ำข้าวเหนียวทุเรียน “ ช้างคู่ ” สร้างอาชีพจากเครื่องดื่มสายพันธุ์ใหม่ เล็งส่งออกขายประเทศจีน

น้ำข้าวเหนียวทุเรียน “ช้างคู่”
สร้างอาชีพจากเครื่องดื่มสายพันธุ์ใหม่ เล็งส่งออกขายจีน

เมนูของหวานหน้าร้อนอย่างข้าวเหนียวทุเรียนเป็นของหวานสุดฮิตที่นิยมรับประทานดับร้อนกันเป็นประจำแทบทุกปี ความอร่อยของทุเรียนราชาผลไม้นำมาทานคู่กับน้ำกะทิสดและข้าวเหนียวก็ยิ่งเพิ่มรสชาติความอร่อยไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้นที่นิยมชื่นชอบรับประทานข้าวเหนียวทุเรียน นักท่องเที่ยวต่างชาติก็สนใจและเรียกได้ว่าเป็นอีกของหวานไทยที่ขึ้นชื่อในหมู่นักท่องเที่ยวจนต้องซื้อนำกลับไปรับประทานโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ติดใจรสชาติความอร่อยของข้าวเหนียวทุเรียนเป็นอย่างมาก เมื่อมาถึงประเทศไทยต่างต้องสั่งข้าวเหนียวทุเรียนมาชิมกันใหญ่

ด้วยความฟีเวอร์เป็นของหวานสุดฮิต แบรนด์ธุรกิจผลไม้กระป๋องส่งออกอย่างแบรนด์ “ ช้างคู่ ” จึงคิดค้นนำขนมหวานข้าวเหนียวทุเรียนมาประยุกต์รูปแบบสู่ผลิตภัณฑ์ น้ำข้าวเหนียวทุเรียนเครื่องดื่มแนวใหม่ที่ส่งไปตีตลาดเอาใจชาวจีนและฮ่องกงโดยเฉพาะ “ คุณคณานันท์ ตั้งสัมพันธ์” ทายาทนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแห่งบริษัท เอราวัณฟูด จำกัด หรือ แบรนด์ช้างคู่นั่นเอง ที่มองการณ์ไกลพัฒนาธุรกิจให้มีสินค้าที่แหวกแนวอย่างน้ำข้าวเหนียวทุเรียน โดยเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าข้าวเหนียวทุเรียนเป็นขนมหวานไทยที่ชาวจีนชอบเป็นอย่างมากและตลาดในประเทศจีนมีเพียงเครื่องดื่มน้ำกะทิเท่านั้น ยังไม่มีเครื่องดื่มน้ำข้าวเหนียวทุเรียน และทางบริษัทก็มีการส่งออกสินค้าเป็นประเทศหลักอยู่แล้ว

น้ำข้าวเหนียวทุเรียน “ ช้างคู่ ” สร้างอาชีพจากเครื่องดื่มสายพันธุ์ใหม่ เล็งส่งออกขายประเทศจีน

รวมทั้งเป็นตลาดที่ใหญ่เพียงสามารถทำการตลาดขายเฉพาะชาวจีนในประเทศก็สามารถสร้างรายได้มหาศาล ประกอบกับธุรกิจผลไม้กระป๋องมีความพร้อมทั้งด้านเครื่องมือการผลิต และวัตถุดิบผลไม้อย่างทุเรียนในประเทศเราก็เรียกได้ว่าขึ้นชื่อสามารถหาได้ง่าย จึงต่อยอดธุรกิจใหม่กลายมาเป็นเครื่องดื่มน้ำข้าวเหนียวทุเรียนที่กำลังมาแรงในตลาดประเทศจีน

น้ำข้าวเหนียวทุเรียน “ ช้างคู่ ” สร้างอาชีพจากเครื่องดื่มสายพันธุ์ใหม่ เล็งส่งออกขายประเทศจีน

ทางด้านตัวสินค้าการเลือกสร้างเป็นเครื่องดื่มน้ำข้าวเหนียวทุเรียน แทนการผลิตออกมาเป็นขนมข้าวเหนียวทุเรียนนั้นด้วยการวางแผนการตลาดที่จะให้สามารถสร้างยอดขายได้ต่อเนื่อง การผลิตออกมาเป็นเครื่องดื่มน้ำข้าวเหนียวทุเรียน จะสามารถขายได้ง่ายกว่าเพราะเป็นสิ่งที่สามารถรับประทานได้เรื่อยๆเป็นเครื่องดื่ม หากเป็นขนมคนส่วนใหญ่รับประทานขนมแค่บางครั้งคราวเท่านั้นไม่บ่อย กว่าจะสามารถพัฒนาสูตรให้มีรสชาติที่ลงตัวได้เรียกได้ว่าต้องอาศัยทั้งเวลาและความเชี่ยวชาญของทีมวิจัย ต้องปรับเปลี่ยนสูตรให้เหมาะสมกับผู้บริโภคชาวจีนใช้เวลถึง 6 เดือนต้องวิจัยตั้งแต่การทำให้น้ำกะทิยังคงความอร่อย คิดค้นการรักษาไม่ให้เครื่องดื่มน้ำข้าวเหนียวทุเรียนมีการตกตะกอน ด้านรสชาติเองก็ส่งสินค้าไปให้กลุ่มลูกค้าชาวจีนและฮ่องกงทดลองและนำมาปรับปรุง

น้ำข้าวเหนียวทุเรียน “ ช้างคู่ ” สร้างอาชีพจากเครื่องดื่มสายพันธุ์ใหม่ เล็งส่งออกขายประเทศจีน

โดยปกติขนมข้าวเหนียวทุเรียนจะมีความเข้มข้นของกะทิสดมาก เมื่อนำมาแปรรูปเป็นน้ำข้าวเหนียวทุเรียนจึงต้องลดความเข้มข้นให้บางลงจะทำให้ผู้รับประทานไม่เลี่ยนเหมาะแก่การรับประทานเป็นเครื่องดื่ม เพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ส่วนผสมของเนื้อผลไม้และเนื้อข้าวเหนียวที่ยังคงเสน่ห์ความอร่อยเป็นของหวานอย่างไทยได้เป็นอย่างดี นอกจากเครื่องดื่มน้ำข้าวเหนียวทุเรียนแล้วทางบริษัทยังมีผลิตภัณฑ์เป็นเครื่องดื่มน้ำข้าวเหนียวมะม่วงที่เป็นอีกเมนูของหวานไทยที่ชาวจีนนิยมชื่นชอบอีกด้วย

การลงทุนเจาะตลาดสินค้าเครื่องดื่มที่เน้นเฉพาะส่งออกขายในประเทศจีนและฮ่องกงนั้นได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีขณะนี้มีตัวแทนขายทั้งในจีนและฮ่องกงมีออเดอร์ล่วงหน้าเข้ามาเป็นจำนวนมากจากการประมาณรายได้เพียงแค่ระยะเวลา 6 เดือนก็จะสามารถทำรายได้กว่า 100 ล้านบาทเลยทีเดียว ทั้งนี้แม้จะเน้นเฉพาะส่งออกต่างประเทศแต่ก็ยังไม่ลืมการตลาดในไทยที่จะมีการวางแผนขายตามตลาดย่านท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถลองซื้อรับประทานได้ง่าย ราคาขายในตลาดประเทศฮ่องกงอยู่ที่ขวดละ 90 บาท ส่วนในประเทศจีนประมาณขวดละ 50 บาท

น้ำข้าวเหนียวทุเรียน “ ช้างคู่ ” สร้างอาชีพจากเครื่องดื่มสายพันธุ์ใหม่ เล็งส่งออกขายประเทศจีน

ข้อมูลติดต่อน้ำข้าวเหนียวทุเรียน
น้ำข้าวเหนียวทุเรียน แบรนด์ช้างคู่ ( ELEPHANTS)
บริษัท เอราวัณฟูด จำกัด (มหาชน)
Facebook : https://www.facebook.com/erawanfood

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น