รถขายของ-รถเร่ ข้อดีและข้อเสียธุรกิจ พร้อมไอเดียเริ่มต้น

รถขายของ-รถเร่ ข้อดีและข้อเสียธุรกิจ พร้อมไอเดียเริ่มต้น

รถขายของ-รถเร่ ข้อดีและข้อเสียธุรกิจ พร้อมไอเดียเริ่มต้น

รถขายของ-รถเร่ อีกหนึ่งสาขาอาชีพของคนทำมาค้าขายแบบอิสระ โดยการขับรถเร่ขายของไปตามสถานที่ต่างๆ ไม่ได้เปิดร้านขายเป็นที่เป็นทาง อาจมีการขับผ่านจุดต่างๆ เป็นเวลา ลูกค้าของร้านค้าประเภทนี้จะรู้เวลาว่ารถเหล่านี้จะผ่านหน้าบ้านหรือที่ที่ตัวเองอยู่ประมาณกี่โมงเพื่อรอซื้อของ การค้าขายในรูปแบบนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เหมือนกับการเช่าร้านเพื่อเปิดร้านเป็นที่ทาง โดยทางทีมงาน SMELeader.com ได้มีการรวบรวมมาฝากเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ สำหรับค้าขายแบบรถขายของ-รถเร่

รถขายของ-รถเร่ มีลักษณะเป็นอย่างไร?

ลักษณะของรถขายของ-รถเร่ คือการค้าขายด้วยรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง (ซาเล้ง) เปรียบเสมือนร้านค้าเคลื่อนที่ เคลื่อนไปตามแหล่งต่างๆ เช่น หมู่บ้าน คอนโดมิเนียม แหล่งสำนักงาน ย่านชุมชนรวมถึงตลาด มีการจอดแวะขายของตามจุดต่างๆบ้าง เน้นการจอดในจุดหลักๆ ตามช่วงเวลา เช่น จอดแวะขายตอนพักเที่ยงหน้าออฟฟิศ หน้าการไฟฟ้า หน้าโรงพยาบาล เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการจอดตามคนเรียก กล่าวคือใครเรียกก็จอดแล้วขายให้กับคนๆนั้น สำหรับบ้านเราจะเห็นรถขายของ รถเร่ ในช่วงเช้าตรู่และช่วงเย็น เสียส่วนใหญ่ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าเยอะที่สุด นอกจากนั้นในช่วงเวลาอื่นก็จะตะลอนขายไปเรื่อยๆ

รถขายของ-รถเร่ ข้อดีและข้อเสียธุรกิจ พร้อมไอเดียเริ่มต้น

สิ่งที่ต้องมีคืออะไรบ้างสำหรับอาชีพรถขายของ-รถเร่

อับดับแรกต้องพิจารณาว่าจะเลือกชิ้นค้าหลักๆมาขายเป็นสินค้าอะไร และขายบนรถยนต์หรือรถซาเล้ง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเบื้องต้น ได้แก่

  • รถยนต์/ซาเล้ง
  • ลำโพง โทรโข่ง
  • สินค้า อาทิ ผักสด ผลไม้ ขนมจีบ กาแฟโบราณ ก๋วยเตี๋ยว ไข่ไก่ เป็นต้น
  • ถังแช่เข็ง (สำหรับของสด)
  • ตาชั่ง (สำหรับสินค้าที่ต้องขายตามน้ำหนัก)
  • ถังน้ำร้อน สำหรับสินค้าที่ต้องต้ม ต้องใช้น้ำร้อน
  • อุปกรณ์สำหรับการขาย เช่น ถุงพลาสติก ยางมัดของ กะบะใส่ของ ชั้นวางของ ฯลฯ

 

ทำไมคนไทยถึงใช้บริการรถขายของ-รถเร่

เหตุผลที่คนไทยบางส่วนเลือกใช้บริการนี้ ส่วนมากเป็นลูกค้าตามบ้านเรือนไม่ได้ออกไปที่ไหน มักเป็นกลุ่มแม่บ้านที่อยู่กับบ้าน การจับจ่ายใช้สอยจากรถขายของ-รถเร่ ทำให้พวกเขาไม่ต้องเดินทางไปตลาด ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากพอสมควรสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องออกจากบ้านเป็นกิจวัตร รวมถึงการขายของเร่บางอย่าง เช่น พวกอาหารพร้อมทานและเครื่องดื่ม ก็เอื้ออำนวยในเรื่องของการเดินทางอีกด้วย เช่นการไปจอดขายหน้าออฟฟิศ โดยเฉพาะออฟฟิศที่ไม่ติดตลาด หาของกินได้ยาก ทำให้พนักงานในออฟฟิศนั้นนิยมใช้บริการรถเร่เหล่านี้ กล่าวคือข้อดีหลักๆ ที่ทำให้คนบางส่วนเลือกใช้บริการรถเร่ ก็คือเรื่องของการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางนั่นเอง ที่สำคัญมีราคาถูกว่าในห้างสรรพสินค้าพอสมควร

รถขายของ-รถเร่ ข้อดีและข้อเสียธุรกิจ พร้อมไอเดียเริ่มต้น

ข้อดีของการเป็นพ่อค้าแม่ค้ารถขายของ-รถเร่
  • ประหยัดต้นทุนในส่วนของค่าเช่าพื้นที่
  • ไม่ต้องมีเรื่องค่ามัดจำล่วงหน้าหลายเดือนเพื่อเช่าพื้นที่
  • สามารถหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา
  • สามารถทดสอบพื้นที่ที่เหมาะสมกับการสร้างยอดขายได้ โดยการเร่รถไปขายตามสถานที่ต่างๆ แล้วเก็บข้อมูลว่าที่ไหนขายดีที่สุด แล้วเลือกเร่ไปขายที่นั้นๆ เป็นประจำ
  • สามารถย้ายที่ขายได้ตลอดเวลา
ข้อเสียของการเป็นพ่อค้าแม่ค้ารถขายของ-รถเร่
  • ต้นทุนแปรผันไปตามค่าน้ำมัน/ค่าแก๊ส เพราะในการค้าขายต้องเดินทางตลอดเวลา
  • รถยนต์ที่ใช้งานต้องมีการแปลงให้อยู่ในสภาพที่พร้อมกับการค้าขาย ซึ่งต้องใช้ต้นทุนจำนวนหนึ่ง
  • บางหมู่บ้านมีการเก็บค่าผ่านทางเพื่อเข้าไปขายของ ซึ่งอาจไม่เอื้ออำนวยต่อพ่อค้าแม่ค้ารถเร่นัก
  • รถยนต์ส่วนตัวอาจมีสภาพเป็นร้านค้าตลอดเวลา แม้ในยามที่ต้องการใช้รถยนต์สำหรับธุระส่วนตัว (วันหยุดพักผ่อน) เนื่องจากข้าวของที่จัดวางยากต่อการขนเข้าขนออก
  • รถยนต์เสื่อมสภาพได้ง่ายกว่าการใช้งานปกติ เนื่องจากมีการขนของหนักและการตระเวนขับขี่ไปในที่ต่างๆ ซึ่งใช้เวลานานต่อวัน
  • สินค้าหมดอายุ เน่าเสีย ในการเดินทางตลอดทั้งวันอาจทำให้สินค้าบางประเภทเน่าเสียได้ง่าย โดยเฉพาะพวกผักสด หรืออาหารสดต่างๆ เมื่ออยู่สภาวะอากาศที่ร้อนจัดเป็นเวลานานก็ทำให้เน่าเสียได้ง่าย รวมทั้งสินค้าบางประเภทที่เลือกมาขายไม่ได้ ไม่มีคนซื้อ จนสินค้าหมดอายุ สุดท้ายก็ต้องทิ้งเสียต้นทุนในส่วนนี้ไป
  • คู่แข่งในพื้นที่ ท่านอาจเจอคู่แข่งที่มาทำการขายค้าขายในทำเลเดียวกันกับท่าน เพราะรถขายของ-รถเร่ จำเป็นต้องเคลื่อนที่ไปยังจุดต่างๆ ดังนั้นผู้ประกอบรายอื่นๆก็เช่นกัน จะต้องเคลื่อนที่ขายยังจุดที่มีผู้คนหนาแน่นอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องสร้างจุดขายหรือจุดเด่นของร้านค้าตัวเองให้ได้ เพื่อสร้างฐานลูกค้าของคุณเอาไว้

รถขายของ-รถเร่ ข้อดีและข้อเสียธุรกิจ พร้อมไอเดียเริ่มต้น

ไอเดียการเริ่มต้นอาชีพ

สำหรับคนที่อยากจะเริ่มต้นด้วยอาชีพรถขายของ-รถเร่ อาชีพนี้สามารถเริ่มต้นได้ไม่อยาก เพียงแค่คุณมีรถยนต์ รถกระบะ หรือรถซาเล้งสักคันหนึ่ง ก็เริ่มธุรกิจของคุณได้เลย เพียงแต่ว่าจะขายกันแบบเดิมๆตะลอนๆไปทั่วเหมือนในสมัยก่อนคงไม่ได้ ต้องวางแผนการขายให้ดี เพื่อที่จะได้ประหยัดต้นทุนและเวลา รวมทั้งเข้าหากลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุดนั่นเอง

1. รู้ว่าขายอะไร ?
หมายถึง เราจะต้องรู้ว่าสินค้าที่เราจะขายนั้นมีอะไรบ้าง จะได้จัดหมวดหมู่สินค้าให้เป็นระเบียบ ตามกลุ่มประเภทสินค้าได้อย่างถูกต้อง เพื่อง่ายและสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้า และง่ายในการจดจำประเภทสินค้าของเราเอง เมื่อลูกค้าถามหาจะได้บอกกล่าวได้ถูกต้อง

2. รู้ว่าขายให้ใคร ?
หมายถึง เข้าใจและรู้ว่าสินค้าที่เลือกมานั้นจะสามารถขายให้ใครได้บ้าง ใครคือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการของเรา และนำสินค้าของเรานั้นไปขายให้แก่เขาได้ตรงตามความต้องการ

3. จุดยุทธศาสตร์ 
เมื่อได้ทั้งสินค้าที่จะขาย และกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ก็จะต้องหาจุดยุทธศาสตร์หรือทำเลขายของที่เหมาะสมนั่นเอง การขายของแบบรถเร่ หรือรถขายของ ทำเลขายมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการขายของตามแผงในตลาดทั่วไป หากเลือกทำเลที่ไม่มีกลุ่มลูกค้าหลัก สินค้าก็ขายไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับการเลือกสถานที่ในการเร่รถไปขายของ ช่วงแรกอาจจะเก็บข้อมูลเพื่อหาทำเลขายที่เหมาะสม ด้วยการตะลอนขายไปยังจุดต่างๆ เมื่อทราบว่าจุดใดมีกลุ่มลูกค้าหนาแน่น ช่วงเวลาใดลูกค้าเยอะ ก็ให้เก็บข้อมูลเอาไว้ เพื่อมาจัดตารางการขายของตัวเอง ว่าจะเริ่มต้นขายจากจุดใดก่อน การทำแบบนี้จะช่วยประหยัดงบประมาณด้านเชื้อเพลิง และประหยัดเวลา เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เร็วขึ้น

4. สร้างฐานลูกค้า
วิธีการสร้างฐานลูกค้าประจำ สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การสร้างความโดดเด่นให้แก่รถขายของ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งด้วยสีสันสะดุดตา ตกแต่งด้วยไฟกระพริบ การใช้เสียงตามสายด้วยโทรโข่งหรือเครื่องเสียงติดรถยนต์ รวมไปถึงปัจจัยทางด้านกายภาพของคนขาย ยิ้มแย้ม แจ่มใส พูดจาไพเราะ หรือมีการหยอกล้อกันระหว่างคนขายกับผู้ซื้อ เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน เป็นต้น

5. ค้าขายตรงไปตรงมา
ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของการขาย ต้องขายของด้วยความจริงใจ รับสินค้ามาเท่าไหร่บวกกำไรเพิ่มแต่พองาม ไม่โก่งราคา ไม่โกงตาชั้่ง ไม่ขายของเก่า ของค้างสต็อกใกล้หมดอายุ ไม่ขายตัดราคาคู่แข่ง เป็นต้น

6. อัพเดทข้อมูล 
รถขายของยุคใหม่ต้องทันต่อข่าวสาร ข้อมูล หมั่นอัพเดทสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมหรือกำลังขายดี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมทั้งต้องอัพเดทข้อมูลข่าวสารจากคู่แข่ง หรือผู้ประกอบการรายอื่นว่ามีการใช้กลยุทธ์อย่างไรบ้างในการขาย สิ่งใดที่เป็นข้อดีก็นำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับรถขายของ-รถเร่ของตัวเอง

รถขายของ-รถเร่ ข้อดีและข้อเสียธุรกิจ พร้อมไอเดียเริ่มต้น

 

เทคนิคการขาย

1. จัดหน้าร้านให้เป็นระเบียบ สามารถหาสินค้าได้ทันทีที่ลูกค้าต้องการ หรือลูกค้าสามารถมองเห็นและหยิบจับได้สะดวก ไม่วางสินค้าปะปนกัน จะทำให้ดูรกและไม่สะอาดตา อีกทั้งยังเป็นการง่ายต่อการเช็คสต็อกสินค้าของเราเองด้วย จะได้ทราบเมื่อสินค้าชนิดใดใกล้จะหมด

2. สร้างความโดดเด่น ในฐานะลูกค้าเรามักจะจดจำรถขายของ รถเร่ ด้วยเสียงตามสายจากลำโพงหรือโทรโข่งที่ติดมากับรถ และสำเนียงการขายที่โดดเด่นของคนขาย อย่างที่เราคุ้นหูกันในทุกวันนี้ เช่น “กับข้าวมาแล้วคับ กับข้าว” เมื่อได้ยินก็รู้ได้ทันทีว่ารถขายของ ขายกับข้าวเย็นนี้มาถึงแล้ว ดังนั้นหากคุณมีลีลาการพูดที่สะดุดหู ชวนให้น่าจดจำ ก็งัดเอาไม้เด็ดของคุณออกมาใช้ได้เลย

3. ตรงเวลา คือมาขายในจุดนั้นๆในเวลาเดิมหรือใกล้เคียงเวลาเดิมทุกวัน เพื่อเป็นสัญญาณนัดหมายกันโดยอัตโนมัติระหว่างรถขายของกับลูกค้า ว่าเมื่อถึงวันและเวลานี้รถขายของจะมา หากวันไหนหยุดก็ควรหยุดตรงตามวันนั้นๆในแต่ละสัปดาห์หรือในแต่ละเดือน เพื่อลูกค้าจะได้เข้าใจตรงกันว่าวันนั้นๆเป็นหยุดของรถขายของ หรือไม่คุณอาจแจ้งลูกค้าล่วงหน้าในกรณีที่ต้องหยุดกระทันหัน เพื่อที่ลูกค้าจะได้เตรียมสต็อกของไว้ในวันถัดไป รถขายของ-รถเร่ ก็เปรียบเสมือนตลาดนัดเคลื่อนที่ ดังนั้นเรื่องเวลาจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

4. จัดชุดสินค้า คือ สินค้าบางประเภทนำมาจัดเป็นเซ็ท เป็นชุด เป็นมัด เป็นกำ เป็นกอง ฯลฯ แล้วแต่ความต้องการของคนขายได้เลย การจัดเซ็ทจะทำให้ลูกค้าสามารถได้สินค้าที่ครบตามความต้องการในทีเดียว อีกทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าการขายให้แก่สินค้า ทำให้สินค้าบางประเภทสามารถขายได้เมื่อนำมารวมเป็นเซ็ท ลดโอกาสเสี่ยงของสินค้าเน่าเสีย เพิ่มโอกาสขายได้มากขึ้น

5. ลดแลกแจกแถม คืนกำไรให้ลูกค้าบ้าง อาจมีการลดราคาสินค้าหรือแถมสินค้าที่ใกล้เสีย ใกล้หมดอายุในอีกไม่กี่วัน ซึ่งหากทิ้งไว้ก็เน่าเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ นำมาลดราคาหรือแถมฟรีให้ลูกค้าเพื่อเป็นการสมนาคุณให้ลูกค้าเล็กๆน้อยๆ แถมสินค้าก็ยังสามารถขายออกไปได้แม้ว่าจะลดราคาไปกว่าครึ่งก็ตาม ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังดีกว่าต้องทิ้งไปโดยไม่ได้เงินเลย

6. ยิ้มแย้มแจ่มใส ในแต่ละวันจะต้องพบเจอกับลูกค้าหลายประเภท ถึงแม้จะเหนื่อยหรือหงุดหงิดจากอากาศที่ร้อนมาทั้งวันแค่ไหน แต่เมื่อรักที่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็จะต้องมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มกับลูกค้าอยู่เสมอ ไม่แสดงอาการหรือสีหน้าไม่พอใจต่อลูกค้า พูดจานุ่มนวลน่าฟัง ลูกค้าส่วนใหญ่ของรถขายของจะผูกพันธ์กับคนขายที่ดูเป็นมิตร เข้าถึงง่าย ถามอะไรก็ตอบด้วยความเต็มใจ คนขายคือหัวใจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับอาชีพรถขายของ-รถเร่ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนกันไป เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจอยากมีอาชีพเป็นของตัวเอง และอาจกำลังมีปัญหาในเรื่องของค่าเช่าที่ หรือการหาทำเลที่เหมาะสมอยู่ ก็สามารถให้การขายของแบบรถเร่เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจได้เช่นกัน

แสดงความคิดเห็น