เผยวิธีล้วงความลับ!…..ศึกษาคู่แข่งออนไลน์ทำได้แค่คลิก

หนึ่งในกลยุทธ์สู่ความสำเร็จทางธุรกิจ คือ การศึกษาข้อมูลของคู่แข่งขัน หรือที่เรียกกันว่า “ล้วงความลับของคู่แข่ง” ในโลกการตลาดออนไลน์ก็เช่นเดียวกัน นักการตลาดออนไลน์ก็ต้องการจะทราบข้อมูลของคู่แข่งเช่นกัน ดังนั้น สถิติของผู้เข้าชมเว็บไซต์เปรียบเทียบกับคู่แข่งจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ถึงประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์เมื่อเทียบกับคู่แข่งเราสามารถล้วงความลับเว็บไซต์คู่แข่งด้วยเครื่องมือที่ชาญฉลาดอย่างเช่น Alexa.com ที่ทำให้สามารถทราบสถิติการเข้าชมเว็บไซต์คู่แข่งได้ Alexa อยู่ภายใต้การบริหารของเว็บ e-Commerce รายใหญ่คือ Amazon.comโดยจะรวบรวมข้อมูลการใช้เว็บไซต์ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ติดตั้ง Toolbar ของ Alexa แล้วนำมาสรุปเป็นภาพรวมของการใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก

การใช้งาน Alexa นั้นง่ายมาก เพียงแต่เราเข้าสู่เว็บไซต์ Alexa.com แล้วป้อน URL ของเว็บที่ต้องการข้อมูล เพียงเท่านี้ก็จะได้ข้อมูลสถิติการเข้าชม เว็บไซต์นั้นๆ แล้ว ยิ่งเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมสูงเท่าไร ข้อมูลสถิติก็จะมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แถมยังสามารถเปรียบเทียบกับเว็บไซต์ต่างๆ พร้อมกันได้อีกด้วย โดยข้อมูลที่จะได้คือ

  • อันดับของเว็บไซต์เทียบกับอันดับโลกและประเทศนั้น
    โดยจะได้ตัวเลขเป็นสัดส่วนของผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั่วโลก เช่น Facebook มีผู้เข้าชมร้อยละ 41.37 ดังนั้น เราจะต้องนำตัวเลขนี้ไปคูณกับจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ก็จะได้จำนวนผู้เข้าชมในแต่ละวัน
  • จำนวน Pageviews
    เราจะได้เป็นตัวเลขสัดส่วนของ Pageviews เทียบกับจำนวน Pageviews ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกเข้าชม โดยนำตัวเลขนี้ไปคูณกับจำนวน Pageviews ทั้งหมดของโลกก็จะทราบจำนวน Pageviews ต่อวันเช่นกัน
  • จำนวน Pageviews ต่อผู้เข้าชม
    สถิตินี้เริ่มน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะจะบอกถึงคุณภาพของเนื้อหาเว็บไซต์ยิ่งตัวเลขของ Pageviews ต่อผู้เข้าชมมากเท่าไร เว็บไซต์ของเราก็มีคุณภาพมากเท่านั้น เช่น Pizza Hut (www.PizzaHut.co.th) มีจำนวน Pageviews ต่อผู้เข้าชมเท่ากับ 5.1 เทียบกับ ThePizza (www.Pizza.co.th) ที่มี Pageviews ต่อผู้เข้าชมเพียง 1.8 ดังนั้นเว็บไซต์ที่มีจำนวน Pageviews ต่อผู้เข้าชมสูงกว่าย่อมสร้างโอกาสทางการขายได้สูงกว่าเช่นกัน และบ่งบอกถึงคุณภาพของเว็บไซต์นั้นๆด้วย
  • Bounce Rate
    เป็นสถิติที่แสดงให้เห็นถึงสัดส่วนผู้เข้าชมที่ดูหน้าแรกของเว็บไซต์แล้วออกจากเว็บไซต์นั้นทันทีหรือง่ายๆ คือ ดูเพียงหน้าเดียวแล้วไม่ได้ดูหน้าต่อไป ยิ่งสัดส่วนของ Bounce น้อยเท่าไร คุณภาพของเว็บไซต์ก็ดีมากขึ้นเท่านั้น การออกแบบเว็บไซต์มีผลอย่างมากต่อสัดส่วน Bounce และการใช้ Landing Page ที่ถูกต้องสำหรับสื่อโฆษณาออนไลน์ก็มีผลอย่างมากเช่นกัน เช่น เว็บไซต์ FuturePark.co.th มี Bounce เท่ากับ 26.3% เปรียบเทียบกับเว็บไซต์ CentralPlaza.co.th ที่มีBounce 50% ก็หมายความว่า เว็บไซต์Future Park มีผู้เข้าชมใน หน้าถัดไปสูงกว่า หรือมีการนำเสนอในหน้าแรกได้ดีกว่า หากพิจารณาในแง่ของสื่อโฆษณาแล้ว เว็บไซต์ Future Park ย่อมมีความคุ้มค่ากว่าในการลงสื่อโฆษณา เพราะว่าผู้เข้าชมมีโอกาสชมในหน้าถัดไปสูงกว่า จึงสร้างโอกาสการขายได้สูงกว่า
  • Time on Site
    หรือเวลาเฉลี่ยต่อผู้เข้าชมในเว็บไซต์นั้น แน่นอนว่ายิ่งใช้เวลานานแค่ไหน ก็ย่อมเป็นผลดีต่อเว็บไซต์นั้นๆซึ่งก็หมายถึงโอกาสที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นนั่นเอง
  • Search %
    หมายถึง สัดส่วนของผู้เข้าชมที่มาจากการค้นหาใน Search Engine ยิ่งมีสัดส่วนมากเท่าไร ก็หมายถึงประสิทธิภาพของสื่อโฆษณา Search Engine ที่ดีนั่นเอง หรือมีผู้เข้าชมมาจาก Search Engine ที่มากกว่า

นอกเหนือจากจะรู้ข้อมูลของเว็บไซต์คู่แข่งมากขึ้นแล้ว ยังสามารถทราบถึงสถิติของเว็บไซต์อื่นๆ ทั่วโลกในแต่ละหมวดหมู่สินค้า เพื่อเป็นการเปรียบเทียบคุณภาพกับเว็บไซต์ในธุรกิจเดียวกันทั่วโลกเราสามารถเลือกเมนู Top Site แล้วไปยังหมวดหมู่เดียวกับธุรกิจของเราจะเห็นเว็บไซต์ที่อยู่ในอันดับต้นๆของโลกเราสามารถใช้ข้อมูลสถิติของเว็บไซต์เหล่านั้นเป็นเป้าหมายในการปรับปรุงเว็บไซต์ของเราให้ดียิ่งขึ้นด้วย…ข้อดีของ Alexa อีกอย่างที่สำคัญมากก็คือ ฟรี! แบบไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการเรียกดูข้อมูลสถิติเหล่านี้ ดังนั้นอย่ารอช้า ลงมือใช้ Alexa ศึกษาเว็บคู่แข่งดูสิว่าคุณหรือเค้าที่เจ๋งกว่ากัน!

นี่เป็นเพียงหนึ่งเครื่องมือที่นำมาแนะนำกัน แต่ก็ยังมีเครื่องมืออื่นๆที่สามารถนำมาวิเคราะห์คู่แข่งของเราอีกมากมายอย่างเช่น www.archive.org เว็บไซต์ที่จะช่วยย้อนเวลาให้เราได้เห็นพัฒนาการของเว็บไซต์ในอดีตที่ผ่านมา หรือ www.prchecker.info ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดลำดับคุณภาพเนื้อหาโดย Google และนอกจากเครื่องมือออนไลน์เหล่านี้ก็ยังมีเทคนิคอื่นๆ ที่จะทำให้เรารู้จักคู่แข่งได้มากขึ้น อย่างเช่น

  • หมั่นเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์คู่แข่งขันบ่อยๆ
  • รับข้อมูลข่าวสารของคู่แข่งผ่าน Mailing List (ถ้ามี)
  • เข้าร่วม Webboard ของคู่แข่ง (ศึกษาพฤติกรรมลูกค้าของคู่แข่ง)
  • ศึกษาข้อมูลทางการเงินของคู่แข่งขัน (www.dbd.go.th)
  • ปลอมตัวเป็นลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Chat, e-mail, Facebook, Twitter

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)

แสดงความคิดเห็น