สถาบันสอนดนตรี และกวดวิชา พัฒนาทักษะและอารมณ์ไปพร้อมๆกัน “ Classic and Jazz MHM Music “

สถาบันสอนดนตรี และกวดวิชา พัฒนาทักษะและอารมณ์ไปพร้อมๆกัน
“ Classic and Jazz MHM Music “

สำหรับปัญหาในสังคมไทยที่กำลังระบาดอย่างแพร่หลายนั่นก็คือปัญหาอย่างเด็กติดเกมเลยปัญหานี้หลายภาคส่วนนั้นก็ยังไม่มีส่วนแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งทางพ่อแม่ผู้ปกครองนั้นก็จึงต้องหาวิธีให้ลูกนั้นไปหาทำอะไรที่เป็นประโยชน์ อย่างเช่น พาไปเล่นกีฬา หรือเล่นดนตรีซึ่งก็ค่อนข้างได้รับผลตอบรับที่ดีมากเด็กนั้นไม่ติดเกม โดยเมื่อพ่อแม่เลือกวิธีนี้ทางผู้ประกอบการนั้นก็จึงต้องมาทำตลาดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างการเปิดสถาบันดนตรี ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดีมาก และหนึ่งในสถาบันสอนดนตรีที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันนั้นก็ต้องสถาบันดนตรี “ Classic and Jazz MHM Music “

รวมข้อมูลแฟรนไชส์สอนดนตรี ล่าสุด คลิ๊ก>>

สถาบันสอนดนตรี กวดวิชา “ Classic and Jazz MHM Music “ นี้เกิดจาก “คุณยงธนิศ หุตะจินดา “ นั้นได้เรียนดนตรีกับทางสถาบันสอนดนตรี YAMAHA อยู่แล้วมาตั้งแต่เด็กเลย ในตอนนั้นก็ไม่ได้ชอบดนตรีเลยพ่อกับแม่ให้ไปเรียน หลังจากที่เรียนได้ระยะหนึ่งก็เกิดความชอบ จึงได้เรียนตั้งแต่นั้นจนโต เมื่อโตขึ้นทาง YAMAHA จึงได้ให้ไปเป็นอาจารย์สอนแทน เมื่อได้ขึ้นมหาวิทยาลัยคุณยงธนิศก็ยังจะเรียนในสาขาดนตรีอีก หลังจากจบมหาวิทยาลัยแล้วก็จึงเลือกที่จะมาเปิดสถาบันดนตรีเลย ในช่วงแรกก็ได้ใช้บ้านเป็นสถานที่เรียนสำหรับเด็กก่อน จากที่เปิดสอนเด็กๆแถวบ้านก็เริ่มมีลูกศิษย์ที่เคยสอนที่โรงเรียนสอนดนตรีที่ YAMAHA ก็มาเรียนกับคุณยงธนิศ โดยหลายๆคนที่เลือกมาเรียนนั้นก็เพราะการสอนจะเหมือนพี่กับน้องนั่นเอง โดยเด็กส่วนใหญ่นั้นก็มาเรียนช่วงเลิกเรียนทำให้นอกจากสอนดนตรีแล้วก็เป็นสอนการบ้านเด็กด้วย จากนั้นผู้ปกครองก็เลยแนะนำให้เปิดสอนพิเศษควบคู่ไปด้วย เพื่อที่จะได้เรียนดนตรีเสร็จก็จะได้มีคนสอนการบ้านให้ ไม่ต้องรบกวนผู้ปกครอง

เมื่อเห็นว่าน่าจะไปได้จึงเปิดรับสอนพิเศษเพิ่มอีกทางเลือกหนึ่ง แต่การสอนนั้นคุณยงธนิศก็ไม่ได้ทำเองทั้งหมดได้ให้อาจารย์สอนพิเศษมาสอนให้ อย่างกลุ่มนิสิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น สำหรับค่าเรียนดนตรีนั้นก็จะอยู่ที่ เดือนละ 2,000-2,500 บาทระยะเวลาในการเรียนนั้นก็จะอยู่ที่ 4 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง ส่วนค่าเรียนพิเศษกวดวิชานั้นก็จะอยู่ที่ 250-300 บาทต่อชั่วโมง ซึ่งเมื่อมีสอนถึง 2 อย่างก็เลยมีนักเรียนมาเรียน 100 คนต่อสัปดาห์เลย สำหรับรายได้นอกจากสอนทั้งสองแล้วคุณยงธนิศก็ยังได้รายได้จากการขายเครื่องดนตรีภายในสถาบันสอนดนตรีอีกด้วย ซึ่งเดือนๆหนึ่งแล้วรายได้ก็จะอยู่ที่ 200,000 บาทเลย

ในส่วนของการเปิดสถาบันสอนดนตรี นั้นก็จะมีสอนทั้งดนตรีอย่าง เปียโน กีตาร์ อูคูเลเล เป็นต้น วิชาที่เปิดสอนพิเศษก็จะมีตั้งแต่ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สังคม ภาษาไทย ฯลฯ ส่วนระดับนักเรียนที่มาเรียนที่สถาบันสอนดนตรีนั้นก็จะมีทั้งเด็กเล็กอนุบาลไปจนถึงเด็กมัธยมเลย และในส่วนที่ผู้ปกครองเลือกให้เด็กเรียนนั้นก็มาจากอย่างให้เด็กนั้นใช้เวลาว่างให้เป็นปรโยชน์นั่นเอง และอีกส่วนหนึ่งก็คือเครื่องดนตรีนั้นราคาไม่แพงเหมือนแต่ก่อนแล้ว จากที่สถาบันสอนดนตรีนั้นเป็นเพียงห้องเรียนเล็กๆเท่านั้นปัจจุบันได้ขยายเพิ่มโดยใช้เงินกว่า 500,000 บาทเลย ซึ่งเมื่อปรับปรุงใหญ่ขึ้นก็มีนักเรียนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนที่คนรู้จักสถาบันสอนดนตรีนั้นก็มาจากการแจกใบปลิวและการบอกปากต่อปาก โดยหากใครที่มือฝีมือเรื่องดนตรีละก็การเปิดสถาบันดนตรีก็ได้รายได้ไม่น้อยกว่าธุรกิจอื่นเลยคะ