"โรตีสายไหม" ปั้นแบรนด์ไทย ดังไกลทั่วโลก!

“โรตีสายไหม” ปั้นแบรนด์ไทย ดังไกลทั่วโลก!

“โรตีสายไหม” ขนมไทยธรรมดาในอดีตสามารถหากินได้ตามร้านทั่วไป และยังมีบริการส่งถึงที่คล้ายๆกับไอศกรีมชื่อดัง เป็นรถจักรยานติดกล่องที่หลายคนคงจะจำกันได้ว่าสมัยเด็กๆ หากเราเห็นพ่อค้าขี่จักรยานหรือสะพายปี๊บ ผ่านมาแล้วจะเห็นว่าเด็กๆ กำลังสนุกกับการกดปุ่มเพื่อให้เข็มนาฬิกาชี้จำนวนของโรตีสายไหมที่ได้ พร้อมกับลุ้นไปกับเพื่อนๆ บางคนโรตีไม่สำคัญเท่ากับการกดปุ่มให้ได้เยอะ เพื่อโชว์เพื่อนๆ ให้เห็นว่าเก่ง

มาถึงยุคนี้ โรตีสายไหมหากินยากกว่าแต่ก่อน แต่เป็นหนึ่งในขนมไทยที่เป็นเสน่ห์ของเมืองไทย ตามโรงแรมต่างๆ เมื่อชาวต่างชาติได้ลองชิมแล้วติดใจทุกราย จากจุดนี้เป็นไอเดียให้คุณแจน เจนนิศา คูวินิช ก่อตั้งร้าน Candy Crepe Bangmad ร้านขายโรตีสายไหมที่ตอนนี้ดังไกลถึงต่างประเทศ มาแบ่งปันเทคนิคในการปั้นแบรนด์ให้ฟังว่า

จุดเริ่มต้นของในการสร้างแบรนด์ Candy Crepe Bangmad

เริ่มจากการใช้ Social media สื่อสารกับลูกค้าแล้วได้ผลตอบรับที่ดี จนมีลูกค้าถามหามากขึ้น จากเริ่มต้นขายเป็น Kiosk ก็ขยายธุรกิจจนเป็นหน้าร้าน ทำเลที่เลือกคือต้องอยู่ใกล้กับ BTS เพื่อสามารถหาซื้อได้อย่างสะดวกมากขึ้น และในแง่ของสินค้าเอง Candy crape ไม่ได้ขายแบบแค่นำสายไหมมาแต่งตัวเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เท่านั้น แต่ได้มีการพัฒนาให้มีรสชาติที่หลากหลาย ทั้งรสโคล่า รสทุเรียน และเพิ่มความยาวนานในการเก็บรักษา โดยแป้งโรตีเองสามารถเก็บรักษาได้นานมากถึง 2-12 เดือน จึงสามารถเป็นของขวัญ ของฝากไปยังเพื่อนที่ต่างประเทศได้

ในช่วงแรกเจอปัญหาใหญ่ที่ต้องรีบแก้คือ “แพงเกินไป” ในช่วงแรกของการขาย คนไทยยังไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงต้องจ่ายเงิน 495 บาท เพื่อทานสายไหมอยุธยา ตรงนี้จึงสร้างการรับรู้ว่าเราพัฒนาสินค้าอยู่ตลอดและดีขึ้นกว่าเดิมไม่ใช่แค่โรตีสายไหมทั่วไป คือ ทั้งโรตีและสายไหมของเรานั้นไม่จำเป็นต้องทานคู่กัน แต่สามารถนำไปทานคู่กับสิ่งอื่นๆได้เพื่อเพิ่มรสชาติที่อร่อยขึ้น โดยอาจทานคู่กับกาแฟ เค้ก ไอศกรีม และขนมอื่นๆ จึงเป็นสิ่งที่แตกต่างและทำให้สามารถสร้างเมนูใหม่ออกมาได้อยู่เสมอ

สำหรับการสื่อสารการตลาด ทางแบรนด์ได้ใช้การจัดหน้าร้านช่วยนำเสนอ โดยจัดแบบคาเฟ่ที่เน้นขนมเป็นหลัก โดยนำสายไหมที่ทำเป็นเมนูต่างๆออกมาโชว์ ทำให้เหมือนเป็นพื้นที่แสดงผลงาน ที่ทำให้คนที่มากินบอกต่อคนอื่น และทำให้เป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากสำเร็จในไทยก็ “โกอินเตอร์” ขยายตลาดสู่ต่างประเทศ

เมื่อสามารถตีตลาดในไทยได้ระดับหนึ่งแล้ว ทำให้เริ่มมองหาการขยายตลาด โดยได้ Research ความต้องการของลูกค้าต่างชาติ ทำให้พบว่า ชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซียและทวีปยุโรปมีความชื่นชอบโรตีสายไหมมากที่สุด และวิธีที่จะนำออกสู่ต่างประเทศได้ต้องผ่านมาตรฐานของสินค้าจากการรับรองจาก อย. GMP HACCP และฮาลาล โรตีสายไหมของ Candy crape จึงเป็นเจ้าแรกๆ ที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานทั้งหมด

“เทคนิค” ที่อยากฝากให้ผู้ประกอบการไทยทุกคน หากคิดจะโกอินเตอร์

การสร้างแบรนด์ระดับสากลนั้น สิ่งแรกที่ควรคํานึงถึง คือ การตีโจทย์ให้แตกในเรื่องของผลิตภัณฑ์และลูกค้า ว่าลูกค้าในแต่ละประเทศมีความต้องการอะไร และมีพฤติกรรมในการบริโภคอย่างไร สําหรับธุรกิจขนาดเล็กเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่มีเงินลงทุนน้อย แต่ก็มีความเป็นไปได้ในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า เพราะการสร้างความน่าเชื่อถือ ก็คือการสร้างแบรนด์อย่างหนึ่ง โดยเราสามารถใช้เครื่องมือทางออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram รวมถึงการโพสต์ภาพและวิดีโอแล้วติดต่อ Influencer ในการทำการโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ ขั้นตอนพวกนี้หากดูแล้วใช้ต้นทุนต่ำ วัดผลได้เร็ว และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ไว ช่วงเริ่มต้น ผู้ประกอบการควรใช้วิธีข้างต้นนี้ก่อนก็จะเห็นผลเร็วกว่ามาก

การขยายตลาดสู่ต่างประเทศในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องยากที่เข้าใจกัน ในตลาดไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจ และแบรนด์ของไทยก็มีสินค้าเป็นที่ยอมรับมากมาย แม้กระทั่งสินค้าพื้นบ้านต่าง ๆ จึงเป็นโอกาสที่ดี ที่ผู้ประกอบการทุกคนควรมองไปไกลถึงต่างประเทศ ทำสินค้าให้ได้รับการยอมรับและผ่านมาตรฐานต่าง ๆ เป็นพื้นฐาน เมื่อก้าวไปสู่ต่างประเทศได้แล้วความสำเร็จจะเข้ามาหาได้เร็วขึ้น Candy crape ไม่ใช่แค่ร้านขายโรตีสายไหม แต่ Candy crape คือการเน้นย้ำว่าของธรรมดาๆ ที่หาได้ง่ายๆ ในไทย หากพัฒนาให้ดีแล้ว ก็ไปไกลถึงต่างประเทศได้เช่นกัน

ที่มา : scbsme.scb.co.th

แสดงความคิดเห็น