วิธีการหาสินค้าหรือบริการ เพื่อเริ่มต้นธุรกิจ

การเริ่มต้นธุรกิจ สิ่งแรกที่ต้องคิดก็คือ สินค้าหรือบริการที่จะขาย สินค้าหรือบริการที่ดีนั้น ต้องตอบโจทย์ความต้องการของตลาด มีความต้องการสูง และมีการแข่งขันไม่มากนัก การเลือกสินค้าหรือบริการจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง

วิธีการหาสินค้าหรือบริการ เพื่อเริ่มต้นธุรกิจ มีดังนี้

1. สำรวจความต้องการตลาด

ขั้นตอนแรก คือการสำรวจความต้องการตลาด ว่าสินค้าหรือบริการใดที่ผู้คนต้องการ วิธีการสำรวจความต้องการตลาด มีดังนี้

  • วิเคราะห์ข้อมูลตลาด เช่น ข้อมูลสถิติประชากร ข้อมูลเศรษฐกิจ ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค เป็นต้น
  • สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภค เช่น การสำรวจแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ เป็นต้น
  • ศึกษาคู่แข่ง ว่าสินค้าหรือบริการของคู่แข่งเป็นอย่างไร มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร

2. พิจารณาความถนัดและความสนใจ

นอกจากความต้องการตลาดแล้ว ผู้ประกอบการควรพิจารณาความถนัดและความสนใจของตนเองด้วย การเลือกสินค้าหรือบริการที่ตนเองถนัดและสนใจ จะทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น

3. ศึกษาคู่แข่ง

การสำรวจคู่แข่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจการแข่งขันในตลาดมากขึ้น ว่าคู่แข่งมีสินค้าหรือบริการอย่างไร มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร ผู้ประกอบการสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง เพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

4. วิเคราะห์ความเสี่ยง

ก่อนตัดสินใจเลือกสินค้าหรือบริการ ผู้ประกอบการควรวิเคราะห์ความเสี่ยงด้วยว่า สินค้าหรือบริการนั้นมีโอกาสประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด มีอุปสรรคหรือความเสี่ยงใดบ้างที่อาจเกิดขึ้น

ตัวอย่างวิธีการหาสินค้าหรือบริการ เพื่อเริ่มต้นธุรกิจ

1. สำรวจความต้องการตลาด

สมมติว่า ผู้ประกอบการต้องการเริ่มต้นธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ ผู้ประกอบการสามารถสำรวจความต้องการตลาดได้ดังนี้

  • วิเคราะห์ข้อมูลตลาด เช่น ข้อมูลสถิติประชากร ข้อมูลเศรษฐกิจ ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค เป็นต้น พบว่า ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 70 ล้านคน ประชากรส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 15-65 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน มีกำลังซื้อสูง พฤติกรรมผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น

  • สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภค เช่น การสำรวจแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ เป็นต้น พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์ เพราะสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

  • ศึกษาคู่แข่ง พบว่า มีธุรกิจขายสินค้าออนไลน์จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กและกลาง สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าแฟชั่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น

2. พิจารณาความถนัดและความสนใจ

ผู้ประกอบการอาจพิจารณาจากความถนัดและความสนใจของตนเอง เช่น ผู้ประกอบการชอบแฟชั่น อาจเลือกขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือสินค้าแฟชั่นอื่นๆ เป็นต้น ผู้ประกอบการชอบเทคโนโลยี อาจเลือกขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

3. ศึกษาคู่แข่ง

ผู้ประกอบการอาจศึกษาคู่แข่งรายใหญ่ในตลาด เช่น Lazada Shopee JD Central เป็นต้น เพื่อดูว่าคู่แข่งมีสินค้าหรือบริการอย่างไร มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร ผู้ประกอบการสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง เช่น เพิ่มบริการจัดส่งฟรี เพิ่มโปรโมชั่นลดราคา เป็นต้น

4. วิเคราะห์ความเสี่ยง

ผู้ประกอบการควรวิเคราะห์ความเสี่ยง เช่น ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ ความเสี่ยงด้านกฎหมาย เป็นต้น ผู้ประกอบการสามารถบริหารความเสี่ยงได้ เช่น ศึกษาคู่แข่งอย่างละเอียด วางแผนธุรกิจให้รอบคอบ ปฏิบัติตามกฎหมาย เป็นต้น

สรุป

การเลือกสินค้าหรือบริการ เพื่อเริ่มต้นธุรกิจ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ผู้ประกอบการควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ พิจารณาจากความต้องการตลาด ความถนัดและความสนใจของตนเอง รวมถึงศึกษาคู่แข่งและวิเคราะห์ความเสี่ยง เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในธุรกิจ

แสดงความคิดเห็น