อันดับสินค้าที่จะนำเสนอในวันนี้ เป็นอันดับสินค้าที่จัดว่าเป็นสินค้าที่ขายดีทั่วโลก ซึ่งสินค้าบางประเภทนั้นก็อาจจะยกเลิกการผลิตไปแล้ว ไม่สามารถหาซื้อได้แล้วในปัจจุบัน แต่ก็ยังคงครองใจลูกค้าทั่วโลกในยุคนั้นจนถึงปัจจุบันและจัดว่าเป็นสินค้าขายดีตลอดกาล
อันดับที่ 10 : Rubik’s Cube
ยอดขายมากว่า 350,000,000 ชิ้น
ลูกรูบิก หรือที่คุ้นเคยกันดีว่า “รูบิก” เป็นของเล่นลับสมองที่มีรูปทรงเป็นรูปลูกบาศก์ที่สามารถบิดไปบิดมาได้ โดยตัวลูกบากศ์นั้นจะทำมาจากพสาสติกแบ่งเป็นชิ้นย่อยๆ 26 ชิ้นประกอบกัน มีสีทั้งหมด 6 สี จุดประสงค์ของเกมคือ การจัดเรียงให้แถบสีทั้ง 9 ที่อยู่ในด้านเดียวกันของลูกบาศก์ทั้งหมด 6 ด้านให้มีสีเดียวกันนั่นเอง ซึ่งความท้าทายคือกว่าจะเรียงให้แต่ละด้านได้สีเดียวกันนั้นต้องใช้สมาธิและทักษะการคิดพอสมควร
“ลูกรูบิก” ได้รับความนิยมมากในช่วงปี 1980 นับว่าเป็นของเล่นที่ขายได้มากที่สุดในยุคนั้น โดยมีจำนวนยอดขายรวมทั้งของแท้และของเลียนแบบมากกว่า 300,000,000 ชิ้นทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันเกมส์รูบิกก็ยังคงเป็นที่นิยมเล่นกันอยู่ ซึ่งก็มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นกว่าเดิมที่จะมีแบบสีๆอย่างเดียวก็เพิ่มเติมมาเป็นแบบต่อให้ได้รูปภาพที่สมบรูณ์ทั้ง 6 ด้าน หรือจากรูปทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์อย่างเดียว ก็มีทรงอื่นๆ เช่น ทรงสามเหลี่ยม เป็นต้น
อันดับที่ 9 : iPhone
ยอดขายมากกว่า 516,000,000 ชิ้น
iPhone สมาร์ทโฟนจากค่ายยักษ์ใหญ่ Apple เปิดตัว iPhone รุ่นแรกในปี 2007 โดย “สตีฟ จอบส์” ซึ่งในขณะนั้นเป็นประธานบริหารและประธานบริษัทแอปเปิล หลังจากที่เปิดตัว iPhone รุ่นแรกออกมาก็ได้โด่งดังไปทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว ขึ้นชื่อว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมประจำปี 2007 จากนิตยสารไทม์ หลังจากนั้นก็ผลิต iPhone รุ่นอื่นๆออกมา เช่น iPhone 2G, iPhone 3G, iPhone 3Gs, iPhone 4, iPhone 4S, iPhone 5, iPhone 5S, iPhone 6, iPhone 6Plus, iPhone 6S Plus เป็นต้น ซึ่งแต่ละรุ่นเพียงแค่วางจำหน่ายวันแรกก็จะมีคนมารอต่อแถวเข้าคิวซื้อจำนวนมากและขายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว
อันดับที่ 8 : หนังสือเรื่อง Harry Potter
ยอดขายมากกว่า 450,000,000 เล่ม
Harry Potter – แฮรี่ พอตเตอร์ ผลงานของนักเขียนชื่อดัง “J.K.Rowling” (เจเค โรว์ลิ่ง) วรรณกรรมแฟนตาซีชุด “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ซึ่งได้รับความความนิยมจากทั่วโลก จนได้รับรางวัลมากมาย มียอดขายกว่า 400 ล้านเล่มในปี 2008 นอกจากนี้ยังได้ถูกบันทึกว่าเป็นหนังสือชุดที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ โดย Guinness World Records ในปี 2012
อันดับที่ 7 : Michael Jackson’s Thriller
ยอดขายมากกว่า 70,000,000 แผ่น
อัลบั้ม Thriller ของ Michael Jackson (ไมเคิล แจ๊กสัน)นักร้องชาวอเมริกัน นักแต่งเพลง นักเต้น นักออกแบบท่าเต้น นักแสดง และโปรดิวเซอร์เพลง ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาเพลงป็อป” ( The King of Pop ) อัลบั้มทริลเลอร์วางจำหน่ายในปี 1982 ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยอัลบั้มนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์ด 7 รางวัล และรางวัลอเมริกันมิวสิก อวอร์ด 8 รางวัลจากอัลบั้มทริลเลอร์เพียงอัลบั้มเดียว ทำให้ทริลเลอร์เป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดทั่วโลกในปี 1983 กลายเป็นอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล
อันดับที่ 6 : The Super Mario Franchise (เกมส์ชุด ซูเปอร์มาริโอ้)
ยอดขายมากกว่า 262,000,000 ม้วน
ซูเปอร์มาริโอ้ เป็นเกมส์ชุด ประเภทวิดีโอเกมส์ที่โด่งดังมากในญี่ปุ่นและทั่วโลก โดยตัวละครเอกที่มีชื่อว่า “มาริโอ้” ซึ่งเดิมนั้นมีชื่อว่า “Jumpman” สร้างโดยนักออกแบบวิดีโอเกมส์ชื่อ ชิเงรุ มิยาโมโตะ เปิดตัวในปี 1981 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสัญลักษณ์นำโชคให้กับบริษัทและเป็นตัวเอกของเกมส์ชุด มาริโอ้ได้ปรากฏตัวอยู่ในวิดีโอเกมส์ต่างๆ กว่า 200 เกมส์ โดยมาริโอ้ถูกออกแบบให้เป็นช่างประปาชาวอิตาลี รูปร่างอ้วนเตี้ย อาศัยอยู่ในอาณาจักรเห็ด มีภารกิจคือการช่วยชีวิตเจ้าหญิงพีช จากเต่าวายร้าย ที่ชื่อว่า “บาวเซอร์” มาริโอมีน้องชายชื่อ ลุยจิ นอกจากนี้เขายังปรากฏในวิดีโอเกมแนวอื่นๆ เช่น แนวรถแข่ง เช่นเกมชุด มาริโอ้คาร์ต (Mario Kart) เป็นต้น
อันดับที่ 5 : Star Wars (c)
ทำรายได้กว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์จากการขายตั๋วหนัง
สตาร์ วอร์ส แฟรนไชส์ภาพยนตร์แนวมนุษย์ต่างดาวและอวกาศ สร้างโดย จอร์จ ลูคัส เปิดตัวด้วยภาคแรกกับ “Star Wars” ออกฉายเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1977 ซึ่งได้กลายเป็นภาพยนตร์ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย รวมทั้งได้กลายเป็นที่รักของคอหนังแฟนตาซีอวกาศหลายพันล้านคนทั่วโลก หลังจากนั้นก็มีภาคต่อออกมา อีก 2 ภาค คือ สตาร์วอร์ส 2 (The Empire Strikes Back) ปี 1980 และ สตาร์วอร์ส 3 (Return of the Jedi) ปี 1983 และได้สร้างไตรภาคออกมาอีก 3 คือ Star Wars Episode I , Star Wars Episode II, Star Wars Episode III ตามลำดับ
อันดับที่ 4 : iPad
ยอดขายมากกว่า 68,000,000 เครื่อง
iPad (ไอแพด) คือแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบและพัฒนาโดยบริษัทแอปเปิล ( Apple Inc.)โดยไอแพดเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2010 ซึ่งสามารถทำยอดขายได้ถึง 3 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเพียง 80 วัน (อ้างอิง) อาจกล่าวได้ว่าเป็นแท็บแล็ตคอมพิวเตอร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกในขณะนี้ ปัจจุบันบริษัทแอปเปิลได้ออกแบบและพัฒนาไอแพดรุ่นใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ โดยรุ่นล่าสุดเป็น ( iPad Air 2 ) วางจำหน่ายในปี 2014
อันดับที่ 3 : Sony PlayStation
ยอดขายมากกว่า 335,000,000 เครื่อง
PlayStation (เกมส์เพลย์สเตชั่น) เกมส์ยอดนิยมแห่งยุคก่อนการถือกำเนิดของเกมส์ออนไลน์ “เพลย์สเตชัน” เป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกมที่ผลิตโดยบริษัท Sony Computer Entertainment วางจำหน่ายในปี 1994 หลังจากที่ประสบความสำเร็จทางโซนี่ได้ออกเครื่องเล่นเกมส์ในรุ่นต่อมาซึ่งได้แก่ พีเอสวัน (PSone), PlayStation2, PSP (PlayStation Portable) และ PlayStation3 จำหน่ายในปี 2006 การผลิตเครื่องเพลย์สเตชันนั้นยาวนานต่อเนื่องถึง 11 ปี จน ปี 2006 ทางโซนี่ก็ประกาศยุติการผลิตเครื่องเล่นเกมส์เพลย์สเตชั่นลง
อันดับที่ 2 : Lay’s Chips
ยอดขายมากกว่า 630,000,000 ถุงต่อปี
Frito-Lay เป็นบริษัทในเครือของ PepsiCo Inc. ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่มและอาหารว่าง ขนมขบเคี้ยว อาหารทานเล่นต่างๆ เช่น Cheetos, Ruffles, Doritos เป็นต้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Lay’s Chips (มันฝรั่งทอดกรอบ เลย์) แบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดี “เลย์” นับเป็นอาหารว่าง ขนมขบเคี้ยวที่ขายดีที่สุดของบริษัท มียอดขายมากกว่า 630,000,000 ถุงต่อปีเลยทีเดียว
อันดับที่ 1 : Coca-Cola (โคคา โคล่า)
ยอดขายมากกว่า 1.5 พันล้านเสิร์ฟต่อวัน
Coca-Cola (โคคา โคล่า) หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า “โค้ก” ผลิตโดย บริษัทโคคา-โคล่า (The Coca-Cola Company) เป็นเครื่องดื่มอัดลมที่วางขายตามร้านค้า ภัตตาคารและตู้ขายสินค้าแบบหยอดเหรียญกว่า 200 ประเทศ วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1886 ซึ่งนับจนถึงปัจจุบันก็กว่า 130 ปีมาแล้วที่เครื่องดื่ม”โคคา โคล่า”ยังคงเป็นที่นิยมและเป็นเครื่องดื่มที่ขายดีที่สุดในโลก แม้ว่าเครื่องดื่มน้ำอัดลมจะไม่เป็นมิตรกับสุขภาพ อาจไม่เป็นที่น่าพอใจนักสำหรับคนที่รักสุขภาพ แต่ก็ยังเป็นเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกยังคงนิยมดื่มในชีวิตประจำวัน