“อาชีพหมอดู ก็รวยได้” อยากเป็นหมอดูต้องทำอย่างไร?
อาชีพหมอดูหนึ่งอาชีพที่ได้รับความสนใจจากสังคมเหตุก็เพราะว่าสังคมไทยนั้นเป็นสังคมแห่งวิถีของวัฒนธรรมและความเชื่อในเรื่องโชคชะตาราศี การดูดวง หรือทำนายดวงชะตา จึงเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่มีความรู้เลื่อมใสศรัทธามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
การทำนาย ทายทัก ตรวจดวงชะตา ราศี เป็นส่วนหนึ่งของโหราศาสตร์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแขนงวิชาที่มีมาตั่งแต่อดีตกาล แม้จะไม่ได้เป็นวิชาที่มีการศึกษาในวงกว้าง แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่สนใจร่ำเรียนหลักโหราศาสตร์โดยเฉพาะศาสตร์แห่งการทำนายดวงชะตา หรือเรียกง่ายๆว่า “ดูดวง” ก็คงจะคุ้นหูคุ้นเคยกันดี
เหตุใดอาชีพหมอดูถึงกลายเป็นกระแสและมีคนหันไปร่ำเรียนถึงขั้นยึดเป็นอาชีพหลัก?
คำถามนี้เพราะเนื่องจากค่านิยมบวกกับความศรัทธาซึ่งจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หลายคนมองว่าการดูดวงเป็นการบำบัดอย่างหนึ่ง การได้ล่วงรู้สิ่งที่จะเกิดในอนาคตอันใกล้เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติและเป็นสิ่งที่ท้าทายความอยากรู้อยากเห็นซึ่งตอบโจทย์พื้นฐานของมนุษย์ซึ่งมีความอยากรู้อยากเห็นเป็นหลักอยู่แล้ว แม้ว่าเมื่อรู้แล้วอาจจะไม่ได้เกิดผลใดๆขึ้นเลยหลายคนก็ยังรู้สึกยินดีกับมัน แต่หลายคนก็ได้ใช้คำแนะนำจากเหล่าหมอดูที่ทำนายทายทัก ปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิต แก้ไขเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร เสมือนรู้ปัญหาแล้วหาทางแก้ไข จะว่าไปอาชีพหมอดูก็เหมือนเป็นที่พึ่งทางใจอย่างหนึ่งสำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาที่หาทางออกไม่ได้ เพราะอาชีพหมอดูก็อาศัยหลักจิตวิทยาในการพูดคุยและทำทายดวงชะตา ดังนั้นเมื่อมีคนจำนวนมากเข้าไปให้ช่วยแก้ไข ช่วยทำนาย เม็ดเงินจำนวนมากจึงเกิดขึ้น อาชีพหมดดูจึงเป็นแหล่งทำเงินที่ดีเลยทีเดียว บางคนถึงกับยึดเป็นอาชีพหลักส่งเสียครอบครัวให้อยู่สุขสบายได้เลยก็มี เลยเป็นที่มาของการแห่แหนกันไปร่ำเรียนเพื่อเป็นหมอดูนั่นเอง
จะเป็นหมอดูต้องทำอย่างไรบ้าง?
การจะเป็นหมดดูนั้นเริ่มต้นจะต้องมีความรู้บวกความชอบในโหราศาสตร์ ซึ่งโหราศาสตร์เป็นศาสตร์แห่งการทำนายนั้นจริงๆแล้วมีด้วยกันหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น ดูลายมือ,ไพ่ยิปซี,กราฟ,ตัวเลข เป็นต้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะเลือกเรียนด้านไหน ปัจจุบันมีสถาบันโหราศาสตร์เปิดสอนอยูด้วยกันหลายสถาบันและแต่ละที่ก็มีสาขาให้เลือกเรียนกันได้ตามใจชอบ สำหรับคนที่ไม่อยากไปร่ำเรียนให้สิ้นเปลืองก็อาจร่ำเรียนด้วยตัวเองจากหนังสือโหราศาสตร์ หลักการพยากรณ์ คู่มือทำทายทายทัก หรือดูคลิปการทำนาย แต่คุณอาจต้องอาศัยเวลานานสักหน่อยในการจับประเด็นต่างๆ
เมื่อร่ำเรียนกันจนแน่นวิชาแล้วก็ต้องผ่านการฝึกฝนเพื่อความแม่นยำ และสร้างความมั่นใจจะได้ไม่ประหม่าเมื่อเริ่มลงมือดูดวง โดยผู้ที่จะประกอบอาชีพหมอดูนั้นจะต้องหมั่นฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ อาจจะทดลองกับครอบครัวหรือคนรอบข้างบ่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆจนเกิดความชินิชำนาญแล้วก็ถึงเวลาลงสนามจริงกันได้เลย
การเลือกทำเลในการดูดวง
เมื่อพร้อมแล้วสำหรับเริ่มต้นอาชีพดูดวงก็ถึงขั้นต้องหาทำเลที่เหมาะสม ในช่วงเริ่มต้นควรหาทำเลที่เป็นย่านผู้คนผ่านไปมาเยอะๆ อย่างเช่น ใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย วัด ตลาดนัด แหล่งสำนักงาน เป็นต้น เรามักจะเห็นว่าตรงใต้สะพานลอยมักจะมีโต๊ะเล็กๆ และเก้าอี้เล็กๆ วางอยู่ และมีคนเข้าคิวนั่งรอดูดวง (จะบอกว่านั้นคือทำเลที่นิยมและได้กลุ่มเป้าหมายที่ดีเลยทีเดียว) แต่ถ้าหากใครที่มีกำลังทรัพย์และอยากให้ดูเป็นมืออาชีพ ก็เลือกสถานที่เป็นห้องหรือเป็นล็อคขนาดเล็ก ควรจัดห้องให้ดูเป็นส่วนตัว อาจจะกั้นเป็นห้องแยก เพื่อจะได้เกิดความผ่อนคลายและมั่นใจว่าสิ่งที่กำลังคุยกันนั้นจะไม่รั่วไหลออกไปให้คนอื่นได้ยิน
เรื่องไหนที่คนนิยมดูดวง?
การดูดวงเรื่องนิยมนิยมอันดับต้นๆได้แก่ เรื่อง “ความรัก การงาน การเงิน ครอบครัว” เป็นหลัก นอกจากนี้ก็จะเป็นเรื่องทั่วไปอย่าง สุขภาพ มิตรสหาย ลาภ เป็นต้น การใช้เวลาในการดูดวงแต่ละครั้งก็ประมาณ 20-30 นาที หรือมากกว่านั้นก็เป็นกรณีๆไป ราคาการดูดวงแต่ละครั้งก็มีตั้งแต่ 29 49 59 99 199 299 (เลือกลงท้ายด้วยเลข9เพราะถือว่าเป็นเลขมงคล) ไปจนถึงหลักพัน สำหรับหมอดูดังๆก็หลักหมื่นหรือหลักแสนกันเลยทีเดียว
อาชีพหมอดูทำอย่างไรถึงรายได้ดี?
การจะมีรายได้จำนวนมากจากการดูดวงแม้ไม่ใช่ง่ายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก..!! สิ่งสำคัญคือ “เวลา” การสะสมชื่อเสียงและความน่าเชื่อต้องอาศัยเวลาเป็นหลัก ดังนั้นหากในช่วงเริ่มต้นก็เก็บเล็กผสมน้อยไปก่อน เพิ่มช่องทางหารายได้โดยการดูดวงออนไลน์ ผ่านโทรศัพท์ หรือแอพลิเคชั่นรวมทั้งโซเชียลต่างๆร่วมด้วย การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าก็มากขึ้นกว่าการนั่งรอลูกค้าเข้ามาหาเพียงทางเดียวอย่างแน่นอน
คำแนะนำในการทำอาชีพหมอดู
– จรรยาบรรณของอาชีพ ผู้ที่ประกอบอาชีพหมอดูต้องมีจรรยาบรรณไม่นำเรื่องราวของผู้ที่มาดูดวงไปเล่าต่อให้คนอื่นๆฟัง เพราะจะสร้างความเสื่อมเสียและอับอายให้แก่บุคคลนั้นๆได้ และที่สำคัญคือคุณอาจไม่ได้รับความไว้วางใจอีก คงไม่มีใครกล้ามาดูดวงกับคุณเพราะเขากลัวคุณเอาเรื่องเขาไปเล่าต่อ
– ไม่แนะนำในทางทีไม่ถูกไม่ควร เช่น เสี้ยมสอน ยุยงให้ครอบครัวแตกแยก
– ไม่เรียกร้องเงินทองจนเกินงาม
– แบ่งเงินทองไปทำบุญบ้าง สร้างเริมบารมีให้คนอื่นแล้วก็อย่างลืมสร้างเสริมบารมีให้ตัวเองบ้าง สร้างบุญกุสล ทำทานบ้าง