อาชีพเสริม “งานฝีมือ-งานประดิษฐ์” แบบไหน? ที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ!!

งานฝีมือ-ประดิษฐ์ที่ใครๆ ก็ทำได้ คืออีกหนึ่งหนทางสร้างรายได้ภายใต้คำสำคัญที่เรียกว่า “งานฝีมือ-ประดิษฐ์ทำเงิน” นั่นเอง แต่ก็ใช่ว่างานประดิษฐ์ทุกชิ้นที่ประดิษฐ์ขึ้นจะทำรายได้ได้ทุกอย่าง เพราะในการจะสร้างรายได้ได้นั้นสำคัญคือสามารถขายได้จริงมีคนซื้อ โดยงานประดิษฐ์สร้างรายได้ก็เป็นหนึ่งคำที่มีนิยามจำกัดเป็นวงแคบลงมาจากงานประดิษฐ์ทั่วๆ ไป ทำให้งานประดิษฐ์สร้างรายได้ไม่สามารถประดิษฐ์ตามใจฉันได้อย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงความต้องการของผู้ซื้อด้วย

ลองให้นิยามคร่าวๆ สำหรับงานฝีมือ-ประดิษฐ์เราจะได้ในทำนองที่ว่า “ผลงานซึ่งเกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์” แต่ถ้าหากเป็นงานประดิษฐ์สร้างรายได้จะมีข้อจำกัดเพิ่มขึ้นมาจากผลงานที่มนุษย์เป็นผู้สร้างก็จะถูกเติมแต่งด้วยคำว่าสามารถเป็นสินค้าที่ขายได้จริงและมีคนสนใจ ซึ่งความหมายนั้นจะแคบลงมาจากเดิม ทำให้บทความในครั้งนี้เตรียมข้อมูลมานำเสนอเพื่อ “งานฝีมือ-ประดิษฐ์สร้างรายได้” ที่ท่านผู้ประกอบการ ผู้ที่กำลังหารายได้เสริมจากงานฝีมือ-ประดิษฐ์ได้นำไปเป็นข้อมูลเริ่มต้นอาชีพดังนี้

ลักษณะงานฝีมือ-ประดิษฐ์ ที่ลูกค้าต้องการ

1. ความสวยงาม

หนึ่งชิ้นงานประดิษฐ์หากต้องการให้มีคนสนใจและตัดสินใจซื้อ ขาดไม่ได้คือองค์ประกอบในข้อนี้ เมื่อความสวยงามเป็นสิ่งแรกที่ทำให้คนพบเห็น และสามารถเรียกร้องความสนใจได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นของใช้อะไรก็ตามผู้บริโภคย่อมเลือกของที่มีดีไซน์มีการออกแบบ ไม่ใช่เพียงใช้งานได้อย่างเดียว แต่ไม่มีความสวยงามเลย ถึงแม้จะมีประโยชน์สักแค่ไหนก็ยากที่จะเรียกร้องความสนใจให้ลูกค้าเข้ามาหยิบจับสินค้าดูได้ จึงต้องยกให้องค์ประกอบนี้เป็นหลักสำหรับงานประดิษฐ์สร้างรายได้

2. ไอเดีย

ข้อนี้มองผิวเผินอาจคล้ายกับข้อแรก แต่ความจริงแล้วมีความแตกต่างกันมากพอสมควร เพราะในบางครั้งหรือหลายๆ ครั้งคำว่าไอเดียก็สื่อถึงความแปลกใหม่ที่ผู้ค้ารายอื่นยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน รวมไปถึงการปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมภายใต้แนวคิดเฉพาะตัว โดยงานที่มีไอเดียเป็นจุดขายมักได้รับความสนใจจากคนทั่วไปได้ดี

ทั้งยังสามารถตั้งราคาได้อีกด้วย เมื่อเราคงจะเคยได้ยินกันอยู่บ่อยครั้งกับคำว่า “ขายไอเดีย” ในสินค้าบางชิ้นซึ่งดูแล้วต้นทุนอาจไม่สูงมาก สังเกตจากวัสดุที่ใช้และอื่นๆ แต่ที่สูงก็คือต้นทุนทางความคิดนั่นเอง ทำให้สินค้าชิ้นนั้นเป็นของแพงไปอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งก็สามารถขายได้ง่ายๆ แม้ราคาสูง

3. วัสดุคุณภาพ

ข้อนี้คือองค์ประกอบที่สามารถเชื่อมโยงได้เข้าถึงกับความคงทนที่ผู้ซื้อคำนึงถึง เพราะวัสดุที่ดีมีคุณภาพอายุการใช้งานก็จะยาวนาน แตกต่างจากวัสดุด้อยคุณภาพที่อายุการใช้งานก็จะสั้นตามไปด้วย เช่น กรอบรูปที่ประดิษฐ์จากเศษกระดาษ และกรอบรูปที่ประดิษฐ์จากเศษไม้ ความสนใจของผู้ซื้อก็จะแตกต่างกันข้อนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้งานประดิษฐ์ชิ้นนั้นมีคนซื้อหรือไม่ หรือซื้อมากน้อยแค่ไหน

4. ฟังก์ชั่นการใช้งาน

ข้อนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความสำคัญในงานประดิษฐ์สร้างรายได้ โดยงานประดิษฐ์ชิ้นนั้นนอกจากสวยงามสามารถตั้งโชว์เพื่อเป็นการตกแต่งแล้ว หากสามารถเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานเข้าไปด้วยได้ ก็จะช่วยส่งเสริมการขายให้กับงานประดิษฐ์นั้นๆ ด้วย

5. ช่องทางการขายที่เหมาะสม

องค์ประกอบสุดท้ายอาจไม่เกี่ยวข้องกับตัวชิ้นงานโดยตรง แต่ก็มีความสำคัญที่จะสร้างสรรค์ผลงานประดิษฐ์ให้เป็นสิ่งที่สามารถสร้างรายได้ได้ นั่นก็คือช่องทางการขายซึ่งควรมีความเหมาะสมโดยอาจคำนึงถึงตัวชิ้นงานและกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่ที่ควรมีความสัมพันธ์กันเป็นต้นว่างานประดิษฐ์สไตล์เด็กแนวก็ควรขายในแหล่งวัยรุ่นที่มีสไตล์เฉพาะตัวเป็นต้น

แสดงความคิดเห็น