เครื่องมือสำคัญที่จะสร้างธุรกิจให้อยู่รอดและเติบโต
ในปี 2020 ที่เริ่มต้นขึ้นนี้ นักธุรกิจและนักการตลาดจำเป็นต้องจับตาดูแนวโน้มความเคลื่อนไหวของเทรนด์การตลาดอย่างใกล้ชิด เพราะโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลเต็มตัว สังคมกำลังเข้าสู่การ Disrupt ที่จะสร้างความพลิกผันอย่างก้าวกระโดดไปทุกด้าน ทั้งธุรกิจ การตลาด สังคม วิถีชีวิตผู้คน ซึ่งจะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างรวดเร็วกว่าในยุคที่ผ่านมา
การศึกษาแนวโน้มเทรนด์การตลาดที่จะเกิดขึ้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จำเป็นต้องรู้ เพื่อจะนำพาให้ธุรกิจของเราอยู่รอดและเติบโต ซึ่งมีหลายเทรนด์ที่น่าสนใจ ดังนี้
1. การตลาดยุค 5G ที่ต้องมี Entertainment
สร้างยอดขายด้วยเทคนิคการขายสินค้าคู่ความบันเทิง รูปแบบการตลาดสำหรับทุกธุรกิจจะถือกำเนิดเทรนด์การตลาดแบบใหม่ที่เรียกว่า Shoppertainment หรือ การช๊อปปิ้งผ่านความบันเทิง ซึ่งผันมาจาก Live Commerce หรือการขายของผ่าน Live ที่นิยมทำกันด้วยการขายของพร้อมให้ความบันเทิง ทั้งการเต้น โชว์ลีลาโดนใจ มีความสนุกสนาน ซึ่งเป็นการนำ Shopping มารวมกับ Entertainment สองปัจจัยที่มีผลในเชิงจิตวิทยา ที่ทำให้เกิดความพอใจ และนำไปสู่ยอดขายในท้ายที่สุด
2. Mobile Search Trend จะเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด
พฤติกรรมผู้บริโภคจะเสพติด Mobile Search มากยิ่งขึ้นอย่างแยกกันไม่ออก ทุกอย่างจะถูกทำผ่านมือถือสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว การ Search มีความสำคัญมาก นั่นจึงหมายถึง SEO จะมีความสำคัญ ผู้คนล้วนจะเข้าสู่การ Search เป็นหลักในทุกด้าน ทั้งการเรียน การทำงาน การใช้ชีวิต การทำการตลาดโดยยึดหลัก SEO จึงเป็นเรื่องที่สำคัญและสร้างผลลัพธ์ได้มาก เพราะหากสามารถทำ SEO ได้ดี ก็จะนำไปสู่ยอดขาย ซึ่งหมายถึงความสำเร็จ และที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องคิดรูปแบบในการนำเสนอให้สอดคล้องแพลตฟอร์มเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคผ่านมือถือ
3. Influencer จะมีค่าตัวแพงขึ้น และเห็นผลลัพธ์น้อยลง
ในช่วงที่ผ่านมา เราให้ความสำคัญกับ Influencer หรือผู้ทรงอิทธิพลต่อสังคมในด้านต่างๆ ที่เป็นตัวแทนในการพูดถึงสินค้าและบริการของเราให้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยม จนนำไปสู่ยอดขาย แต่ในอนาคต ด้วยกระแสโลกออนไลน์จะส่งผลให้ Influencer มีค่าตัวแพงขึ้น แต่กลับเห็นผลลัพธ์น้อยลง จึงเหมือนเป็นการลงทุนที่ได้ไม่คุ้มเสีย เนื่องเพราะคนจะหันมาสนใจคนธรรมดาหรือใครก็ได้ ที่น่าสนใจ มีคอนเทนต์หรือสร้างปรากฏการณ์ที่ดึงดูด แม้จะไม่ใช่คนดังเลยก็ตาม
4. ค่าโฆษณาออนไลน์จะแพงขึ้นจนต้องหันมาให้ความสำคัญกับคอนเทนต์
เนื่องเพราะการเติบโตของโลกออนไลน์ ส่งผลให้ค่าโฆษณาออนไลน์แพงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งจะไม่เรียกว่ามีราคาถูกอีกต่อไป นักธุรกิจและนักการตลาดจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์คุณภาพ เพื่อสร้างผลลัพธ์โดยประหยัดค่าโฆษณาลงไป เพราะคอนเทนต์ที่ดีจะขายตัวมันเองโดยไม่ต้องใช้เงินโปรโมตจำนวนมาก
5. Engagement จะตกยุคและไม่สำคัญอีกต่อไป
ในอดีตเราจะให้ความสำคัญกับยอดการมีส่วนร่วมในโพสต์ โดยวัดจากยอดการ “กดดู กดไลค์ กดแชร์ และคอมเมนต์” เพื่อวัดผลสำเร็จทางการตลาด แต่ในโลกอนาคตนี้ มันจะกลายเป็นเรื่องตกยุคและไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะการมี Engagement ไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าจะทำให้เกิดการซื้อขายได้ เพราะเป้าหมายปลายทางคือยอดขาย ฉะนั้น การวัดผลจะมีความละเอียดมากยิ่งขึ้น เช่น เราอาจไม่สนใจยอด View เทียบเท่ากับ จำนวน View ที่คนดูจนจบคลิป เพราะการมี Engagement ที่เยอะแต่ไม่สามารถสร้างยอดขายได้ก็ไร้ซึ่งประโยชน์
6. คนจะให้ความสำคัญกับ Value ธุรกิจจึงควรให้ความสำคัญกับ Branding
ผู้คนจะยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า นั่นหมายถึง คนยุคใหม่จะไม่ยึดติดกับราคาเพียงอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องถูกเสมอไปก็สำเร็จได้เช่นกัน ผู้คนจะสนใจแบรนด์ที่สร้างคุณค่า ให้ความสำคัญกับสินค้าและบริการ หรือธุรกิจที่มีส่วนช่วยในการทำให้โลกดีขึ้น สังคมดีขึ้น น่าอยู่มากขึ้น ฉะนั้น ผู้คนจึงยอมจ่ายในราคาที่สูงขึ้น เพื่อให้ได้รับสินค้าบริการที่ดีขึ้น และมีคุณค่าต่อสังคมมากขึ้น
7. Focus ที่การเล่นกับ Emotion แทนการนำเสนอแค่เพียง Fact
ด้วยพฤติกรรมการซื้อขายที่เปลี่ยนผันไปในโลกออนไลน์เป็นหลัก ผู้คนจึงซื้อสินค้าและบริการผ่านเทคโนโลยี โดยไม่มีคนเป็นตัวเชื่อมโยง ดังนั้น การทำการตลาดในยุคนี้จึงจำเป็นต้องจับความต้องการและนำเสนอโดยเล่นกับ Emotion ของคน แทนการให้ข้อมูลแต่ข้อเท็จจริงหรือ Fact เพียงอย่างเดียว เพราะไม่สามารถสร้างการโน้มน้าวหรือดึงดูดให้เกิดขึ้นได้ จึงปิดการขายไม่สำเร็จตามเป้าที่วางไว้
8. ลูกค้าต้องการให้รู้ใจและทันใจ
ลูกค้าต้องการได้รับบริการที่เข้าถึง เข้าใจ มีความพิเศษและเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือต้องรวดเร็วทันใจ หากนักธุรกิจและนักการตลาดสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ก็จะสำเร็จได้ในยุคนี้
นี่จึงเป็นเทรนด์การตลาดในปี 2020 ที่ทุกธุรกิจต้องจับตามองและติดตามความเคลื่อนไหว เพื่อนำมากำหนดกลยุทธ์และดำเนินกิจกรรมทางการตลาดให้สอดคล้องและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค