แฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุ” ลงทุนต่ำ กำไรสูง เหมาะสำหรับผู้มีเงินทุนน้อย
แฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุ” ลงทุนต่ำ กำไรสูง เหมาะสำหรับผู้มีเงินทุนน้อย

แฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุ” ลงทุนต่ำ กำไรสูง เหมาะสำหรับผู้มีเงินทุนน้อย

แฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุ” ลงทุนต่ำ กำไรสูง เหมาะสำหรับผู้มีเงินทุนน้อย

แฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุ” ลงทุนต่ำ กำไรสูง เหมาะสำหรับผู้มีเงินทุนน้อย

เชื่อว่าแฟรนไชส์ลูกชิ้นยังคงเป็นที่ต้องการไม่สร่างสำหรับผู้ประกอบการทั้งหลาย เมื่ออาชีพขายลูกชิ้นกำลังตกอยู่ในความสนใจสำหรับคนจำนวนมาก ด้วยเหตุผลที่ลูกชิ้นเป็นสินค้าซื้อง่ายขายง่ายทำง่าย มีความคล่องตัวสูง จึงไม่แปลกเลยที่อาชีพขายลูกชิ้นจะเป็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในรูปแบบแฟรนไชส์ลูกชิ้นยิ่งแล้วใหญ่ เมื่อผู้ประกอบการหน้าใหม่ทั้งหลายไม่เคยผ่านประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง ทำให้แฟรนไชส์ลูกชิ้นซึ่งมีการจัดการตายตัวได้รับความสนใจอย่างมาก และเป็นเหตุให้แฟรนไชส์ลูกชิ้นทั้งหลาย เกิดขึ้นมากมายจนเกลื่อนตลาด เป็นทางเลือกให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษากันไม่จบสิ้น

แฟรนไชส์ลูกชิ้นวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อดึงความสนใจจากผู้ประกอบการหน้าใหม่ทั้งหลาย ภายใต้แบรนด์ “มารุ” ที่ดำเนินการขายลูกชิ้นในรูปแบบแฟรนไชส์ลูกชิ้นอย่างมีมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรสชาติ หรือรูปแบบร้าน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ และยังเป็นการสื่อสารกับลูกค้าให้เกิดความเข้าใจ

แฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุ” ลงทุนต่ำ กำไรสูง เหมาะสำหรับผู้มีเงินทุนน้อย แฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุ” ลงทุนต่ำ กำไรสูง เหมาะสำหรับผู้มีเงินทุนน้อย

ลักษณะสินค้าของแฟรนไชส์ลูกชิ้นมารุ คือเป็นลูกชิ้นปลาทอดขายเป็นชุด ในราคาขายชุดเล็ก 30 บาทและชุดใหญ่ 50 บาท ทั้งยังมีการขายยกกิโลกรัมในราคากิโลกรัมละ 150 บาท โดยลูกชิ้นปลาของแฟรนไชส์ลูกชิ้นมารุที่ใช้เป็นเนื้อปลาล้วนๆ ให้ลูกค้าได้เข้าถึงรสชาติเนื้อปลาเต็มๆ คำ

สำหรับการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับลูกค้าคือรูปแบบร้านและโลโก้ โดยโลโก้ของทางร้านจะเป็นหน้าเด็กผู้หญิงเกล้าผมแกะชูสองนิ้วกำลังกัดลูกชิ้นแบบเต็มๆ คำ สื่อสารได้ตรงประเด็นกับลูกชิ้นปลาเต็มๆ คำ ทั้งยังมีสโลแกนของร้านว่า “มารุ อร่อยจุใจ” เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าใจถึงผลที่จะได้รับถึงลูกชิ้นแบรนด์นี้ และสัญลักษณ์สุดท้ายคือสีซึ่งจะใช้สีเหลืองเป็นสีประจำ สื่อสารออกมาถึงความสดใส ความร่าเริง ราวกับว่าเมื่อได้ทานลูกชิ้นปลาเจ้านี้ก็จะอารมณ์ดีกันไปตามๆ นั่นเอง

ทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม ได้แก่ แหล่งขายอาหารทั่วไป ปั๊มน้ำมัน สถานที่ราชการ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น โดยเน้นสถานที่ที่มีจำนวนคนพลุกพล่านเป็นหลัก ส่วนกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบในการทานลูกชิ้นปลาทอด และเป็นกลุ่มคนที่ชอบทานอาหารที่ได้มาตรฐาน เพราะลูกชิ้นมารุมีความเป็นมาตรฐานอยู่ในตัว ซึ่งราคาขายก็อาจสูงกว่าลูกชิ้นปลาทอดไม่มีแบรนด์ที่วางขายอยู่ในตลาดทั่วไป

แฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุ” ลงทุนต่ำ กำไรสูง เหมาะสำหรับผู้มีเงินทุนน้อย

รายละเอียดแฟรนไชส์ลูกชิ้นมารุ

รูปแบบที่ 1 แฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุอร่อยจุใจ” ชุดประหยัด ราคา 15,500 บาท

สิ่งที่ได้รับ
• ซุ้มโต๊ะไม้ขนาด 1.2 เมตร
• ชุดเตาแก๊ส
• กระทะ&ตะหลิว
• ถาด&ตระแกรง
• กรรไกร&ขวดน้ำจิ้ม&ผ้ากันเปื้อน
• ถุง&ไม้จิ้ม
• ธงญี่ปุ่นพร้อมขาตั้ง
• ลูกชิ้นชุดแรก 10 กิโลกรัม
• น้ำจิ้ม 3 กิโลกรัม

รูปแบบที่ 2 แฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุ อร่อยจุใจ” ชุดมาตรฐาน ราคา 28,500

สิ่งที่ได้รับ
• เป็นซุ้มขายของที่ทางปั๊มน้ำมันมีเตรียมไว้ให้
• ชุดเตาไฟฟ้า
• กระทะ&ตะหลิว
• ถาด&ตระแกรง
• กรรไกร&ขวดน้ำจิ้ม&ผ้ากันเปื้อน
• ถุง&ไม้จิ้ม
• ธงญี่ปุ่นตราสัญลักษณ์ “ลูกชิ้น มารุ อร่อยจุใจ” พร้อมขาตั้ง
• การ์ตูนตัวใหญ่ พร้อมขาตั้งตราสัญลักษณ์ “ลูกชิ้น มารุ อร่อยจุใจ”
• ถุงบรรจุลูกชิ้นตราสัญลักษณ์ “ลูกชิ้น มารุ อร่อยจุใจ”
• ลูกชิ้นชุดแรก 10 กิโลกรัม
• น้ำจิ้ม 3 กิโลกรัม

แฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุ” ลงทุนต่ำ กำไรสูง เหมาะสำหรับผู้มีเงินทุนน้อย

ขั้นตอนการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุ อร่อยจุใจ”

1. เลือกรูปแบบแฟรนไชส์ลูกชิ้นตามความต้องการหรือความเหมาะสม
2. หลังจากเลือกรูปแบบแฟรนไชส์ลูกชิ้นแล้ว ระหว่างสัปดาห์ สามารถสั่งซื้อลูกชิ้นประเภทต่างๆ ได้ในราคาส่ง

สินค้าในราคาส่ง

1. ลูกชิ้นราคากิโลกรัมละ 90 บาท
2. น้ำจิ้มสามารถแลกซื้อได้ในราคากิโลกรัมละ 10 บาท จากราคาปกติกิโลกรัมละ 50 บาท
3. ในกรุงเทพฯ หากสั่งซื้อมากกว่า 40 กิโลกรัมบริการจัดส่งฟรื ส่วนในต่างจังหวัดคิดค่าขนส่งตามจริง

แฟรนไชส์ลูกชิ้น “มารุ” ลงทุนต่ำ กำไรสูง เหมาะสำหรับผู้มีเงินทุนน้อย

ข้อมูลติดต่อแฟรนไชส์ลูกชิ้นมารุ
เบอร์โทร : 086-809-9990
Facebook : ลูกชิ้นปลา มารุ อร่อย..จุใจ สนใจแฟรนไชส์โทร 086-8099990

หมายเหตุ รูปภาพบางภาพและวิดีโอที่ใช้เป็นสื่อประกอบบทความเท่านั้น 

แสดงความคิดเห็น