Image credit: Butler/Till

3 เคล็ดลับเพื่อการก้าวสู่ผู้ประกอบการหญิงอย่างมีประสิทธิภาพ

Image credit: Butler/Till
Image credit: Butler/Till

3 เคล็ดลับเพื่อการก้าวสู่ผู้ประกอบการหญิงอย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เรามักจะเห็นว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักเป็นผู้ชาย แต่ด้วยสังคมที่เปลี่ยนไป โลกที่ก้าวสู่ความเท่าเทียม เราจึงได้เห็นผู้ประกอบการหญิงบนเส้นทางธุรกิจ ทั้งในแนวหน้าของโลกหลายต่อหลายราย แต่กว่าจะมายืนอยู่ตรงจุดนั้นได้ พวกเธอก็ผ่านความยากลำบากในการเป็นผู้นำองค์กรต่างๆมากมาย เพราะแม้ว่าผู้หญิงจะมีความเก่งกาจไม่แพ้ผู้ชายในทุกๆด้าน แต่บางครั้งก็ยังมีเรื่องละเอียดอ่อนในเรื่องของความเป็นผู้หญิงที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญๆ ดังนั้นหากคุณกำลังอยากก้าวมาเป็นผู้ประกอบหญิง ข้อมูลเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์ในการจัดการจัดการกับตัวเองในฐานะผู้ประกอบหญิงที่มีประสิทธิภาพได้

1. พิสูจน์ตัวเอง
ในขณะที่คนอื่นๆกำลังทำงานอย่างหนัก ผู้หญิงจะต้องทำงานหนักมากกว่าผู้ชายเป็นเท่าตัวในการพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นได้เห็นในฐานะของผู้ประกอบการหญิง ต้องมั่นใจในตัวเองในการรับมือกับแรงกดดันจากความเป็นผู้หญิงที่ถูกมองว่าอ่อนแอ เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างจะต้องพยายามและดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่เฉพาะกับลูกค้าแต่กับพนักงานก็ต้องทำด้วยเช่นกัน

2. โฟกัสที่กลุ่มพนักงานให้มาก
รูปแบบการตัดสินใจสำหรับทีมงานในฐานะผู้นำมีความสำคัญสูงในการเรียกคะแนนจากพนักงานบริษัท ผู้ประกอบการที่ดีจะต้องดูลูกค้าและพนักงานอย่างเต็มที่เท่าเทียมกัน ต้องไม่ลืมว่าพนักงานคือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ และผู้ประกอบการต้องสร้างสมดุลแห่งชีวิตให้แก่พวกเขา นโยบายคือสิ่งสำคัญในการทำงานร่วมกับพนักงาน ยกตัวอย่างเช่น นโยบายเวลาในการทำงาน ผู้ประกอบการต้องกำหนดเวลาในการทำงานที่เหมาะสม เพื่อให้พวกเขาได้มีเวลาในการชีวิตกับครอบครัว สิ่งเล็กๆน้อยๆอย่างการเลิกงานทันเวลาได้รับลูกๆกลับจากโรงเรียน เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการเซ็ทเวลาโดยคำนึงถึงพนักงานเป็นสำคัญ รวมทั้งการจัดกิจกรรมร่วมกันระหว่างพนักงานและผู้ประกอบการ เป็นการปลกฝังความรู้สึกที่ดีต่อผู้นำของพนักงานอีกด้วย

3. ความเห็นอกเห็นใจ
ความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่าจะมีความสำคัญอย่างมากสำหรับพนักงานบริษัท ยิ่งกับบริษัทที่มีผู้ประกอบการเป็นผู้ชาย คามเห็นอกเห็นใจเป็นสิ่งที่พนักงานพึงปรารถนามากกว่าองค์กรที่มีผู้ประกอบการผู้หญิง ไม่ใช่ว่าผู้ชายไม่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น แต่ทว่านั่นเป็นคุณสมบัติที่มีในผู้หญิงมากกว่า ถึงแม้ว่าผู้หญิงมีความเห็นอกเห็นอกเห็นใจมากกว่าแล้วจะละเลยข้อนี้ไป ในทางกลับกันต้องเพิ่มเข้าไปมากกว่า ในธุรกิจ “ความเห็นอกเห็นใจ”ต่อลูกค้า จะแปลเปลี่ยนเป็นความได้เปรียบเมื่อมีการแข่งขัน และในองค์กร “ความเห็นอกเห็นใจ”ต่อพนักงาน จะแปลเปลี่ยนเป็นความซื่อสัตย์ รักและเคารพทั้งตัวผู้นำและองค์กร

การจะเป็นผู้นำที่ดีมีปะสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ทุกคนล้วนแต่มีศักยภาพเพียงพอในการเป็นผู้นำธุรกิจ แต่ขึ้นอยู่กับการดำเนินการและการปฎิบัติที่มีวัฒนธรรมของผู้ประกอบการต่างหาก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.entrepreneur.com

แสดงความคิดเห็น