6 ข้อผิดพลาดยอดนิยม ของผู้ประกอบการ
6 ข้อผิดพลาดยอดนิยม ของผู้ประกอบการ

6 ข้อผิดพลาดยอดนิยม ของผู้ประกอบการ

ข้อผิดพลาดนั้นสามารถเกินขึ้นได้กับทุกคนแม้ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการก็ตาม การมองข้ามข้อผิดพลาดเล็กๆนั้นสามารถส่งผลเสียต่อธุรกิจทั้งในเรื่องของการบริหารงาน การเติบโตของธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการมีวิสัยทัศน์ที่ดี และนี่คือ 6 ข้อผิดพลาดของผู้ประกอบการส่วนใหญ่

1.การขาดการวางแผนเดินหน้าพัฒนาธุรกิจ

การวางแผนธุรกิจถือเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จและสามารถพัฒนาได้ แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่กับไม่ได้วางแผนกลลยุทธ์ธุรกิจมากพอ  การวางแผนนั้นต้องวางแผนทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว 3 เดือน 5 เดือน 1 ปี หรือ 5 ปี การวางแผนธุรกิจของคุณไม่ใช่การวางแผนว่าคุณต้องการมีรายได้เท่าไหร่แต่คือการวางแผนว่าคุณจะใช้วิธีใดในการหารายได้เหล่านั้นเข้ามา

การวางแผนระยะยาวที่มีประสิทธิภาพจะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายของคุณ และข้อนี้คือสิ่งที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญมากพอ

2.ปรับเปลี่ยนไอเดีย กลยุทธ์ แผนงานบ่อยเกินไป

บางครั้งข้อผิดพลาดข้อนี้ก็มีให้เห็นได้บ่อย แผนกลยุทธ์ต่างๆนั้นย่อมใช้เวลาในการดำเนินการและใช้เวลาในการแสดงผลลัพธ์ หากมีการปรับเปลี่ยนที่บ่อยเกินไปอาจทำให้ไอเดียเหล่านั้นยังไม่แสดงประสิทธิภาพที่แท้จริงออกมาได้ ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดของผู้ประกอบที่เห็นได้ชัดเพราะแสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจและการขาดวิสัยทัศน์มองการไกลที่ดีของผู้ประกอบการ

3.ไม่มีการลงมือทำ

หากมีไอเดียธุรกิจ แผนงาน และแนวทางการดำเนินธุรกิจแล้ว แต่ขาดการลงมือทำสิ่งที่มีก็เปล่าประโยชน์ ผู้ประกอบการนอกจากจะเป็นผู้คิดวางแผนแนวทางต่างๆแล้ว สิ่งสำคัญคือการลงมือทำแต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่กับมีแค่มุมมองและความต้องการให้ธุรกิจเดินไปในทิศทางต่างๆแต่กลับไม่ลงมือทำอะไรเลย ซึ่งถือเป็นข้อผิดพลาดที่สำคัญเช่นกัน

4.ลดราคาสินค้าและบริการมากเกินไป

กลยุทธ์การลดราคาสินค้าและบริการ หรือการให้สิทธิพิเศษแก่ลูกค้าถือเป็นกลยุทธ์ที่ดี แต่หากมากเกินไปสิ่งเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจของคุณขาดประสิทธิภาพในการเติบโตและพัฒนา ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มีความสนใจในธุรกิจแต่ขาดการคิดคำนวณที่ดีทำให้กลายเป็นข้อผิดพลาดมากกว่าข้อดี ลูกค้าสนใจสินค้าและบริการแต่ขาดแรงจูงใจในการกลับมาใช้บริการซ้ำ เพราะการมีโปรโมชั่นพิเศษมากเกินไปลูกค้าจะสนใจเพียงโปรโมชั่นเหล่านั้นมากกว่าเห็นความสำคัญของสินค้าและบริการของธุรกิจ

5.การใช้ Outsource 

ปัจจุบันการใช้ Outsource นิยมแพร่หลายมากขึ้นในธุรกิจ ด้วยต้นทุนที่ต่ำและความเชี่ยวชาญที่มากกว่าสามารถทำให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น Outsource สามารถช่วยให้ธุรกิจทำสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้นเช่น แอพพลิเคชั่นต่างๆ เป็นต้น หากผู้ประกอบการมองข้าม Outsource ในปัจจุบันอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพในการเติบโตของธุรกิจนั้นลดลงอีกด้วย

6.ทำงานหนักเกินไป

การทำงานหนักถือเป็นสิ่งที่ดีแต่หากมากเกินไปสิ่งเหล่านั้นย่อมส่งผลเสีย การทำงานหนักส่งผลต่อระบบสมองและความเครียด ทำให้ประสิทธิภาพความคิดต่างๆย่อมลดลง การตัดสินใจอาจผิดพลาดและส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้ ดังนั้นการหาจุดสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงและหาจุดสมดุลนั้นให้ได้

แสดงความคิดเห็น