7-11 ลุย ห้างออนไลน์ ขนทัพสินค้า 2 ล้านไอเท็มมัดขาช็อป
image credit :japantimes.co.jp

7-11 ลุย “ห้างออนไลน์” ขนทัพสินค้า 2 ล้านไอเท็มมัดขาช็อป

7-11 ลุย ห้างออนไลน์ ขนทัพสินค้า 2 ล้านไอเท็มมัดขาช็อป
image credit :japantimes.co.jp

7-11 ลุย “ห้างออนไลน์” ขนทัพสินค้า 2 ล้านไอเท็มมัดขาช็อป

การช็อปปิ้งออนไลน์เป็นเทรนด์ที่มาแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในธุรกิจค้าปลีก ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาสินค้าหลายแบรนด์ต้องหันไปเปิดช่องทางออนไลน์ของตน ล่าสุดยักษ์ใหญ่ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ในวงการค้าปลีกของญี่ปุ่นก็ยังต้องปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลง

สำนักข่าว”นิกเคอิ เอเชี่ยน รีวิว” รายงานว่า “เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์” (Seven & i Holdings) บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของแบรนด์และผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” รวมถึงยังมีแบรนด์ค้าปลีกอื่น อาทิ ซูเปอร์มาร์เก็ต “อิโต โยคะโด” (Ito-Yokado) ร้าน “ลอฟท์” (Loft) และห้างสรรพสินค้าในเครือโซโก แอนด์ เซบุ (Sogo & Seibu) ได้ประกาศตัวห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่จะรวมสินค้าจากทุกร้านในเครือเข้าไว้ด้วยกัน เท่ากับว่าจะมีสินค้ากว่า 2 ล้านรายการออกมาให้บริการในช่องทางห้างสรรพสินค้าออนไลน์นี้ โดยมีการเลื่อนกำหนดเปิดให้เร็วขึ้น และความชัดเจนของระบบสั่ง-รับสินค้าที่ไม่เหมือนช่องทางออนไลน์ปกติ

ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ “ออมนิเซเว่น” (Omni7) ที่จะเปิดตัวในวันที่ 1 พ.ย. 58 เร็วกว่ากำหนดเดิม 10 วันนี้ จะมีสินค้ากว่า 1.8 ล้านรายการจากทุกแบรนด์ค้าปลีกในเครือเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ ตั้งแต่ระดับร้านสะดวกซื้อไปจนถึงสินค้าขึ้นห้าง รวมถึงในอนาคตจะเพิ่มสินค้าไพรเวตแบรนด์ทั้งกลุ่มอาหาร และของใช้ประจำวันที่จะขายในช่องทางนี้เท่านั้นเข้าไปด้วย โดยอาศัยการร่วมมือกับพันธมิตร เช่น ยูนิโคล่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา

ทั้งนี้ คาดว่าในปีงบประมาณ 2561 ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ “ออมนิเซเว่น” จะมีสินค้าเพิ่มเป็น 3 เท่า หรือไม่น้อยกว่า 6 ล้านรายการ อย่างไรก็ตาม สินค้าที่วางขายจะถูกจำกัดเฉพาะรายการที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาพอที่จะขนออกจากร้านสาขาได้เท่านั้น

ในส่วนของการสั่งสินค้านั้นลูกค้าจะต้องสั่งผ่านแท็บเลตพิเศษที่ติดตั้งอยู่ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น โดยทางสาขานั้น ๆ จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งเรื่องเก็บเงินค่าสินค้า การคืนสินค้าและคืนเงินกรณีเกิดปัญหาขึ้น นอกจากนี้ พนักงานในร้านยังสามารถใช้ช่องทางนี้สั่งสินค้าเข้าร้านได้อีกด้วย

สำหรับการรับส่งสินค้านั้นจะมีออปชั่นให้เลือกทั้งแบบรับที่สาขาของเซเว่นอีเลฟเว่น และแบบส่งถึงบ้าน โดยจะยังมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่อยู่ เช่น การรับที่ร้านสาขานั้นจะไม่มีค่าขนส่ง แต่ในระยะแรกจะจำกัดจุดรับเพียง 18,000 สาขาเท่านั้น ส่วนบริการส่งถึงบ้านจะครอบคลุมน้อยกว่า คือ จำกัดเพียงย่านใกล้เคียงร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 7,000 สาขาในพื้นที่กรุงโตเกียวเท่านั้น โดยจะใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง คิดค่าส่งแบบเหมาที่ 300 เยน หรือประมาณ 90 บาท ทั้งนี้ ในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะขยายบริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

นอกจากนี้ จะมีการรวมฐานข้อมูลสมาชิกจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่บริษัทเปิดให้บริการอยู่ก่อนแล้ว เช่น “เซเว่น เน็ต ช็อปปิ้ง” (Seven Net Shopping) เข้ากับฐานข้อมูลของ “ออมนิเซเว่น” อีกด้วย

โดย “ออมนิเซเว่น” จะเป็นเสาหลักสำหรับธุรกิจค้าปลีกของเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ ตามโรดแมปที่จะผสมผสานช่องทางขายรูปแบบต่าง ๆ เอาไว้ด้วยกัน เพื่อให้การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคในทุกช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ มีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ด้านรายได้นั้น ในแถลงการณ์ระบุว่า ได้วางเป้ายอดขายจากช่องทางออนไลน์ทั้งหมดไว้ที่ 1 ล้านล้านเยน ภายใน 3 ปี จากยอด 1.6 แสนล้านเยนเมื่อปีงบประมาณ 2557 ที่ผ่านมา

แม้ในช่วงเริ่มต้นนี้จะยังมีข้อจำกัดหลายด้าน แต่ด้วยสาขาที่ครอบคลุมและรายการสินค้ามหาศาล การเคลื่อนไหวของเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ในครั้งนี้น่าจะสร้างแรงสะเทือนในวงการค้าปลีกออนไลน์และออฟไลน์ของญี่ปุ่นไม่น้อย ซึ่งต้องจับตาดูว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ จะรับมืออย่างไรต่อไป

7-11 ลุย ห้างออนไลน์ ขนทัพสินค้า 2 ล้านไอเท็มมัดขาช็อป
image credit : urbanresearch.wordpress.com

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.prachachat.net

แสดงความคิดเห็น