8 สิ่งต้องรู้ก่อนเริ่มทำธุรกิจ

ในการเริ่มต้นธุรกิจการเตรียมตัวถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก คุณอาจเริ่มด้วยเรียนรู้ด้วยตัวของเอง แต่การเตรียมตัวที่ดีที่สุดคือการเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญที่เคยผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มาก่อนแล้ว บทความนี้เป็นการรวบรวมการเตรียมตัวของผู้มีประสบการณ์ในเริ่มต้นธุรกิจทั้ง 8 ข้อ

1.การเป็นผู้ประการและการดำเนินธุรกิจเปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอน
ผู้ประกอบการจำนวนมากมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและวางแผนปรับเปลี่ยนธุรกิจด้วยการวางแผนเวลาเพียงไม่กี่ปี แต่สิ่งต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คุณต้องเรียนรู้ว่าการสร้างธุรกิจที่ดีต้องวางแผนในระยะยาวมองหาความเป็นไปได้ และเรียนรู้ว่าการทำธุรกิจคือการวิ่งมาราธอนไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น

2.ตรวจสอบให้มั่นใจว่าสินค้าหรือบริการของคุณเป็นที่ต้องการในตลาด
บริษัทที่ดีต้องมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องและเตรียมแผนการสำหรับวิกฤติต่างๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เป็นต้น ก่อนที่จะเริ่มต้นดำเนินธุรกิจคุณต้องวิเคราะห์ตลาดของคุณให้มั่นใจว่าสินค้าหรือบริการของคุณเป็นที่ต้องการของพวกเขา และในการขายแต่ละครั้งควรมีกำไรไม่ต่ำกว่า 50% เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมต่อสภาวะต่างๆ การเตรียมตัวให้พร้อมเสมอถือเป็นสิ่งที่ควรนึกถึงไว้ตลอดเวลา

3.ตระหนักเสมอว่าคุณไม่สามารถทำให้มันสมบูรณ์แบบได้ในครั้งแรก
อย่ามัวแต่รวบรวมข้อมูลสิ่งต่างๆเพราะการจะประสบความสำเร็จได้นั้นคุณต้องเริ่มต้นลงมือทำ จากนั้นเรียนรู้และวิเคราะห์สิ่งต่างๆที่ได้รับจากการลงมือทำ คุณไม่สามารถทำให้มันสมบูรณ์แบบได้ในครั้งแรกที่ลงมือ หรือแม้ในครั้งที่สองหรือสามก็อาจไม่สมบูรณ์แบบแต่หากคุณทำมากขึ้นและมากขึ้นประสบการณ์ที่สั่งสมในการลงมือทำนั้นจะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเรียนรู้ที่จะสร้างผลกำไรและการบริหารผลกำไรนั้นๆให้เติบโต เมื่อคุณล้มเหลวให้พิจารณาข้อผิดพลาดเหล่านั้นและทำมันให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป วิธีเดียวที่คุณล้มเหลวอย่างแท้จริงคือการที่คุณยอมแพ้และล้มเลิก

4.มั่นใจว่าคุณมีเงินทุนเพียงพอ
เกือบครึ่งหนึ่งของธุรกิจขนาดเล็กทั้งหมดล้มเหลวด้วยเหตุผลที่ว่าเงินทุนไม่เพียงพอ การผิดพลาดส่วนใหญ่เกิดขึ้นในขั้นตอนการวางแผน และการใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ในการสร้างผลกำไร คุณต้องทำให้แน่ใจว่าคุณมีแหล่งเงินทุนสำรองเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจของคุณ ระยะเวลาเริ่มต้นในการทำกำไรของแต่ละธุรกิจนั้นย่อมแตกต่างกันและความล้มเหลวนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ แต่หากคุณมีเงินทุนเพียงพอคุณจะลดโอกาสที่จะล้มเหลวลงอย่างมาก

5.อย่าลืมนึกถึงสิ่งที่คุณขาย
ผู้ประกอบการหลายคนมุ่งไปที่การทำการตลาดและค้นหาแนวทางที่จะขายสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภค ข้อนี้ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ขาดความตระถึงสินค้าของตนเองทั้งในการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ หากสินค้าและบริการของคุณไม่ดีพอการทำการตลาดที่ดีอาจไม่ส่งผลเท่าที่ควร การมองหาข้อบกพร่องของสินค้าและแก้ไขมัน รวมถึงการสอบถามความคิดเห็นจากผู้บริโภคถือเป็นสิ่งที่จำเป็น ดังนั้นอย่าลืมที่จะนึกถึงสิ่งที่คุณเสนอให้กับผู้บริโภค

6.เตรียมพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน
โรงเรียนธุรกิจไม่สามารถสอนบทเรียนที่คุณได้รับจากการลงมือทำได้เพราะการปฏิบัติจริงกับทฤษฎีนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างมาก คุณอาจคิดว่าแผนธุรกิจของคุณเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วนั่นเป็นความคิดที่ผิด คุณต้องเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นสภาวะเศรษฐกิจ และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ดังนั้นการเตรียมที่จะปรับเปลี่ยนเป็นสิ่งที่จำเป็นคุณต้องวิเคราะห์ความต้องการของตลาดและพัฒนาแผนธุรกิจของคุณให้สอดคล้องกับมัน

7.ฟังเสียงความต้องของลูกค้า
การเริ่มธุรกิจนอกจากการวางแผนธุรกิจและผลิตสินค้าหรือบริการแล้ว สิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกับที่กล่าวมาคือการฟังเสียงความต้องการของลูกค้า คุณอาจคิดว่าผลิตภัณฑ์ของคุณเหมาะสมและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค แต่จะดีกว่าไหมหากคุณได้รับรู้ความต้องการของพวกเขาโดยตรงแทนการคาดเดาความต้องการของพวกเขา โปรดจำไว้เสมอว่าลูกค้าของคุณเป็นคนกำหนดว่าธุรกิจของคุณจะสามารถดำเนินได้ต่อไปไม่ใช่แผนธุรกิจของคุณเพียงอย่างเดียว

8.แก้ไขปัญหา
หากรับรู้ถึงข้อผิดพลาดในธุรกิจของคุณแล้วอย่าละเลยที่จะแก้ไขมัน การแก้ไขปัญหาถือเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของคุณ คุณจำเป็นต้องรับรู้ถึงปัญหาและค้นหาแนวทางการแก้ไข ปัญหากับการดำเนินธุรกิจถือเป็นของคู่กันไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ปัญหาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทำความเข้าใจกับปัญหาต่างๆค้นหาแนวทางการแก้ไข ซึ่งระหว่างการดำเนินงานนั้นอาจเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับคุณได้อีกด้วย

แสดงความคิดเห็น