กรณีศึกษาสำเพ็ง-ประตูน้ำ ผลกระทบจาก Digital Disruption
ช่วงที่ผ่านเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับ “สำเพ็ง-ประตูน้ำ” ที่เป็นแหล่งขายส่งยอดฮิตขวัญใจพ่อค้าแม่ค้ามาทุกยุคทุกสมัย แต่ ณ ปัจจุบันกลับเงียบเหงา คนเดินน้อยลง พ่อค้าแม่ค้าที่สำเพ็ง-ประตูน้ำ อาจจะเพราะว่า เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้กำลังซื้อหายไป คนไม่ค่อยจับจ่ายใช้สอยเท่าไหร่ แต่ถ้าเราลองมองในอีกมุมนึงอาจจะไม่ได้เพราะเศรษฐกิจไม่ดีก็เป็นไปได้ แต่อาจจะเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากการเข้ามาของโลกดิจิทัลมากกว่าหรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Digital Disruption หรือเปล่า ?
หลังจากที่มี E-Commerce Marketplace อย่าง Lazada Shopee AliExpress หรืออย่าง Grab ที่ช่วยทำให้เราสามารถซื้อของได้ทุกที่ทุกเวลาของแค่มีมือถืออยู่ที่ตัวเรา แล้วจากการถามพูดคุยกับหลาย ๆ คนก็ลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าเวลาที่อยากซื้อของแล้วอยากลองอยากจับสินค้าก่อนซื้อ ก็จะเดินไปห้างสรรพสินค้า ถ้าถูกใจก็จะกดเข้า Online Marketplace ต่าง ๆ เพื่อเปรียบเทียบราคา เพราะการซื้อผ่าน Online Marketplace สะดวกสบายส่งตรงถึงหน้าบ้านไม่ต้องขนกลับบ้านเอง แล้วก็ยังมีส่วนลดต่าง ๆ ที่ทำให้ราคาของสินค้าโดยรวมถูกกว่าซื้อหน้าร้านอีกต่างหาก พอกลุ่มลูกค้าเรามี “ช่องทาง” ในการเข้าถึงสินค้าที่ทั้งถูกกว่าและสะดวกกว่า ก็ไม่แปลกที่พ่อค้าแม่ค้าที่มีหน้าร้านจะขายของได้น้อยลง ในกรณีของ พ่อค้าแม่ค้าที่ขายอยู่ที่ประตูน้ำ-สำเพ็ง เรียกได้ว่าถูก Digital Disruption เข้าไปเต็ม ๆ แน่นอนว่าถ้าไม่มีการปรับตัวเลยไม่น่าจะอยู่รอดต่อในยุคนี้ได้ เพราะพฤติกรรมของคนจะเริ่มเปลี่ยนเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้นอย่างแน่นอน นั้นแปลว่าถ้าอยากจะอยู่รอดในโลกดิจิทัลแบบนี้ต้องมีการปรับตัวในเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
1. ต้องปรับ Online ให้เป็น “ช่องทาง” เพื่อคว้าโอกาสมากขึ้นไม่ใช่คู่แข่ง
พ่อค้าแม่ค้าหลาย ๆ คนที่ไม่มีการปรับตัวมักจะมองว่าช่องทางออนไลน์เป็นคู่แข่ง แต่ในความเป็นจริง Online Platform ต่าง ๆ นั้นก็ตัวเราเองก็สามารถพาตัวเราขึ้นไปอยู่บนนั้นได้เช่นกัน ขอแค่เรารู้จักวิธีการทำ Online Marketing ทั้งการโพสรูป จัดหน้าร้านบนโลกออนไลน์ให้น่าดึงดูด รวมถึงการยิงโฆษณา เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเรา รวมถึงการเลือก Platform ที่เหมาะสมกับสินค้าก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
2. พัฒนาตัวเองเข้าสู่ Omni Channel
Omni Channel เป็นการควบรวมช่องทาง Online และ Offline เข้าด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นคำตอบของค้าปลีกยุคใหม่เลยก็ว่าได้ เพราะว่าเป็นวิธีการที่มองจากพฤติกรรมของลูกค้าเป็นหลักและนำเสนอช่องทางที่เหมาะกับลูกค้าที่สุด ทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างเต็มที่ เช่น การที่เรามีการแจกส่วนลดหรือแจกของแถมต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ จากนั้นก็สามารถให้ลูกค้าเข้ามาใช้ส่วนลดได้ที่หน้าร้านของเรา ก็จะเป็นการหาลูกค้าบนโลกออนไลน์เพื่อให้เข้ามาใช้บริการนั้นเอง การนั้นก็สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าที่เรามาใช้บริการเพื่อไปพัฒนาคุณภาพของการบริการต่อได้อีกเป็นต้น
⋙ การปรับตัวสำหรับคนที่ทำธุรกิจนั้นเป็นเรื่องที่ต้องทำกันมาในทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว เพียงแต่ในยุคดิจิทัลนั้นการเปลี่ยนแปลงมาเร็ว มาแรง และมาถี่มากกว่ายุคอื่น ๆ ที่ผ่านมา ทำให้คนที่ตามโลกไม่ทัน ปรับตัวไม่ได้ เริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องเท่านั้นเอง สุดท้ายแล้วปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Digital Disruption เป็นสิ่งที่บังคับให้ทุกธุรกิจต้องรู้จักการปรับตัว และนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เข้ากันธุรกิจของเรา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันและการพัฒนาเพื่อให้ยั่งยืนมากขึ้น
แหล่งที่มา – tmbbank.com