“ชาบูแลป” ยกห้องทดลองวิทยาศาสตร์มาไว้ในร้านชาบู สีสันร้านชาบูกลางสยามฯ
“ชาบูแลป” ยกห้องทดลองวิทยาศาสตร์มาไว้ในร้านชาบู สีสันร้านชาบูกลางสยามฯ

“ชาบูแลป” ยกห้องทดลองวิทยาศาสตร์มาไว้ในร้านชาบู สีสันร้านชาบูกลางสยามฯ

“ชาบูแลป” ยกห้องทดลองวิทยาศาสตร์มาไว้ในร้านชาบู สีสันร้านชาบูกลางสยามฯ

“ชาบูแลป” ยกห้องทดลองวิทยาศาสตร์
มาไว้ในร้านชาบู สีสันร้านชาบูกลางสยามฯ

“ชาบูแลป” อีกหนึ่งร้านชาบูที่กำลังได้รับความนิยมชมชอบและถูกพูดถึงไม่น้อยในตอนนี้ อย่างที่เรารู้กันว่าธุรกิจร้านชาบูเป็นช่องทางทำเงินที่น่าสนใจ สืบเนื่องมาจากพฤติกรรมคนทานอาหารในยุคปัจจุบันให้ความสนใจกับร้านชาบูอย่างมาก หรืออาจกล่าวได้ว่าเมนูชาบูเป็นอีกหนึ่งเมนูขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และสามารถสร้างรายได้ที่เหมาะสมให้กับผู้ประกอบการ แต่ด้วยความฮิตติดชาร์จก็ทำให้ร้านชาบูผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด นำมาซึ่งการแข่งขันที่สูงลิบเช่นกัน ฉะนั้นร้านใหม่ๆ จึงต้องหาแนวคิดสร้างสรรค์มาปรับใช้เพื่อต่อสู้กันในตลาด

ชาบูแลป (Shabu Lab) ถือเป็นอีกหนึ่งร้านชาบูเกิดใหม่ในสยามสแควร์ที่มาพร้อมกับไอเดียการเสิร์ฟที่น่าสนใจ พร้อมต่อสู้กับคู่แข่งในตลาดด้วยแนวคิดสร้างสรรค์ จากการรังสรรค์ร้านให้เป็นห้องทดลองวิทยาศาสตร์หรือห้องแลปนั่นเอง เหมาะสำหรับเด็กสายวิทย์สุดๆ หรือเด็กสายศิลป์ที่อยากสัมผัสกับบรรยากาศในห้องทดลองบ้างก็สามารถมานั่งทานชาบูที่ร้านนี้ได้ รับรองว่าเข้าถึงบรรยากาศที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวันของตนอย่างแน่นอน

“ชาบูแลป” ยกห้องทดลองวิทยาศาสตร์มาไว้ในร้านชาบู สีสันร้านชาบูกลางสยามฯ

การตกแต่งร้านชาบูแลปที่ว่ามาในคอนเซปต์ของห้องทดลองก็คือเริ่มจากอุปกรณ์ที่ใช้ อย่าง “หลอดทดลอง” ที่นำมาใช้ในการปรุงน้ำซุปเพื่อเสิร์ฟให้ลูกค้า จากเดิมทีหน้าที่ของมันคือการตวงสารและผสมสารที่ต้องการทดลองให้ห้องแลป ต่อมาที่ “บีกเกอร์” อีกหนึ่งภาชนะสำหรับตวงสาร บรรจุสารที่มีความร้อน หรือผสมสารให้ทำปฏิกิริยากัน รวมทั้งบรรจุน้ำที่เดือดเพื่อต้มสารในหลอดทดลองเล็กอีกที หน้าที่ของมันเกี่ยวข้องกับการทดลองเช่นกัน แต่ที่ชาบูแลปได้มีการนำมาประยุกต์ให้เป็นแก้วน้ำสำหรับดื่ม ซึ่งลูกค้าของร้านจะได้ดื่มน้ำจากบีกเกอร์นั่นเอง

“ชาบูแลป” ยกห้องทดลองวิทยาศาสตร์มาไว้ในร้านชาบู สีสันร้านชาบูกลางสยามฯ

นอกจากนี้ภายในร้านชาบูแลปเด็กๆ ทุกคนจะนั่งหันหน้าไปทางเดียวกัน บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในห้องเรียน เหมือนนั่งทานชาบูไปเรียนวิทยาศาสตร์ไปยังไงอย่างนั้น แต่มันก็น่าลองไปอีกแบบ และที่สำคัญภายในร้านยังขาวสะอาดและโปร่งสบายตามากๆ ดูสะอาดและไม่อึดอัด นอกจากนี้ยังมีการต้มไข่ออนเซ็นแบบไฮเทคที่คนต้มยังสวมแว่นตากันสารเคมีอีกด้วย ไอเดียของร้านนอกจากจะให้บรรยากาศแบบห้องแลปแล้วยังตอบโจทย์นักถ่ายภาพและนักแชร์ในโลกออนไลน์อีกด้วย ใครที่ชอบถ่ายรูปกับร้านอาหารสวยๆ เก๋ๆ และแปลกใหม่รับรองได้เลยว่าที่ชาบูแลปจะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน

ทั้งนี้นอกจากนี้ในการทานลูกค้ายังสามารถปรุงน้ำซุปและน้ำจิ้มได้ด้วยตัวเอง เสมือนเป็นการแก้โจทย์ความอร่อยด้วยตัวเองคล้ายกับการทดลองผสมสารให้ห้องแลปอีกด้วย โดยในการปรุงน้ำซุปลูกค้าก็สามารถเอาหลอดทดลองมาตวงส่วนผสมตามสเกลได้เลย เพื่อรสชาติที่ลงตัวตามโจทย์ที่ตัวเองวางเอาไว้

สำหรับราคาของร้านชาบูแลปอยู่ที่ 379 บาท เสิร์ฟแบบบุฟเฟ่ต์ไม่จำกัดเวลา จะนั่งนานเท่าไรก็ได้ตามใจลูกค้าเลย น้ำซุปที่นี่มีให้เลือกทั้งหมด 5 สูตรด้วยกัน ได้แก่ น้ำใส น้ำซุปหมาล่า น้ำซุปกิมจิ น้ำซุปต้มแจ่ว และน้ำซุปสุกี้ดำ โดยน้ำซุปใสจะมีรสชาติเค็มนิดๆ คล้ายกับน้ำซุปปลา ส่วนซุปหมาล่าเป็นซุปรสเผ็ดและเค็มกลมกลืนกัน ต่อมาที่ซุปกิมจิก็จะเป็นรสชาติเค็มเปรี้ยวแบบรสกิมจิ ซุปต้มแจ่วเป็นรสชาติคล้ายต้มยำแต่ไม่เหมือนซะทีเดียว สุดท้ายที่น้ำซุปสุกี้ดำที่มีกลิ่นหอมของโซยุปนเข้ามาอย่างลงตัว

ต่อที่เนื้อสัตว์กันบ้างที่นี่มีทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัว ซึ่งเนื้อวัวจะเป็นเนื้อนำเข้าจากออสเตรเลีย มีให้เลือกทั้งแบบมันเยอะและมันน้อย ส่วนหมูมีให้เลือก ได้แก่ หมูสามชั้น และหมูสันคอ ทางร้านคัดสรรเนื้อเกรดพรีเมี่ยม พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดให้เลือกหลากหลายมาก

https://www.facebook.com/soimilkbangkok/videos/797609060408881/

ข้อมูลติดต่อชาบูแลป
ที่อยู่ : 430/11-12 สยามสแควร์ ซอย 10 ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ : 02 251 7558
Facebook : @Shabulabthailand

หมายเหตุ รูปภาพและวีดิโอที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณวีดิโอจาก : Soimilk

แสดงความคิดเห็น